คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินหน้าโครงการกิจกรรม "อะเมซิ่ง มวยไทย มาสเตอร์ คลาส โกลบอล ทัวร์ 2024" (Amazing Muay Thai Master Class Global Tour 2024) ต่อเนื่องเป็นประเทศที่ 7 และประเทศสุดท้ายของการจัดกิจกรรม ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 17-20 ต.ค.2567 ที่ประเทศสิงคโปร์ หลังก่อนหน้านี้ออกโร้ดโชว์มวยไทย มาแล้ว 6 ประเทศ ประกอบด้วย อังกฤษ, ออสเตรเลีย, แคนาดา, สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส และอิตาลี

ทั้งนี้เมื่อ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกิจกรรม อะเมซิ่ง มวยไทย มาสเตอร์ คลาส โกลบอล ทัวร์ 2024 เป็นการเปิดคลีนิคมวยไทย โดยกิจกรรมจัดขึ้นที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ สิงคโปร์ ได้รับเกียรติจาก อุรีรัตชต์ เจริญโต เอกอัครราชฑูตไทยประจำสิงคโปร์ เป็นประธาน  โดยมี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วย นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพและมวย และ พลเอก อรชัย บุญสุขจิตเสรี อนุกรรมการซอฟท์พาวเวอร์ด้านกีฬา ร่วมงาน

กิจกรรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน มีทุกกลุ่มและทุกเพศวัยที่เข้าร่วม ซึ่งส่วนมากจะเป็นชาวสิงคโปร นอกจากนี้ยังมีเพื่อนบ้านจากประเทศใกล้เคียงลงทุนบินมาร่วมกิจกรรมนี้ด้วย อาทิ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์  โดยกิจกรรมเริ่มขึ้นด้วยการเดินแฟชั่นโชว์มวยไทย ต่อด้วยโชว์ไหว้ครูมวยไทย จากนั้นเข้าสู่คลินิกมวยไทย "ศาสตร์แห่งการออกอาวุธทั้ง 8" โดยมี สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง พร้อมด้วย สิงห์ดำ เกียรติหมู่9 และ ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ 3 ซูเปอร์สตาร์มวยไทย สลับกันออกมาสาธิตเทคนิคเทคนิคแม่ไม้มวยไทยแบบใกล้ชิดสุดๆ

ภายหลังจบคลีนิคมวยไทย นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ยังได้มอบป้าย Standard Muaythai Gym หรือ SMG ให้กับค่ายมวยไทยในสิงคโปร์ที่ผ่านมาตรฐานการรับรอง ซึ่งมี 10 แห่ง อาทิ Evolve MMA (Far East Square), BXG Boxing-Fitness,  Hilltop Academy และ Eminent Gym นอกจากนี้เเล้วผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนยังได้ลิ้มลองรสชาติอาหารไทยทั้ง ผัดกระเพรา, ผัดไทย เเละเเกงมัสหมัน หลังจบการรับมอบเกียรติบัตรสำเร็จหลักสูตรมวยไทยด้วย

ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ เผยว่า ต้องบอกว่าผู้เข้าร่วมฝึกฝนถ้าตั้งใจฝึกมวยไทยอย่างจริงจังมาก ดังนั้นหากได้รับการส่งเสริม หรือได้รับทักษะมวยไทยที่ถูกต้อง ก็มีโอกาสที่จะมีความชำนาญในกีฬามวยไทยไม่แพ้คนไทย บางรายมีความสามารถถ้าฝึกฝนมากและไม่ล้มเลิกก่อน ตนมองว่าสามารถไปต่อถึงขั้นเป็นนักกีฬาอาชีพได้เลยทีเดียว

พลเอก อรชัย บุญสุขจิตเสรี อนุกรรมการซอฟท์พาวเวอร์ด้านกีฬา เปิดเผยว่า กิจกรรมมาสเตอร์คลาสที่สิงคโปร์ ถือเป็นครั้งที่ 7 แล้ว ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดยสิงคโปร์ที่เป็นประเทศสุดท้ายสามารถจัดได้อย่างยอดเยี่ยมประทับไม่แพ้ 6 ประเทศก่อนหน้า ซึ่งทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬายังยืนยันเป้าหมาย คือ เรานำนักมวยที่มีชื่อเสียงจากประเทศไทยซึ่งเป็นแชมป์ทั้งปัจจุบันและอดีตมาฝึกสอนแม่ไม้มวยไทยให้กับคนที่เรียนมวยไทยในต่างประเทศ สำหรับมวยในต่างประเทศส่วนใหญ่ผู้ฝึกสอนโค้ชเทรนเนอร์ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ น้อยมากที่จะเป็นคนไทย เนื่องจากติดปัญหาค่าจ้างที่แพง คุณสมบัติบางคนมาต่างแดนยาก เอกสารบางคนมีแค่วิชามวยผ่านเวิร์คเพอร์มิตยาก

"สุดท้ายเป้าหมายก็คือให้พวกเขาเข้าไปฝึกสอนมวยไทย รวมถึงได้ค่าจ้างเลี้ยงตัวเองและครอบครัวและท่องเที่ยวด้วย ซึ่งทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬามีจัดเตรียมวีซ่า เพื่อฝึกสอน ท่องเที่ยวให้คนไทยได้อยู่ยาวๆถึง 90 วัน คือเป้าหมายของรัฐบาลเพื่อจะส่งเสริมการท่องเที่ยว สำหรับประเทศสิงคโปร์แม้จะเป็นชาติเล็กๆประชากรไม่มากแต่ว่าผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามาเรียนถือว่าเกินเป้า หมายถึงว่ามีคนชอบชื่นชมศิลปะแม่ไม้มวยไทยเข้ามาเรียนกับเราถือว่าประสบความสำเร็จเหมือนที่ผ่านมา"