การแข่งขันกีฬาต่อสู้โลก "เวิลด์คอมแบทเกมส์ ริยาด 2023" ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อคืนวันที่ 30 ต.ค.66 ปิดฉากการแข่งขันลงเป็นที่เรียบร้อย โดยทัพนักกีฬามวยไทยทีมชาติไทย สามารถทำผลงานผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ทั้งหมด 4 รุ่นที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการชิงชัยในครั้งนี้

รุ่นน้ำหนัก 48 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ "หญิง" นิราวรรณ ตังจิว นักมวยสาวไทยเจ้าของฉายา "เสน่ห์จันทร์ เครื่องดื่มหมีคอมมานโด" ดวลกับ รุดซ์ม่า อาบูบาการ์ คู่ปรับเก่าจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเคยเจอกันในรอบตัดเชือก และนิราวรรณคว้าชัยมาได้ ซึ่งตลอดการชก นิราวรรณ ออกอาวุธแม่ไม้มวยไทยได้เฉียบขาด และเป็นย้ำชัยชนะคะแนนไปได้ 20-18 คะแนน ส่งผลให้นิราวรรณคว้าเหรียญทองแรกให้กับทัพนักมวยไทยได้สำเร็จ

ขณะที่รุ่นน้ำหนัก 67 กก.ชาย รอบชิงชนะเลิศ "เบสต์" อนึ่ง คัฒมารศรี นักมวยไทยเจ้าของฉายา "กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี่" โคจรมาเจอกับ ฮัมซ่า ราชิด นักชกหนุ่มจากโมร็อกโก แต่ปรากฏว่า ก่อนการชกทางแพทย์สนามได้เช็กอาการบาดเจ็บของอนึ่งที่ตาปิดจากการชกรอบที่ผ่านมา และตัดสินไม่อนุญาตให้แข่งขันได้ ส่งผลให้ ฮัมซ่า ราชิด คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วน อนึ่ง คัฒมารศรี ชวดโอกาสคว้าเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย แต่ยังได้เหรียญเงินปลอบใจ

ส่วนรุ่นน้ำหนัก 71 กก.ชาย รอบชิงชนะเลิศ ธเนศ นิตุธร นักชกฉายา "ธนัญชัย ศิษย์สองพี่น้อง" แพ้คะแนนต่อ คอนสแตนติน ชาคห์ทาริน นักกีฬาจากทีม Independent Neutral Athlete (AIN) 27-30 คะแนน ได้เหรียญเงิน ด้านรุ่นน้ำหนัก 57 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ แก้วฤดี คำถากระปุ่ม ฉายา "จอมยุทธเหยิน จ่าแบงค์ดอนเมือง" พ่ายคะแนนเฉียดฉิวต่อ ไบรโอนี่ โซเดน จากออสเตรเลีย 28-29 คะแนน ซิวเหรียญเงินเช่นกัน และนับเป็นเหรียญเงินที่ 3 ของทัพมวยไทย

นอกจากนี้ ทัพนักมวยไทยยังคว้าได้อีก 1 เหรียญทองจากการแข่งขันไหว้ครูมวยไทย วีลแชร์ ประเภทผสม โดยในรอบชิงชนะเลิศ ลาภศิ โชคตันเจริญ โชว์ลีลาไหว้ครูมวยไทยทำได้ 9.28 คะแนน คว้าอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 ฮาสน่า อัลยาจิม จากซาอุดีอาระเบีย 8.92 คะแนน และอันดับ 3 ซัลคาฟลี่ บิน โมห์ด ชาห์รี่ จากมาเลเซีย 8.86 คะแนน ทำให้สรุปผลงานของทัพนักมวยทีมชาติไทย คว้ารวมทั้งหมด 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน

สรุปผลงานของทัพนักกีฬาต่อสู้ทีมชาติไทยในมหกรรมกีฬาต่อสู้โลก "เวิลด์คอมแบทเกมส์ ริยาด 2023" ที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 20-30 ต.ค.ที่ผ่านมา รวมคว้าได้ทั้งหมด 4 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โดยได้จากกีฬายูยิตสู 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และจากกีฬามวยไทย 2 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน ส่งผลให้ทัพไทยจบอันดับ 15 ในตารางรวมเหรียญรางวัล จากทั้งหมด 79 ชาติที่เข้าร่วมการชิงชัย โดยถือเป็นอันดับ 7 ของเอเชีย และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน

สำหรับชาติที่ครองเจ้าเหรียญทองเป็น ยูเครน ทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการคว้าไปได้ถึง 21 เหรียญทอง 17 เหรียญเงิน 15 เหรียญทอง ขณะที่อันดับ 2 เป็นเจ้าภาพซาอุดีอาระเบีย 12 เหรียญทอง 20 เหรียญเงิน 19 เหรียญทองแดง, อันดับ 3 คาซัคสถาน 12 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 23 เหรียญทองแดง, อันดับ 4 Independent Neutral Athlete (AIN) 11 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง และอันดับ 5 ฝรั่งเศส 10 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง