หลังจากที่ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน ได้เปลี่ยนมาจับคู่ กับ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ สามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเวลาอันสั้นด้วยการคว้าแชมป์ไปแล้วถึง 3 รายการ
แฟนแบดมินตันคงจะเห็นภาพจากการแข่งขันประเภทคู่ผสมของไทย เพียงแค่ "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ผลผลิตจากเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ ที่สามารถคว้าแชมป์โลก และแชมป์อีกหลายๆรายการจนกระทั่งขึ้นไปครองมือ 1 ของโลกมาแล้ว
แต่อีกหนึ่งคนที่น่าสนใจในประเภทคู่ผสมนี้ ซึ่งหลายๆคนอาจจะเห็นฟอร์มการเล่นมาบ้างแล้ว แต่อีกก็ไม่เป็นรู้จักมานัก เขาคนนี้ก็คือ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน ในวัย 25 ปี เป็นสาวจังหวัดนครปฐม
ที่เริ่มมาสนใจกีฬาแบดมินตัน และเริ่มจับไม้เล่นตามพี่ชายตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ในการเล่นแบดมินตันมาเหมือนกันคือ เล่นแบบสนุกๆ ตามประสาเด็ก แต่รางวัลเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้จากการออกแข่งขันกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งสองคนมุ่งมั่น ทุ่มเทจนสร้างผลงานในระดับเยาวชนได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ
เธอก็เล่นแบดมินตัน แบบจริงจังในวัย 15 ปี ก่อนจะถูกเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ โดย "โค้ชโอม" เทศนา พันธ์วิศวาส เรียกตัวเข้าสู่แคมป์ เฟมได้ถูกขัดเกลา ปรับพื้นฐานทุกด้านที่เกี่ยวข้องทั้งหมดและ ซึมซับกับกีฬาแบดมินตัน ทำให้เจ้าตัวดีใจมาก และได้ฝึกซ้อมอย่างเต็มระบบจนได้ขึ้นมาสู่ทีมชาติอย่างรวดเร็ว
เธอเล่นทั้งในประเภทหญิงคู่ และ คู่ผสม โดยหญิงคู่นั้น เธอจับคู่กับ "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล ส่วนประเภทคู่ผสมในขณะนั้น จับคู่กับ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ
แต่เจ้าตัวก็ได้ทำให้แฟนๆแบดมินตันไทย รู้จักเธออย่างเป็นทางการในปี 2021 ในการแข่งขันทีมผสมชิงแชมป์โลก สุธีรมาน คัพ ที่ประเทศฟินแลนด์ หลังจากนั้นซึ่งได้จับคู่กับ "เอ็ม" สุภัค จอมเกาะ แล้วทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสั่งสมประสบการณ์ในเวทีใหญ่ๆ ถึงแม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์ได้ แต่เก็สามารถเข้าไปถึงรอบลึกๆได้ในบางรายการ จนขึ้นมาอยู่ท็อป 20 ของโลกได้สำเร็จ
แต่ทว่าหลังจากโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี่ ได้มีเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการสลับคู่กัน ซึ่ง "เฟม" ศุภิสรา นั้น ได้ไปจับคู่กับรุ่นพี่อย่าง "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนของเธออีกครั้ง
สิ่งที่น่าชื่นชมและต้องปรบมือให้กับทั้งคู่และทีมงานก็คือ การที่ทั้งสองคนสามารถปรับตัวและเล่นร่วมกันได้อย่างลงตัว ด้วยสไตล์การเล่นเกมบุกที่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะจังหวะเข้าทำเข้าประกบหน้าเน็ต ซึ่งก็ดูแล้วมีโอกาสจะพัฒนาและทำได้ดีขึ้นกว่านี้อีกเรื่อยๆด้วย ซึ่งจุดแข็งของทั้งคู่ที่ว่ามานี้ ก็ทำให้คู่นี้มีเกมการบุกที่ดุดันและอันตราย
แม้จะมีช่วงเวลาที่ลงเล่นร่วมกันเพียง 6 รายการเท่านั้น นับตั้งแต่เล่นลงร่วมกันรายการแรก ก็คือ ศึก อาร์คติก โอเพ่น เมื่อช่วงเดือน ต.ค.2024 แต่ใช้เวลาไม่นาน ในการจับคู่กับ บาส เดชาพล สามารถแจ้งเกิดได้สำเร็จในรายการคุมาโมโตะ มาสเตอร์ส เจแปน ในเดือนพ.ย.2024 ส่งปิดท้ายปี2024 ด้วยผลงานแชมป์ ในศึกไซเอ็ด โมดี้ อินเดีย อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 ที่อินเดีย
มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากสำหรับแฟนๆแบดมินตันไทย จากการลงเล่นร่วมกันเพียงแค่ 5 รายการเท่านั้นในระยะเพียง 2 เดือนเศษๆ แล้วยิ่งมาจับคู่ กับ บาส เดชาพล ทำให้เธอยิ่งมีความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการประกบหน้าที่คุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ และทำคะแนนได้ตลอดจนได้ผลการแข่งขันที่ดีออกมา
ในปี 2025 ในรายการมาเลเลเซีย โอเพ่น เวิลด์ทัวร์ 1000 ประเดิมศักราชใหม่ ในรายการใหญ่แบบนี้ หลายคนอาจจะมองว่าคงไปได้ไม่ไกลเพราะสายการแข่งขันออกมาค่อนข้างหนักพอสมควร แต่นั้นไม่ใช่อุปสรรคของเฟม กับ บาส เลย ซึ่งทั้งคู่ระเบิดฟอร์มปราบคู่ต่อสู้ที่มืออันดับโลกสูงกว่าตั้งแต่รอบ 2 จนกระทั่งในรอบชิงชนะเลิศ ล้มคู่ของ เฝิง หยานเจ๋อ กับ หวง ตงปิง มือ 1 ของโลกจากจีน 2-1 เกม ประเดิมคว้าแชมป์ใหญ่ต้อนรับปีมะเส็งได้สำเร็จ
เชื่อได้เลยว่าแฟนๆแบดมินตันไทยก็คงคิดว่า เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับ เฟม ศุภิสรา กับคู่ขาอย่าง บาส เดชาพล ได้ในการแข่งขันรายการต่อๆไป ก็จะเห็นทั้งคู่ขยับอันดับโลกไปสู่ท็อป 10 ได้ในไม่ช้า อย่างที่บาส กับ ปอป้อ เคยทำมาแล้วจนขึ้นมือ 1 ของโลกได้สำเร็จ และจะเป็นกำลังสำคัญให้กับแบดมินตันไทยในการแข่งขันทีมผสมชิงแชมป์โลก สุธีมาน คัพ 2025 ที่เมืองเซี๊ยะเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน และล่าตั๋วไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่ลอสแองเจลิสได้อย่างแน่นอน