สมาคมกีฬาจักรยานฯ เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์การพัฒนานักปั่นเยาวชน และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ปี 2568-2571 มุ่งเน้นสร้างนักกีฬาสายเลือดใหม่ ขึ้นมาทดแทนนักปั่นรุ่นพี่
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ วางแผนยุทธศาสตร์ในการพัฒนากีฬาสองล้อไทยอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จจนสามารถควอลิฟายนักปั่นไทยเข้าร่วมมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกเกมส์” มาแล้ว 5 สมัยซ้อนนับตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงความสำเร็จในระดับนานาชาติ ระดับภูมิภาค และระดับทวีป มาอย่างต่อเนื่อง
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับในรอบ 4 ปี ของแผนยุทธศาสตร์ “Road to Los Angeles“ ที่จะมุ่งเป้าไปที่ความสำเร็จในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 34 ที่นครลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา จะเป็นเจ้าภาพในอีก 4 ปีข้างหน้า และกีฬาโอลิมปิกเกมส์เยาวชน “Youth Olympic Games 2026” สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ จะให้น้ำหนักไปที่การสร้างนักปั่นสายเลือดใหม่ หรือ “Young Blood” เพื่อก้าวขึ้นมาทดแทนนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ประเภทกีฬาสองล้อ ไม่ว่าจะเป็นประเภทถนน เสือภูเขา บีเอ็มเอ็กซ์ หรือประเภทลู่
ในการจัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ในแต่ละประเภท ตลอดฤดูกาลแข่งขันในแต่ละปี นับตั้งแต่ปี 2568 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2571 ทีมงานของสมาคมจะเก็บข้อมูล สถิติในการแข่งขันของนักปั่นรุ่นยุวชน-เยาชนในแต่ละรุ่นอายุ ซึ่งทางสมาคมฯ กำหนดไว้ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการติดตามพัฒนาการของนักกีฬารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็จะเสริมในเรื่องความรู้ ความเข้าใจในการใช้วิทยาการและวิทยาศาสตร์การกีฬาสมัยใหม่ให้แก่ผู้ฝึกสอนเพื่อเสริมให้การพัฒนานักกีฬาระดับยุวชนและเยาวชนเดินหน้าไปอย่างถูกต้องควบคู่ไปกับการฝึกสอนในเรื่องทักษะด้านกีฬา
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ในปัจจุบัน นักปั่นทีมชาติไทยมีในทุกรุ่นอายุที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ “ยูซีไอ” กำหนด ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเยาวชน อายุไม่เกิน 18 ปี รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และรุ่นประชาชน ที่มีศักยภาพสูงเป็นที่ยอมรับในแวดวงกีฬาสองล้อนานาชาติ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียต่างก็จับตามองพัฒนาการของทีมชาติไทยที่สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ล่าสุด ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นักปั่นไทยก็ได้โควตาไปแข่งขันถึง 4 ที่นั่ง อีกทั้งนักปั่นอย่าง “เฟรม” ส.อ.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ และ “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช ก็ทำผลงานโดดเด่นและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
"แนวทางสำคัญอีกประการในทิศทางการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ดังกล่าว คือการขยายศูนย์ฝึกจักรยานภูมิภาคของสมาคมกีฬาจักรยานฯ ให้มีเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่สมาคมฯ มีศูนย์ฝึกจักรยานกระจายไปในแต่ละภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดพะเยา และจังหวัดพิษณุโลก ภาคกลาง ที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสระบุรี และภาคใต้ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมไปถึงการสนับสนุนโรงเรียนกีฬาที่พัฒนากีฬาจักรยานอย่างจริงจัง ซึ่งทั้งศูนย์ฝึกและโรงเรียนกีฬาเหล่านี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างนักปั่นรุ่นใหม่เข้ามาประดับวงการกีฬาสองล้อไม่ขาดสาย"