ขอเป็นกรณีศึกษา! เสี่ยเอี๊ยงไม่ติดใจทุกเหตุผลอวยพร "แสงอาทิตย์" โชคดี

 กับประเด็นข่าวร้อนในแวดวงกำปั้นช่วงนี้ ที่มีการโพสต์โชว์การเซ็นสัญญาระหว่าง Yokkao ผูผลิตสินค้ามวย ที่มีกลุ่มผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ กับแชมป์มวยดาวรุ่งวัย 19 ปีชาวไทย แสงอาทิตย์ ภูบดินทร์ ยูฮันเงาะ เจ้าของเข็มขัด WBC Asia รุ่น 140 ปอนด์หรือที่รู้จักกันดีว่าอยู่ในครอบครัว"ตระกูลมวย" ที่พี่น้องหลายสิบคนต่างเป็นนักมวยทั้งสิ้น โดยตลอดเวลาเกือบสี่ปีที่ผ่านมา แสงอาทิตย์ ภูบดินทร์ ยูฮันเงาะ อยู่ภายใต้การดูแลปลุกปั้นเข้าสู่วงการกำปั้นโลกตั้งแต่อายุ 13-14 ปี ภายใต้โปรโมเตอร์ แชแม้ นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ ต่อมาในปี 2019 

 โปรโมเตอร์แชแม้ ส่งต่อ แสงอาทิตย์ ภูบดินทร์ ยูฮันเงาะ ให้อยู่กับลูกชาย "เสี่ยเอี๊ยง" โปรโมเตอร์ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ ผู้ก่อตั้ง TL BOXING PROMOTION และเริ่มจัดศึก The Fighter ล่าฝันบัลลังก์โลก สร้างแชมป์โลกรุ่นใหม่ให้กับประเทศไทย และสร้างเส้นทางสู่ฝันให้กับ แสงอาทิตย์ ภูบดินทร์ ยูฮันเงาะ ที่เริ่มขึ้นสังเวียนในรายการมาตั้งแต่ปี 2562 จนเป็นแชมป์โลก WBA Asia รุ่น 140 ปอนด์ และป้องกันเข็มขัดมาแล้ว 10 ครั้ง ซึ่งไฟท์ล่าสุดในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา "เสี่ยเอี๊ยง"ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ นำแสงอาทิตย์ไปป้องกันเข็มขัดที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ พร้อมรับค่าตัว 200,000 บาท 

 ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่โปรโมเตอร์ทวีสิน เหล่าสุวรรณวัฒน์ ได้ดูแลจัดการแข่งขันและกรุยทางสู่การเป็นแชมป์โลกในปัจจุบันผ่านการแข่งขันทั้งสิ้น 19 ไฟท์ โดยข้อตกลงง่ายๆแบบใจต่อใจ"สัญญาใจ ที่ทาง"เสี่ยเอี๊ยง" ในฐานะโปรโมเตอร์ดูแลในเรื่องคู่ชกและโปรแกรมการแข่งขัน ตลอดจนดูแลค่าเหนื่อยก่อนขึ้นชกทุกนัด ในส่วนของ แสงอาทิตย์ ขอดูแลในเรื่องการฝึกซ้อมเตรียมตัวขึ้นชกด้วยตัวเอง แต่แล้วกลับเกิดเหตุการณ์เดือดระอุในวงการมวยขึ้น เมื่อมีการโพสต์จาก Yokkao ผู้ผลิตสินค้ามวยโชว์การเซ็นสัญญาระหว่าง Yokkao และ แสงอาทิตย์ ภูบดินทร์ ยูฮันเงาะ ถึงการเป็นผู้ดูและดำเนินการจัดการแข่งขันให้กับ แสงอาทิตย์ 

 ทำเอา "เสี่ยเอี๊ยง" ที่เพิ่งทราบพร้อมกับคนวงการมวยถึงกับอึ้ง พร้อมย้อนถามตนเองว่าได้ทำอะไรผิดพลาดจนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ได้ให้คำตอบกับตนเองว่า"อาจเป็นเพราะเสียงจากแฟนมวยที่พูดว่าตนดูแลและให้ความเอาใจใส่กับ แสงอาทิตย์ น้อยไป 

 ตนต้องขอทำความเข้าใจกับคำถามนี้ว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็น "สัญญาใจ" ระหว่างตนเอง และแสงอาทิตย์ ตลอดจนคุณพ่อ-คุณแม่ของแสงอาทิตย์ว่า ต้องการฝึกซ้อมเป็นการส่วนตัวที่ค่ายลูกทรายกองดิน เป็นกิจการของครอบครัว แต่ตนเองมีการติดต่อผ่านพี่ชายคนโต คือ ตี๊ฟ ตระกูลมวย  เป็นประจำถึงการฝึกซ้อมตลอดจนความเป็นอยู่ต่างๆ และความพร้อมในการชกรวมถึงส่งคู่ชกในแต่ละไฟท์มาให้พิจารณาก่อนทุกครั้ง ตนคิดถี่ถ้วนแล้วในฐานะโปรโมเตอร์ผู้จัดการแข่งขันว่ามิได้มีข้อบกพร่องแต่อย่างใดและขอชี้แจงแฟนมวยได้เข้าใจโดนทั่วกัน

 ในส่วนลึกของจิตใจคนทำมวยที่ต้องลงทุนก้อนโตในการสร้างนักมวยดาวรุ่งขึ้นมาเป็นแชมป์โลก จะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรก็คงเป็นไปไม่ได้ ตนพร้อมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นกรณีศึกษา แต่ตนเองเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่ไปถามเหตุผลกับ แสงอาทิตย์ ว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนี้โดยไม่มีการพูดคุยกันก่อน ตนเองคิดว่าเมื่อนักมวยได้ตัดสินใจในเส้นทางนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปเหนี่ยวรั้งเอาไว้ และหวังว่าเขาจะประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เลือก