"เจ้าตูม" พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง นักปั่นทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล สุดแกร่ง ปั่นเบิ้ลแชมป์สเตจ 3 ซิวเจ้าภูเขา และแชมป์ประจำวัน พลิกขึ้นเป็นผู้นำเวลารวม ใส่เสื้อเหลืองในศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ "ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024" ด้าน "โค้ชตั้ม" วิสุทธิ์ กสิยะพัท ชี้ทำได้ตามแผน เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขา เคยจับเวลาของ พีระพล ตอนมาซ้อมใช้เวลา 11 นาที คนที่จะเอาชนะได้ต้องทำเวลาต่ำกว่านี้ และเป็นไปตามแผนที่วางไว้
การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ "ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024" ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ระยะทางรวม 1,242.50 กิโลเมตร สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันสเตจที่ 3 เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่หน้าวัดมหาธาตุ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยใช้ เส้นทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ผ่านอำเภอกงไกรลาศ ผ่านอำเภอวังทอง เข้าเส้นชัยที่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ระยะทาง 128.30 กิโลเมตร
เปิดเกมในช่วงแรกนักปั่นต่างเกาะกลุ่มกันมา ผลัดกันหนีผลัดกันลาก เข้าสู่ 20 กิโลเมตรสุดท้าย นายตุลธร โสสลาม นักปั่นทีมชาติไทยหนีนำเดี่ยวออกมา พอถึงช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้ายเป็นทางขึ้นเขาสูงชันก็โดนกลุ่มใหญ่ไล่ทัน นักปั่นหลายคนปั่นขึ้นไม่ไหวถึงกับต้องเดินจูงรถแทน แต่ "มะตูม" พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง นักปั่นทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล หนีคู่ขึ้นมาพร้อมกับ เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน นักปั่นเยอรมนีจากทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ แต่เมื่อถึงช่วง 100 เมตรสุดท้าย พีระพล สปรินท์หนีเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคว้าแชมป์สเตจที่ 3 ไปครอง ด้วยเวลา 3.11.12 ชั่วโมง ส่วน เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน ได้อันดับ 2 เวลา 3.11.14 ชั่วโมง, อันดับ 3 "เฟรม" ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ จากทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล เวลา 3.11.23 ชั่วโมง
ด้านรางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermediate Sprints จุดที่ 1 (IS1) และจุดที่ 2 (IS2) เป็นของ เจ๋อ เย กี่ นักปั่นทีมตรังกานู ไซคลิง จากมาเลเซีย โดยมี ตุลธร โสสลาม ได้อันดับ 2 ในจุดที่ 2 (IS2) นอกจากนั้นตุลธรยังได้รับรางวัลนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 3 ด้วยฟอร์มการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและสู้อย่างสุดหัวใจ
หลังจบการแข่งขัน 3 สเตจ ผุ้นำเวลารวมมีการเปลี่ยนมาอยู่กับนักปั่นไทยพ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง ทำเวลารวม 10.50.45 ชั่วโมง ได้ "เสื้อเหลือง" ไปครอง, ที่ 2 เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน ตามหลังพีระพล 6 วินาที โดยมี ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ รั้งอันดับ 3 ตามหลังพีระพล 17 วินาที ขณะที่รางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็วเป็นของ ลูคัส คาร์สเตนเซ่น นักปั่นชาวเยอรมนีจากทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ มี 29 คะแนน ได้สวม "เสื้อเขียว" ส่วนรางวัลนักปั่นยอดเยี่ยมอาเซียนก็ตกเป็นของ "มะตูม" พีระพล ได้สวม "เสื้อม่วง" นอกจากนี้พีระพลยังคว้ารางวัลเจ้าภูเขา (KOM) ได้สวม "เสื้อลายจุด" อีก 1 ตัว
ส่วนเวลารวมประเภททีมประจำสเตจที่ 3 เป็นของทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ พร้อมทั้งครองเวลารวมประเภททีมด้วยเวลา 32.34.12 ชั่วโมง โดยมีทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล รั้งอันดับ 2 ซึ่งตามหลังอยู่ 4 วินาที ส่วนผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th
ด้าน พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง กล่าวว่า "วันนี้ดีใจมากที่คว้าแชมป์สเตจมาครองสำเร็จ ก่อนหน้านี้สตาฟฟ์โค้ชได้พามาดูเส้นทางและฝึกซ้อมกับเส้นทางแข่งขันจริง ซึ่งพวกเรามองว่าเหมาะกับความถนัดของพวกเราอยู่แล้ว เนื่องจากทีมเราปั่นขึ้นเขาได้หลายคน เส้นทางขึ้นก็ไม่ยาวมากนัก สามารถต่อสู้กับฝรั่งได้อย่างแน่นอน ส่วนสเตจที่ 4 เป็นทางขึ้นเขาเยอะแต่ระยะทางค่อนข้างไกล ต้องปั่นอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อเหลืองและเสื้อม่วงหลุดมือ"
ด้าน "โค้ชตั้ม" วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล กล่าวว่า "การแข่งขันแต่ละสเตจ มีความแตกต่างกัน ซึ่งใน 2 วันแรกเราเซฟตัวที่ถนัดขึ้นเขาเอาไว้ พอมาสเตจที่ 3 เป็นทางขึ้นเขาก่อนเข้าเส้นชัย พีระพลก็สามารถทำได้ดี เพราะเราเก็บพลังเพื่อมาระเบิดบนเขาโดยเฉพาะ ส่วนทีมงานช่างก็เตรียมอุปกรณ์สำหรับการปั่นขึ้นเขามาพร้อม แผนที่วางเอาไว้ก็คือพีระพลเคยปั่นขึ้นได้ในเวลา 11 นาทีกว่า คนที่จะทำเวลาได้ต่ำกว่านี้เป็นเฉพาะนักปั่นระดับโปรทัวร์เท่านั้น ซึ่งพีระพลก็ทำได้ตามเป้าหมาย"
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันสเตจที่ 4 วันที่ 4 เมษายน . เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอำเภอวังทอง ผ่านวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เข้าเส้นชัยที่พุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทาง 155.90 กิโลเมตร.เริ่มเวลา 08.00 น.