ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.67 ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วย นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นายธีรวัฒน์ ศิลปอาชา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมพัฒนากีฬามวย กกท. และนางนภาพร ผิวอ่อน ผู้อำนวยการกองจัดทำงบประมาณด้านสังคม 4 สำนักงบประมาณ และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมยิมมวยไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบค่ายมวยไทยในกรุงปารีส จำนวน 2  แห่ง จากทั้งหมด 6 ค่าย คือ มวยไทย อะคาเดมี 95 ยิม และ โคลอมเบส์ มวยไทย ยิม ก่อนได้มอบป้าย Standard Muaythai Gym หรือ SMG เป็นการรับรองการผ่านมาตรฐานยิมมวยไทย

พล.อ.อรชัย บุญสุขจิตเสรี อนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้เรามาจัดที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเราได้มาตรวจค่ายมวย และรับรองมาตรฐานค่ายมวยไทย ซึ่งตนมีข้อสังเกตว่าค่ายมวยไทยที่ฝรั่งเศสแตกต่างจากหลายประเทศที่เราไปมาก่อนหน้านี้ เพราะส่วนใหญ่ตามที่เรามาตรวจในฝรั่งเศสจะเป็นค่ายมวยไทยที่อยู่ในศูนย์กีฬาของรัฐบาล ซึ่งได้มีการสนับสนุน ทำให้ผู้ที่มาสมัครเรียนมวยไทยก็จะมีค่าใช้จ่ายต่ำอยู่ที่ราว 150-200 ยูโร บางค่ายก็ไม่เกิน 200 ยูโร ต่างจากค่ายอื่นที่เราไปตรวจมาจะเป็นของเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายแพงกว่า

"ค่ายมวยไทยที่ฝรั่งเศส รัฐบาลดำเนินการให้หมดเลย โดยจ่ายค่าชดเชยให้บางส่วน สถานที่ก็ใช้ศูนย์กีฬาของรัฐบาล ทำให้สมาชิกคนเรียนมวยไทยที่นี่เยอะมาก กระแสดีมาก แต่ละยิมมีประมาณ 200-300 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมาตรฐานยิมมวยไทยที่ฝรั่งเศสเขาเรียนรู้การฝึกสอนมวยไทยมานาน เพราะได้รับการสืบทอดจากอดีตครูมวยเก่าๆ เพราะฉะนั้นการสอนของครูมวยชาวต่างชาติของเขาต่างก็มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี"

พล.อ.อรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสต่อไป กกท.มีแผนจัดครูมวยไทยมาสอนที่ฝรั่งเศส และรับรองให้มีใบอนุญาต รวมทั้งสอนแม่ไม้มวยไทยเพิ่มเติม เป็นการเติมเต็มให้เขามีความสามารถเท่ากับครูมวยไทยชาวไทย เพื่อให้มีการสอนสมาชิกของเขาให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทาง กกท.ก็มีแผนว่าหลังจากนี้อาจจะเป็นปีหน้าในปีงบประมาณ 2568 ก็อาจจะมีการจัดการแข่งขันมวยไทย โดยเชิญยิมมวยไทยต่างๆ ที่เราไปตรวจ ถือว่าเป็นสมาชิกของเราแล้ว ส่งนักมวยเข้ามาแข่งขันกับเรา และเราก็จะนำนักมวยไทยดังๆ บางคนจากเมืองไทยมาต่อยด้วย อาจจะจัดให้นักมวยไทยต่อยกับนักมวยฝรั่งเศส หรือให้เขาต่อยกันเอง เพื่อสร้างกระแสความนิยมให้มากขึ้น ซึ่งในฝรั่งเศสก็มีความนิยมมากอยู่แล้ว แต่จะทำให้มากขึ้นอีก บางทีอย่างน้อยอาจจะมีบางคนที่สนใจเดินทางไปเรียนมวยไทยที่เมืองไทย ก็จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอีกทางด้วย