โดยในวันแรกมี 6นักกีฬาของไทยลงทำการแข่งขันดังต่อไปนี้ มีผลดังนี้
- รุ่น 12-13ปี หญิง 42 กก. ด.ญ.เรมินะ ฮิโยชิ ลงประเดิมรายแรกทำผลงานได้น่าประทับใจ พบกับ ซูซานน่า โคตาส (โปแลนด์)โดย เรมินะ ที่ฝึกมวยไทยมาได้ไม่กี่ปีแต่ออกอาวุธได้ดี กล้าแลกกล้าบวกเอาชนะไปได้ 29-28
- รุ่น 16-17ปี ชาย 60 กก. อภิรักษ์ คุนอก พบ เรมี่ มันนท์ (สหราชอาณาจักร) เกมคู่นี้ออกอาวุธแลกกันอย่างสนุก แต่แรงปะทะของ นักชกสหราชอาณาจักรดีกว่า ครบยก อภิรักษ์แพ้ไป 28-29
- รุ่น16-17ปี หญิง 51 กก. มณีวรรณ เคียมการ พบ กามาร์ อัลมานาเซอร์ (จอร์แดน)โดยคู่นี้ มณีวรรณ ออกอาวุธได้เหนือชั้นกว่าไล่ต้อนเอาชนะไปได้ขาดลอย 30-27
- รุ่น16-17ปี หญิง 54 กก. เอวิตรา สอนฤทธิ์ พบ อซูด โคยุนก้า (ตุรกี)นักมวยเจ้าถิ่น เกมคู่นี้เอวิตราทำได้ดีกว่า ไม่หวั่นไหวต่อเสียงเชียร์ของกองเชียร์เจ้าบ้าน ขยันออกอาวุธมากกว่าเอาชนะคะแนน 30-27
- รุ่นยู-23ปี ชาย 57 กก. เกียรติบัณฑิต พื้นบน พบ โดกูกัน เซอมิคิล (ตุรกี) เกมคู่นี้เกียรติบัณฑิต หรือ เพชรไทยแลนด์ อ.กิจเกษม ครบเครื่องกว่าแม้จะแบกพิกัดก็ตาม แต่ไม่มีปัญหาดักเตะ ดักแทงเข่าเน้นเอาชนะน็อกไปในยก2
- รุ่นยู-23ปี ชาย 60 กก. อัษฎาวุธ บุญรัตน์ พบ อาลี ยากอบบี้ (อิหร่าน) คู่นี้อัษฎาวุธเหนือชั้นกว่า กล้าออกอาวุธก่อนโชว์ลีลาเข่าลอยชนะน็อกไปเพียงยก2 ผ่านเข้ารอบไปสวยงาม
นอ.บุญส่ง นวลย่อง หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมเยาวชนไทย เผยว่านักมวยแต่ละคนถือว่าทำผลงานได้ดี ไม่มีตื่นเวทีแม้ว่าบางคนจะออกมาชกต่างแดนหนแรกก็ตาม รายต่อๆไปก็ได้เห็นรูปแบบการชกและการตัดสินแล้วก็รู้ดีว่าต้องชกแบบไหน จะมาคุมเกมไม่ได้ ต้องขยันออกอาวุธเอาไว้ก่อน ชนะในยกแรกให้ได้ จะได้เป็นฝ่ายคุมเกม