ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุก สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยฮีโร่โอลิมปิกคดีพรากผู้เยาว์ 4 ปี 8 เดือน แต่ให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมแก่ญาติผู้เสียหายและผู้เสียหาย
สืบเนื่องจากพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกมวยเหรียญทองโอลิมปิก และ นายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา น้องคนสนิทของสมรักษ์ ตกเป็นซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์มารับ สมรักษ์ และ น.ส. เอ อายุ 17 ปีจากเหตุการณ์ "สมรักษ์" พาน.ส. เอ จากสถานบันเทิงพาไปที่โรงแรมในเมืองขอนแก่น กระทั่งกลายเป็นคดีความเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา
โดย สมรักษ์ คำสิงห์ ถูกแจ้งข้อหา 4 ข้อหา คือ ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดามารดา หรือผู้ปกครองตาม ป.อาญามาตรา 318, ข้อหาร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ยังไม่เกิน 18 ปีไปเพื่อการอนาจารตาม ป.อาญา มาตรา 283, ข้อหากระทำอนาจารแก่คนอายุเกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายตาม ป.อาญามาตรา 278 และข้อหาพยายามข่มขืนผู้อื่นใช้กำลังประทุษร้ายตาม ป.อาญามาตรา 76 และมาตรา 80 ส่วนนายพิเชษฐ์ ถูกสั่งฟ้องรวม 2 ข้อหาคือข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ และ ข้อหา ร่วมกันพาบุคคลอื่นไปทำอนาจาร
ล่าสุดเมือเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยฮีโร่โอลิมปิก และ นายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา หรือ "เป๊กโก้" เดินทางไปศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อฟังคำพิพากษา โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายเบิกความตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเบิกความเชื่อมโยงกัน หากไม่ประสบเหตุจริงที่เป็นเรื่องน่าอับอาย เชื่อว่าไม่มีจริตเสแสร้ง เอาความเท็จมาแจ้ง ซึ่งอาจถูกดำเนินการเอาผิดในภายหลัง
สอดคล้องผลการชันสูตรบาดแผล ร่องรอยความรุนแรงที่พบตามร่างกาย ที่ผู้เสียหายให้การว่า จำเลยที่ 1 พยายามข่มขืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่ไม่บรรลุผล เพราะดิ้นขัดขืน
ข้อต่อสู้จำเลยว่า ผู้เสียหายยินยอม ขัดกับคำเบิกความพยานแวดล้อม รวมทั้งบาดแผลย่อมไม่เกิดขึ้น หากผู้เสียหายยินยอม การที่ผู้เสียหายเดินตามไป ไม่ได้หมายความว่า จะยินยอมมีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้มีการพูดถึงการค้าประเวณี การนำสืบยังไม่พบว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง และหักล้างพยานโจทก์ได้
ศาลจึงพิพากษาจำคุกรวม 4 ปี 8 เดือน จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ญาติ 50,000 บาท และผู้เสียหาย 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่กระทำละเมิด ส่วนจำเลยที่ 2 นายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา ให้ยกฟ้อง
สมรักษ์ คำสิงห์ กล่าวสั้นๆ หลังฟังคำพิพากษา ว่า "ต้องสู้ต่อ" ขณะที่ทนายความระบุว่า ยังมีประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องวินิจฉัยเพิ่มเติม โดยเตรียมขอประกันตัว และยื่นอุทธรณ์ต่อไป
ภาพจาก : เพจ สมรักษ์ คำสิงห์