บ่อยครั้งที่หลายคนยังว่าไม่แน่ใจว่าจะเลือกจักรยานแบบไหน กราเวล หรือ เสือภูเขา ซึ่งวิธีการเลือกประเภทจักรยานนี้ มี 2 สิ่งที่คุณต้องรู้ คือ
1.“ความยากของเส้นทาง”
- ถ้าคุณชอบความวิบาก สไตล์ดิบ/โหด ทางเทรลที่เต็มไปด้วยรากไม้ หินลอย ก็ตอบได้ทันที ไม่ต้องลังเลว่า “เสือภูเขา”
- ถ้าคุณชอบปั่นทางไกล 70-100 กิโลเมตรขึ้น เส้นทางเป็นถนนคอนกรีตผสมทางดำ มีปั่นชายป่า เข้าทางลูกรัง ทางกรวด แบบนี้ “กราเวล” เหมาะสมกว่า
2. “เป้าหมายที่จะพิชิต”
- ถ้าคุณมีความฝันว่าอยากโกอินเตอร์ ไปงานระดับโลกเจ๋งๆ สักครั้ง เช่น Unbound Gravel Race (งานแข่งกราเวลในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีนักปั่นกราเวลทั่วโลกร่วมงานมากถึง 5,000 คน) แบบนี้คุณก็ต้องใช้ “Gravel Bike” เท่านั้น
- ถ้าเป้าหมายของคุณคือ อยากลงแข่งขันในรายการ SPAR Swiss Epic (หนึ่งในซีรีย์แข่งขันเสือภูเขา บนเทือกเขาแอลป์ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์) หนึ่งในสนามที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามระดับโลก แบบนี้ก็ต้อง “เสือภูเขา” อย่างเดียวไม่มีอย่างอื่น
จริงอยู่...ที่เสือภูเขาล้อ 29 นิ้ว สามารถนำมาเซ็ตอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับการปั่นทางเรียบ ทางกราเวลได้ โดยใช้ดอกยางที่เล็กลง เปลี่ยนใส่ตะเกียบคาร์บอนแทนโช้คหน้า เปลี่ยนจากแฮนด์ตรงเป็นแฮนด์กราเวล ปรับชุดเกียร์ให้มีอัตราทดให้แคบลง เพื่อให้เหมาะสมกับการปั่นทางเรียบหรือทางกรวด แต่ด้วยองศาท่านั่ง (Geometry) ของเฟรมที่นั่งหลังตรงมากกว่า และค่า Q Factor ของขาจาน ที่ห่างจากกะโหลกเฟรมมากกว่า ทำให้เสือภูเขาเมื่อนำมาปั่นบนทางเรียบก็ไม่สามารถต่อกรกับกราเวลในระยะทางยาวๆ ได้อยู่ดี
และในทางกลับกันแม้เราอยากจะปรับให้กราเวลคันเก่งลุยให้ได้เหมือนเสือภูเขา ก็คงทำได้ยากเช่นกัน เพราะขีดจำกัดของการออกแบบทั้งตัวเฟรมและอุปกรณ์ จึงมีข้อจำกัดที่จะนำจักรยานกราเวลไปลุยในทางดิบ โหด หรือ Single Track ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคต่างๆ
ดังนั้น การใช้จักรยานให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางคือหัวใจสำคัญ ก็ควรใช้จักรยานได้เหมาะสม เต็มขีดความสามารถ เพื่อที่จะมีประสิทธิภาพมากกว่า สนุกมากกว่า นั่นเอง
เรื่อง: พัสกร ปลอดโปร่ง