"ส้ม” ดวงอักษร ใจดี จอมพลังสาวไทยวัย 27 ปี ยอมรับยังไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้วแม้พลาดเหรียญให้กับทัพยกน้ำหนักไทยในโอลิมปิกเกมส์เป็นของขวัญวันเกิดของตัวเอง
“ส้ม” ดวงอักษร ใจดี จอมพลังสาวไทยวัย 27 ปี ซึ่งคว้าอันดับที่ 6 ในรุ่นมากกว่า 81 กก.หญิง ศึกยกน้ำหนักโอลิมปิกเกมส์ 2024 ออกมาเปิดใจหลังจบการแข่งขันว่า สำหรับฟอร์มของตัวเองในรอบนี้ ยังไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งเมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ
“ส่วนฟอร์มที่ผิดไปจากที่หวัง ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากร่างกายของหนูด้วยค่ะ จากตอนยกคลีนแอนด์เจิร์กทีแรก เหล็กเลยหลังไป หนูพยายามฮึดสู้ขึ้นมา ซึ่งมันรู้สึกว่าเริ่มจะมีอาการเจ็บแล้ว หลังจบการยกทีแรก แต่ก็พยายามจะออกมาสู้ในการยกอีกสองครั้ง คิดว่าถ้าอยากน้อยยกขึ้น ก็อาจจะมีโอกาส แต่ทำไม่สำเร็จ ซึ่งเมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ หนูเองก็ยอมรับ”
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การยกสองครั้งแรกในท่าสแนตช์ไม่ผ่านเกิดจากอะไร ดวงอักษร เผยว่า ”น่าจะมาจากความไม่ละเอียดในการยกของหนูค่ะ ก่อนขึ้นไปยกครั้งที่สาม ก็ยอมรับว่าเครียดค่ะ ก็บอกตัวเองว่าถ้ายังอยากอยู่ในเส้นทางของการแข่งขันให้จนจบ ต้องขึ้นไปยกให้ผ่าน ซึ่งหลังจากขึ้นไปยกสแนตช์ผ่านก็มีอาการบาดเจ็บที่ข้อพับตรงขาค่ะ ก็เสียดายค่ะสุดท้ายไม่มีเหรียญ ส่วนถ้าสุดท้ายลงแข่งแล้วยกได้ตามฟอร์มที่เคยทำได้จริงๆ ก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสเบียดลุ้นเหรียญรางวัล แต่ก็ไม่ได้การันตี”
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่า การต้องลงแข่งขันเป็นคนสุดท้ายของทีมยกน้ำหนัก ในสถานการณ์ที่เพื่อนๆอีก 3 คน ได้เหรียญรางวัลกันไปครบหมดทุกคนแล้ว ส่งผลอะไรกับตัวเองบ้าง ดวงอักษร เปิดเผยว่า “จริงๆก่อนมา หนูพยายามตัดโลกโซเชียลออกไปบ้าง พยายามไม่ไปดู เพราะถ้าเห็นอาจจะเครียดกว่าเดิม ซึ่งขนาดตัดไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังเครียดอยู่เลย และการที่ต้องลงแข่งขันหลังเพื่อนๆในทีมได้เหรียญกันหมดแล้ว ก็ยอมรับว่าทำให้กังวลเหมือนกัน แต่ก็บอกให้ตัวเองเผื่อใจนิดนึง เพราะค่อนข้างรู้ตัวเองแล้วว่า ไม่ง่าย และมีโอกาสที่จะไม่ได้เหรียญ ซึ่งหนูพยายามเต็มที่แล้ว และก็ดีใจกับน้องๆทั้งสามคนที่ได้เหรียญรางวัล”
“จริงๆวันนี้ 11 ส.ค.วันเกิดหนูด้วยค่ะ ก็อายุครบ 27 ปี วันนี้เลย จริงๆคิดว่าอยากจะคว้าเหรียญมาเป็นของขวัญให้ตัวเอง แต่เมื่อสุดท้ายมันไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ซึ่งก่อนมาแข่งขันก็ได้รับกำลังใจดีจากทุกทาง หรืออย่างคนที่บ้านก็บอกให้สู้ๆนะ ส่วนเส้นทางของหนูหลังจากนี้ ตั้งใจจะกลับไปเรียน ป.โท ที่ม.กีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเชียงใหม่ให้จบก่อน ส่วนอนาคตในเล่นยกน้ำหนักตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ส่วนตัวหนูอยากจะเห็นน้องๆในทีมทำผลงานก้าวขึ้นมาทดแทน ลงทำการแข่งขันในรายการระดับนานาชาติแทนหนูต่อไปด้วย“
”ส่วนกลับไปที่ไทยอยากกินชาบู ชานมไข่มุกที่สุด ส่วนอาหารฝรั่งเศสคงจะไม่กินแล้ว ขอพอแค่นี้ก่อน กลับไปที่ไทยขอกินส้มตำแซ่บๆให้หายคิดถึง“