มาร์ค อัลเลน ฮึดซิวแชมป์ยูเคสมัยแรก "ติง" เซ็งชวดตั๋วบู๊มาสเตอร์ส

ใครที่ได้ดูในรอบชิงชนะเลิศ จะพบว่าเกมการดวลคิวทั้งสองเซสชั่น แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวนรก ในเซสชั่นแรก ติง จุ้น ฮุย ออกคิวได้ไหลลื่นกว่า นำห่างมากถึง 6-1 เฟรม จนทำว่าว่าจะคว้าแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพสมัยที่ 4 อยู่แล้ว

ทว่าในเซสชั่นที่ 2 กลับเป็นหนังคนละม้วนเมื่อนักสอยคิวจากไอร์แลนด์เหนือ กลับมาแทงได้ดีขึ้น ตรงข้ามกับ "มังกรติง" ที่จู่ๆฟอร์มหลุดไปดื้อๆ จึงเป็นเหตุให้ อัลเลน เอาชนะไปในที่สุด พร้อมกับคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยแรก รับเงินรางวัล 250,000 ปอนด์(ราวๆ 10.6 ล้านบาท)

นับเป็นการลบฝันร้ายของตัวเขาเอง หลังก่อนหน้านี้ เขาเคยเข้าชิงศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2 ครั้ง ทั้งในปี 2011 และ 2018 แต่ก็อกหักได้แค่รองแชมป์ทั้ง 2 หน หลังรอบชิงพ่าย จัดด์ ทรัมป์ กับ รอนนี่ โอซัลลิแวน ตามลำดับ

นอกจากนี้ มาร์ค อัลเลน ยังกลายเป็นนักสนุกเกอร์ชาวไอร์แลนด์เหนือคนที่ 2 อีกต่างหาก ที่สามารถชูโทรฟี่แชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพขึ้นเหนือศีรษะ ต่อจาก “เฮอร์ริเคน” อเล็กซ์ ฮิกกินส์ ตำนานผู้ล่วงลับ ที่เคยคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 1983 หรือเมื่อ 39 ปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ อเล็กซ์ ฮิกกินส์ คว้าแชมป์รายการนี้ ศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพยังไม่ใช่รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก ยังเป็นรายการประเภท non-ranking event

ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า มาร์ค อัลเลน คือนักสอยคิวไอร์แลนด์เหนือคนแรก ที่คว้าแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพ นับตั้งแต่รายการนี้ ถูกเลื่อนสถานะให้กลายเป็นเวิลด์แรงค์กิ้งทัวร์นาเมนต์ เมื่อปี 1984 เป็นต้นมา

ความสำเร็จในครั้งนี้ ส่งผลให้นักสอยคิววัย 36 ย่าง 37 ได้รับคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นถึง 243,500 แต้มอีกด้วย จนขยับจากอันดับ 9 ขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของโลกแล้ว

นอกจากนี้ แชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2022 ยังเป็นถ้วยแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งใบที่ 8 ของเจ้าตัวอีกต่างหาก 

อีกทั้งยังทำให้เขา คว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ไปแล้ว 2 ทัวร์นาเมนต์ ต่อจากศึกมาสเตอร์ส 2018 เหลือความสำเร็จในศึกชิงแชมป์โลกเพียงรายการเดียวเท่านั้นที่ อัลเลน ยังไม่มีโอกาสสัมผัสกับตำแหน่งแชมป์ 

หากทำได้จะทำให้ “เดอะพิสตอล” กลายเป็นนักสอยคิวคนที่ 12 ทันที ที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ ครบทั้ง 3 รายการ(ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ, มาสเตอร์ส)  

ในเวลาปัจจุบัน มาร์ค อัลเลน คือนักสอยคิวที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในทัวร์เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่น 2022-2023 เป็นต้นมา เขาคว้าแชมป์ไปแล้ว 2 รายการ ก็คือนอร์เทิร์นไอร์แลนด์โอเพ่น 2022 ที่บ้านเกิด และยูเคแชมเปี้ยนชิพที่เพิ่งจบไป แถมยังฟาดตำแหน่งรองแชมป์อีก 1 ทัวร์นาเมนต์ นั่นก็คือบริติชโอเพ่น 2022 หลังพ่าย ไรอัน เดย์ ในรอบชิงชนะเลิศ 7-10 เฟรม

กล่าวได้ว่า รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง 3 ทัวร์นาเมนต์หลังสุด อัลเลน ผ่านเข้าไปถึงชิงทั้งหมด พร้อมกับคว้าแชมป์มาครองได้ถึง 2 รายการอีกต่างหาก ส่วนอีกรายการก็ได้รองแชมป์ ดั่งที่เรียนไปในย่อหน้าก่อน

หากยังรักษามาตรฐานการเล่นให้ยอดเยี่ยมต่อไปเรื่อยๆ มีโอกาสไม่น้อยที่จะขึ้นไปรั้งตำแหน่งท็อป 4 ของโลก เนื่องจากคะแนนสะสมของเขาในเวลานี้ ตามหลังอันดับ 4 อย่าง นีล โรเบิร์ตสัน(ออสเตรเลีย)เพียง 28,500 แต้มเท่านั้น

ด้าน ติง จุ้น ฮุย ที่ทัวร์นาเมนต์นี้ กลับมาออกคิวได้คมกริบเหมือนดั่งเมื่อวันวานอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพสมัยที่ 4 ของตัวเอง จึงคว้ารองแชมป์มาครองอย่างน่าเสียดาย

การได้รับตำแหน่งพระรองหนนี้ ทำให้เขาชวดโอกาสทำอันดับโลกเข้าไปสู่ท็อป 16 ของโลกแบบฉิวเฉียด จนพลาดตั๋วลงดวลคิวศึกใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์อีกรายการ อย่างมาสเตอร์ส 2023 ไปอย่างน่าเจ็บปวด ซึ่งรายการนี้จะให้สิทธิ์มือ 1-16 ของโลกเท่านั้น(ยึดอันดับโลกหลังจบยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2022) เข้าไปบรรเลงเพลงคิวกันในเดือนมกราคมที่จะถึง

ถ้าศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2022 “มังกรติง” สามารถคว้าแชมป์มาครอง เขาจะทำแรงค์กิ้งขึ้นไปรั้งถึงอันดับ 10 ของโลกเลยทีเดียว และคนที่จะซวยเสียตั๋วลุยศึกมาสเตอร์ส 2023 ให้กับ ติง จุ้น ฮุย ก็คือ แหยน ปิ่ง เทา รุ่นน้องชาวจีนนั่นเอง

เชื่อว่าคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องแหยน คงไม่ได้เชียร์พี่ติงเหมือนดั่งชาวจีนคนอื่นอย่างแน่นอน เนื่องจากต้องการรักษาพื้นที่อันดับ 16 ของโลกของตัวเอง เพื่อไปแข่งขันมาสเตอร์ส  2023 นั่นเอง โดยรายการนี้ แหยน ปิ่ง เทา เคยคว้าแชมป์มาแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน

สำหรับการคว้ารองแชมป์ในศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพหนนี้ ทำให้ ติง จุ้น ฮุย รับเงินรางวัลปลอบใจ 100,000 ปอนด์(ประมาณ 4.3 ล้านบาท) และได้รับคะแนนสะสมเพิ่ม 93,500 คะแนน จนมีอันดับโลกกระโจนขึ้นถึง 19 ขั้น จากอันดับ 38 ของโลก ขึ้นมารั้งอันดับ 19 ของโลกแล้ว

- ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง -