ทีมยัดห่วงสาวซีที ศรีปทุม ครองแชมป์บาสเกตบอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย หลังชนะ พีดีเอส บาสเกตบอล น้อยนพคุณ ดีพียู 96-65 คะแนน ในการแข่งขันที่สนามบาสเกตบอลสโมสรไฮ-เทค ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 74/1
การแข่งขันบาสเกตบอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย "ธ.ก.ส. วูเมนส์ ไทยแลนด์ บาสเกตบอล แชมเปียนชิพ 2024" หรือ "ธ.ก.ส.WTBC 2024" ที่สนามบาสเกตบอลสโมสรไฮ-เทค ทุ่งครุ ประชาอุทิศ 74/1 มี 7 สโมสรชั้นนำของประเทศตบเท้าเข้าร่วมชิงชัย
ล่าสุดการแข่งขันเดินทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เป็นการโคจรมาดวลกันระหว่าง พีดีเอส บาสเกตบอล น้อยนพคุณ ดีพียู ที่ส่ง 5 คนแรก ประกอบด้วย รัตติยากรณ์ อุดมสุข, จิราวรรณ์ รุ่งเรือง, อชิรญา คำภีระ, วรินธร สุ่มมาตย์ และ พริสซิลา แลงกิลดี เจนสัน ปะทะกับ ซีที ศรีปทุม ที่ประกอบด้วย ญาดา ศรีหารักษา, กนกวรรณ ประจวบสุข, สร้อยฟ้า เพ็ชรนิล, ศศิพร วงศ์ตาผา และ ขวัญจิรา ทองแดง
ต้นเกมสองฝั่งวิ่งใส่กันมันหยด กระทั่งช่วง 3 นาทีสุดท้ายของควอเตอร์แรก โมเมนตั้มเริ่มมาอยู่ในมือของสาวศรีปทุมหลังฝั่งน้อยนพคุณเริ่มเสียเทิร์นโอเวอร์เป็นว่าเล่น แล้วโดนคู่แข่งฟาสต์เบรกไปยิงลงห่วงรัวๆ รวมทั้ง น้อยนพคุณ ดีพียู ยังมาเสียฟาวล์ครบ 5 ครั้งตั้งแต่ไก่โห่ ทำให้ศรีปทุมค่อยๆ เก็บโทษลงไปเรื่อยจนทำแต้มทิ้งห่างที่ 27-16 คะแนนเมื่อจบควอฯ หนึ่ง
พอบดกันไปแล้วกลายเป็นฟอร์มคนละเรื่อง ฝั่ง น้อยนพคุณ หวังผลในการขึ้นเกมไม่ค่อยได้จนผ่าน 6 นาทีของควอเตอร์สองยิงลงกันไปทั้งทีมแค่ 2 คะแนนเท่านั้น กลับกันฝั่งศรีปทุมมีเปอร์เซนต์การทำแต้มแม่นเกิน 50 เปอร์เซนต์ หวังผลได้ทุกลูก ผ่าน 6 นาทีของควอเตอร์ 2 หนีคู่แข่งไปไกลถึง 48-18
ช่วงเวลาที่เหลือเกมรับของน้อยนพคุณไม่สามารถต้านการขึ้นเกมของกำลังรบศรีปทุมได้เลย ด้วยศักยภาพที่เป็นทีมชาติไทยทั้งหมดใน 5 ผู้เล่นตัวแรกและระบบทีมที่เข้าขารู้ใจ ส่งผลให้หมดเวลาการแข่งขัน ซีที ศรีปทุม เอาชนะ พีดีเอส บาสเกตบอล น้อยนพคุณ ดีพียู 96-65
สาวๆศรีปทุมคว้าแชมป์บาสเกตบอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย พร้อมถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรองแชมป์ น้อยนพคุณ ดีพียู รับเงินรางวัล 60,000 บาท ด้านอันดับ 3 แบนวาส สแลมเมอร์ส ที่เอาชนะ ขอนแก่น ฮอว์ค บีซี ในรอบชิงที่ 3 มาได้ 96-59 รับเงินรางวัล 40,000 บาท และอันดับ 4 สาวขอนแก่น รับเงินรางวัล 20,000 บาท
ขณะที่รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมตำแหน่งต่างๆ ประจำทัวร์นาเมนต์ ประกอบด้วย พอยต์การ์ดยอดเยี่ยม ได้แก่ "อีฟ" จิราวรรณ์ รุ่งเรือง (น้อยนพคุณ), ชูตติ้งการ์ดยอดเยี่ยม ได้แก่ "ม่ำ" ศศิพร วงศ์ตาผา (ศรีปทุม), สมอลล์ฟอร์เวิร์ดยอดเยี่ยม ได้แก่ "หมิว" ธิดาพร ไม้หอม (ขอนแก่น), เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ดยอดเยี่ยม ได้แก่ "จูน" รัตติยากรณ์ อุดมสุข (น้อยนพคุณ), เซนเตอร์ยอดเยี่ยม ได้แก่ "กิ๊ก" กนกวรรณ ประจวบสุข (ศรีปทุม) และรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าหรือ "เอ็มวีพี" ประจำทัวร์นาเมนต์ ได้แก่ "ม่ำ" ศศิพร วงศ์ตาผา (ศรีปทุม) ทั้ง 5 คนได้รับโล่รางวัลและเงินรางวัลคนละ 5,000 บาท
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน "เฮียต่าย" นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รายการนี้เป็นรายการบาสเกตบอลของประเภททีมหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ ทว่าด้วยปัญหาบางประการทำให้เราห่างหายจากการจัดไปเมื่อปีก่อน ดังนั้นทางสมาคมฯ จะพยายามกลับมาจัดให้เป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งสำคัญในรายการนี้เลยคือการมองหาผู้เล่น 12 คนที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ปีหน้าที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ
"ด้วยการเป็นหน้าเป็นตาของประเทศดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องไปให้ถึงตำแหน่งแชมป์ ซึ่งพอดูจนจบรายการเราก็เห็นแล้วว่าสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มนักกีฬาทีมชาติชุดปัจจุบัน กลุ่มดาวรุ่งที่มีแววขึ้นมาช่วยรุ่นพี่ได้ และ ผู้เล่นอดีตทีมชาติที่ยังมีศักยภาพมากพอที่จะกลับมาช่วยประเทศ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือตนกำลังมองถึงการฝึกซ้อม เพราะนักกีฬาเราดีแล้ว ศักยภาพไม่ได้แพ้ชาติใดในอาเซียนเลย และในเรื่องของอุปกรณ์วิทยาศาสตร์การกีฬาของการกีฬาแห่งประเทศไทยเราก็อยู่ในระดับเวิลด์คลาส แต่บุคลากรที่จะมาช่วยฝึกซ้อมให้นักกีฬาเราตนมองว่าคงต้องเปลี่ยน เรื่องนี้ตนคงต้องเอาจริง จะไม่ใช้วิธีการซ้อมในรูปแบบเดิม ด้วยงบจากการกีฬาฯ ตนจึงกำลังติดต่อโค้ชต่างประเทศเพื่อที่จะนำวิทยาการความรู้ความสามารถในระดับต่างชาติของเขามาช่วยเสริมศักยภาพของเด็กไทยเราที่มีดีอยู่แล้วให้สุดยอดมากยิ่งขึ้น"
"ในส่วนของการจัดรายการบาสเกตบอลหญิงรายการนี้ ทำให้เราได้เห็นผู้สนับสนุนทีมต่างๆ 3-4 ราย นี่ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับวงการบาสฯ หญิงไทย ผมได้ทำแผนงานเสนอการกีฬาฯ ไปแล้วสำหรับการจัดบาสฯ ลีกอาชีพหญิงขึ้น แม้ดูแล้วงบในปี 2568 จะไม่ทัน แต่หากเราได้ผู้สนับสนุนหลักใหญ่ๆ อย่างธนาคารธ.ก.ส.ในครั้งนี้ ผมก็จะพยายามจัดรายการชิงแชมป์ประเทศไทยนีในปีหน้าให้เป็นในรูปแบบที่ยาวขึ้น เปรียบเสมือนรายการลีกอาชีพ หรืออาจจะมีการเพิ่มโควต้านักกีฬาต่างชาติให้ทีมละ 1-2 คน เพื่อการพัฒนาการแข่งขันกับตัวนักกีฬาที่เข้มข้นขึ้นและเพื่ออรรถรสของแฟนกีฬาบาสฯ ไทย" เฮียต่าย กล่าว