วอร์ริเออร์สสาหัสพ่ายสองเกมซ้อนแถมกรีนโดนไล่

ท้ายที่สุด ดิแอร่อน ฟ็อกซ์ กับพลพรรค ก็ยังปล่อยก็อกสอง เร่งเครื่อเข้าป้าย ออกนำซีรี่ส์ 2-0 เกมใส่ แชมป์เก่า โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส

ฟ็อกซ์ จัดการ 24 คะแนน รวมทั้งระยะสามสำคัญท้ายเกม คว้าชัย 114-106

"ผมคิดว่าจังหวะนั้น ทำให้เรารวมตัวกัน"ฟ็อกซ์ กล่าว"เราคุยกันประมาณว่า เราต้องเอาชนะเกมนี้ให้ได้ ทุกคนมองเหมือนกันเขาโดนไล่ออกแน่ พอมันเกิดขึ้น ปกติทีมที่โดนจะยิ่งฮึดสู้และรันใส่ ดังนั้นเราต้องตอบโต้ให้ดี"

คิงส์ ยังปิดเกมแข็งแกร่ง หลังจาก กรีน โดนไล่ออก ข้อหาฟาวล์แรงขั้นสองใส่ โดมานทาส ซาบอนิส พวกเขาเป็นทีมแรกที่นำซีรี่ส์ 2-0 ใส่ วอร์ริเออร์ส ในยุค สเตฟเฟ่น เคอร์รี่

เกมสามแข่งวันศุกร์นี้ ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 130 กิโลเมตร ที่ ซาน ฟรานซิสโก

"ก็ต้องรับเอาไว้แหละ"เคอร์รี่ ปลง"คุณเจอเรื่องนี้มายาวนาน เราก็ต้องยังร่วมมือกันเอาไว้ และมีสมาธิ"

จังหวะปัญหาเกิดก่อนหมดเวลา 7.03 นาที เมื่อ ซาบอนิส ล้มลงพื้นแล้วล็อคใส่ขา ทำให้ กรีน วิ่งในจังหวะโต้กลับไม่ได้ เขาจึงย่ำใส่อกทันที กรรมการตัดสินไล่ออก

ระหว่างดูภาพช้า แฟนๆ ใน ซาคราเมนโต้ ตะโกนด่า กรีน ซึ่งไม่มีหงออยู่แล้ว เขาเดินโบกมือ แล้วป้องหูตัวเอง เดินขึ้นยืนบนเก้าอี้ ประมาณว่ามีปัญญาตะโกนกันได้แค่นี้?

"ขาผมโดนล็อค"กรีน ให้สัมภาษณ์หลังแข่ง"สองหนในสองคืน กรรมการก็แค่มองดู ผมต้องหาที่วางเท้า ผมไม่ใช่คนที่คล่องแคล่ว จนเหยียดเท้าออกไปไกลได้ ผมเหยียบไปได้แค่นั้น"

ซาบอนิส แข่งจบสบายๆ แต่ โค้ช ไมค์ บราวน์ บอกว่า ต้องเอาเข้าเอ็กซเรย์ กลัวปอดหรือซี่โครงพัง

ทีนี้ ก็ต้องรอดูว่า NBA เอาเทปไปพิจารณาแล้วคิดว่า กรีน สมควรโดนไล่ออกมั้ย? หรือ สมควรถึงขั้นต้องแบนเกมสาม

"ยังไงมันก็ต้องฟาวล์แรงขั้นสอง"บราวน์ ยืนยัน"น่าสนใจว่า เอ็นบีเอ เอาเทปไปดูแล้วจะคิดยังไง"

จากจังหวะดังกล่าว วอร์ริเออร์ส ตามหลัง 87-91 ไล่ตีเสมอ 95-95

อย่างไรก็ตาม คิงส์ กลับรันกลับ 17-8 สะใจกองเชียร์ ซึ่งโบกผ้าขนหนูกันปลิวว่อน

ระยะสามของ ฟ็อกซ์ ถือว่าสำคัญ ทำให้นำ 107-101 เหลือเวลา 2.17 นาที เล่นเอา วอร์ริเออร์ส ถึงกับทรุด

เดเวียน มิตเชลล์ กดสามอีกดอก หายยาว 112-103 ก่อนหมดเวลา 78 วินาที

"ลูกสามจากมุมตรงนั้น เหมือนตะปูตอกฝาโลง"ฟ็อกซ์ พูดถึงการชู้ตของ มิตเชลล์

ซาบอนิส สกอร์ 24, แมลิก มั้งค์ ลงจากม้านั่งสำรอง 18 คะแนน

เคอร์รี่ มากสุดให้ แชมป์เก่า 28 แต้ม แต่สามแต้มของเขาง่อยมาก ลงแค่ 3 จาก 13 ครั้ง เกมบุก วอร์ริเออร์ส มีปัญหาเทิร์นโอเวอร์ บ่อย รวม 22 หน

"ท้ายเกมพวกเขาเล่นดีกว่าเรา"โค้ช สตีฟ เคอร์ ยอมรับ"คืนนี้พวกเขายังเล่นหนักหน่วงกว่าเราด้วย"

คนดูซึ่งโหยหาความสำเร็จใน ซาคราเมนโต้ เสียงไม่ค่อยดังเหมือนเกมแรก หลังจากรอคอยเพลย์ออฟ มานาน 17 ปี

ช่วงออกตัวทั้งสองฝ่ายมั่วกันพอตัว เสียฝ่ายละ 9 เทิร์นโอเวอร์ โดยในรอบ 21 ปี ไม่เคยมีเพลย์ออฟเกมไหน เสียรวมกัน 18 เทิร์นโอเวอร์ตั้งแต่ควอร์เตอร์แรก

คิงส์ ยังพลาด ระยะสาม 11 ลูกแรก กระทั่ง ฟ็อกซ์ ชู้ตลง ท้ายควอร์เตอร์

เข้าควอร์เตอร์สอง คนดูจึงเริ่มเฮกันลั่น เมื่อ มั้งค์ ซึ่งเกมแรก กด 32 แต้ม ลงมารัวระยะสาม 3 ลูก ตั้งแต่ 2.04 นาทีแรกของ ควอร์เตอร์ เปิดรัน 23-8 พลิกจากเป็นรองหก แซงหน้า 9

โกลเด้น สเตท พยายามสู้จนตีเสมอ จาก เคอร์รี่ ส่องระยะสาม แต่ก็เหี่ยวอีก โดนรันใส่ 6-0 ตามหลัง 52-58 ตอนพักครึ่ง

เข้าครึ่งหลัง คิงส์ ทิ้งห่างสุด 14 แต่ วอร์ริเออร์ส รันกลับ 8-0 ไล่ 75-83 เข้าสู่ควอร์เตอร์สุดท้าย

วอร์ริเออร์ส: แอนดรูว์ วิกกิ้นส์ กลับมาเป็นตัวจริง อีกครั้ง สกอร์ 22...เสียห้าฟาวล์ ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง 1.42 นาที

คิงส์: กด 41 คะแนน ควอร์เตอร์สอง ทำให้ วอร์ริเออร์ส ภายใต้ยุค เคอร์ โดนคู่แข่ง กดอย่างน้อย 40 ต่อควอร์เตอร์ เป็นครั้งที่แปด แล้ว

ผลแข่งเอ็นบีเอ เพลย์ออฟ อีกคู่

ทายหรีส แม็กซี่ย์ สกอร์ 33, โจเอล เอ็มบีด กับ โทไบแอส แฮร์ริส คนละ 20 คะแนน ฟิลาเดลเฟียเปิดบ้านยำ บรู้กลิน เน็ตส์ สองเกมติด

เอ็มบีด อาจจะเกมบุกเงียบลง ชู้ตแค่ 6 จาก 11 หน แต่มี 19 รีบาวด์ 7 แอสซิสต์ สามบล็อค

แฮร์ริส ก็ได้ 12 รีบาวด์ ส่วน เจมส์ ฮาร์เด้น กลับไปเงียบทำ 8 แต้ม ชู้ตลง 3 จาก 13 ครั้ง 

ระยะสามที่เคยฉูดฉาดของพวกเขาลง 21 ลูกเป็นสถิติแฟรนไชส์ หล่นมาเหลือ 11 ลูก เป็นของ แม็กซี่ย์ คนเดียวซะหก

อย่างไรก็ตามเกมบุก เน็ตส์ ง่อยเองด้วย ฟิลด์โกล์ ลงเพียง 37.5% อาศัย แคม จอห์นสัน 28 คะแนน, มิคาล บริดเจส 21 

พวกเขาสู้ดีแค่ครึ่งแรกเหมือนเคย โดยออกนำสุด 45-35 ก่อนพักครึ่งสามนาทีกว่า และยังนำตอนหมดควอร์เตอร์สอง 49-44

ครึ่งหลัง ดันไม่แม่นเองชู้ตกันแค่ 35%

บรู้กลิน แพ้ เพลย์ออฟต่อซิกเซอร์ส หกเกมติดแล้ว

เกมสาม กลับไปยัง นิว ยอร์ค แข่งกันวันศุกร์

ข่าวคราว NFL

เจเลน เฮิร์ตส ควอร์เตอร์แบ็ค อีเกิ้ลส์ ต่อสัญญาใหม่ ห้าปี 255 ล้านเหรียญ(9180 ล้านบาท) โดยการันตี 179.034 ล้านเหรียญ(6454.944 ล้านบาท)

ถ้าหารออกมาเป็นปี ถือว่า รับเฉลี่ย 51 ล้านเหรียญ(1836 ล้านบาท) แซง แอร่อน ร็อดเจอร์ส(50.3 ล้านเหรียญ) ยึดอันดับหนึ่งประวัติศาสตร์

แต่ เดอชอน วัตสัน ยังครองอันดับหนึ่งเรื่องการันตีเยอะสุด 230 ล้านเหรียญ จาก คลีฟแลนด์ บราวน์ส ตามด้วย คายเลอร์ เมอร์รี่ย์ 189.5 ล้านเหรียญ

สัญญาของเขายังมีเงื่อนไขห้ามเทรดอีกด้วย เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์อีเกิ้ลส์

เฮิร์ตส อายุเพิ่ง 24 ปี ขว้าง 3701 หลา 22 ทัชดาวน์ 6 อินเทอร์เซ็ปต์ วิ่งเอง 760 หลา 13 สกอร์

เรียกว่า พอได้เป็นตัวจริง แค่ปีสอง กลับก้าวกระโดด ชัดเจน หลายอย่าง ทั้งศักยภาพควอร์เตอร์แบ็คจากอันดับ 19(54.6) กลายเป็นอันดับสี่(66.4), ขว้างบอลแม่นขึ้นจากอันดับ 26(61.3%) กลายเป็นอันดับ 11(66.5%) และยังลดเวลาถือลูกก่อนขว้างจากเดิม 31.2 วินาที(อันดับ 31) เหลือ 2.76 วินาที(อันดับ 16)

ระหว่าง ซูเปอร์ โบว์ล เขาทำคนเดียว 374 หลา สี่ทัชดาวน์น่าเสียดายเสียเทิร์นโอเวอร์ สำคัญ พ่าย แพทริก มาโฮมส์ กับ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ 35-38

รวมตลอดซีซั่นได้ 43 ทัชดาวน์ แซง โดโนแวน แม็คแน็บบ์ ขึ้นอันดับหนึ่งแฟรนไชส์ อีกต่างหาก

เฮิร์ตส ทำท่ามีแวว ตั้งแต่อยู่ ม.อลาบาม่า เป็นเด็กปีหนึ่งคนแรกที่ โค้ช นิก เซบัน ให้สตาร์ท แต่ กลับโดนดร็อป เมื่อถึงเกมชิงแชมป์ประเทศ กลายเป็น ทัวอา ทาโกไวลัว ได้โอกาสแทน

เขาเสียตำแหน่งในบั้นปลาย ตัดสินใจย้ายไป โอคลาโฮม่า ในปีสี่ แล้วก็ระเบิดฟอร์ม จนได้โหวต ไฮส์แม่น โทรฟี่(ผู้เล่นทรงคุณค่า) อันดับสองเป็นรองแค่ โจ เบอร์โรว์

ไทซอน