การที่จะมีเสือหมอบสักคัน พานักปั่นไต่เขาขึ้นไปยังจุดสูงสุด ไม่ใช่เรื่องง่าย! ยิ่งเป็นการแข่งขันในสเตจภูเขา (Mountain Stage / Uphill) แล้วได้เป็น King of Mountain (KOM) ยิ่งทวีความยากขึ้นไปอีก เพราะการแข่งขัน มันไม่ใช่แค่ปั่นขึ้นให้เร็วที่สุดลูกเดียวจบ และต้องพากลับลงมาเพื่อขึ้นเขาลูกใหม่ ได้ดีที่สุดด้วย
ปีที่ผ่านมา Cervélo R5 ได้พิสูจน์มาแล้วหลายสนาม กับทีมระดับโลก Jumbo-Visma ที่คว้าแชมป์ได้ครบทั้ง 3 แกรนด์ทัวร์คือ Tour de France, Giro d’Italia และ Vuelta Espana ภายในปีเดียว และนักปั่นอื่นๆ อีกหลายสนามนับไม่ถ้วน ซึ่งนี่คือ เสือหมอบที่โปรนักปั่นเลือกใช้ เมื่อต้องลงชิงชัยใน Mountain Stage และ All Around
Allway classically good looking
R5 คือเฟรมที่วิศวกรและนักออกแบบของ Cervélo ตั้งใจทำขึ้นเพื่อเป็นเสือหมอบ All Around ใช้กับภูมิประเทศที่หลายหลาย ทั้งทางราบ ทางเขา เนินเล็กๆ ไปจนถึงสูงใหญ่ตระหง่านตระการตา ก็เพราะไม่ใช่แค่ปั่นขึ้นเขาดี แต่ตอนลงก็ให้การ Balance หรือ ควบคุมที่ดีด้วย ซึ่งการทำเฟรมให้ใช้ในภูมิประเทศที่หลากหลายได้ดี ไม่ได้ง่ายเหมือนชงกาแฟสำเร็จรูปที่แค่ฉีกซองแล้วใส่น้ำร้อน แต่สำหรับ R5 นี่คือกาแฟชั้นดีที่ผ่านขั้นตอนการบ่มเพาะเมล็ด ปลูกในพื้นที่ที่คัดสรร และทดลองสกัดซ้ำแล้วซ้ำอีก จนได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
สืบสานตำนาน Cervélo Rca สู่ R5 “Best of the Best”
R5 ได้รับการพัฒนาและถ่ายทอด DNA มาจาก Cervélo Rca ตัวดังในอดีตมาเต็มๆ ปัจจุบัน Rca กลายเป็นของหายาก นักจักรยานทั่วโลกต้องการเก็บสะสมไว้ในคอลเล็คชั่น Rca เป็น Limited Edition ผลิตมาแค่ 325 เฟรมทั่วโลก ได้รับการยกย่องว่า เป็น “Best of The Best – หนึ่งในเฟรมเสือหมอบที่ดีที่สุดในโลก” โดยการผลิตเฟรม Rca มีการใช้คาร์บอนคอมโพสิตมากถึง 459 ชั้น (plies/Layers) และใช้วัสดุไฟเบอร์ที่แตกต่างกัน 7 แบบ ใน 14 ทิศทางที่แตกต่างกัน ผ่านการออกแบบซ้ำแล้วซ้ำอีกถึง 93 เวอร์ชั่น ถึงจะได้มาเป็นเวอร์ชั่นจริง คือ “Rca”
Rca เป็นเฟรมที่ให้ความสติฟฟ์สูง (Stiffness) และเป็นเฟรมที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก (ช่วงปี คศ. 2013) ด้วยน้ำหนักเพียง 944 กรัม (เฟรม + ตะเกียบ Size 56) จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม Cervélo Rca จึงได้รับรางวัลไปมากมาย เช่น Eurobike Gold, JEC Innovation, Core77 Design, Bike Radar’s “Most Wanted” awards และ อื่นๆ อีกมากมาย
วันและเวลาที่ผ่าน Cervélo R5 ได้มีการปรับเปลี่ยนน้ำหนักและความสติฟฟ์จากรุ่นก่อน ก็เพื่อตอบโจทย์นักปั่นให้ดีที่สุด เช่น ปั่นได้สบายขึ้น ราคาจับต้องได้มากขึ้น (R5 ราคาครึ่งเดียวของ Rca) ใส่ยางได้ถึง 700c/34mm. แต่สิ่งที่ R5 ยังคงรักษามาตั้งแต่ Gen แรกๆ คือการควบคุมรถ ความทรงตัว และความดุดันที่ไม่มีใครเทียบได้ เป็นความสม่ำเสมอมาตั้งแต่วันแรก ด้วยจุดเด่นคือน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ยังคงรักษาความเป็น Best of All Around ให้คุณภาพที่ยอดเยี่ยมในการปั่นบนทุกๆ เส้นทาง