ผลบอล ฝรั่งเศส พบ สเปน : กระทิงต่อเวลาฯดับฝันตราไก่ ซิวทองบอลชายโอลิมปิก

ฟุตบอลชาย โอลิมปิกเกมส์ 2024 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าภาพ ฝรั่งเศส พบกับ สเปน เพื่อชิงเหรียญทองและคว้าแชมป์เพิ่มเป็นสมัยที่ 2 หลังทั้งคู่เคยได้แชมป์มาแล้วโดยทัพตราไก่ทำได้เมื่อ 1984 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ส่วนทัพกระทิงดุได้เมื่อสมัยที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพที่บาร์เซโลน่า ปี 1992 

เธียร์รี่ อองรี กุนซือของทัพตราไก่จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนามนำโดยสามแนวรุกตัวเก่งทั้ง ไมเคิ่ล โอลีเซ่, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า และอเล็กซ็องดร์ ลากาแซตต์ กัปตันทีม ส่วนทัพสเปนภายใต้การคุมทีมของ ซานติ เดเนีย พร้อมจัดชุดใหญ่เช่นกันวาง อาเบล รุยซ์ หน้าเป้าและมีตัวสนับสนุนทั้ง ไอมาร์ โอโรซ, เฟร์มีน โลเปซ และเซร์คิโอ โกเมซ

เปิดฉากครึ่งแรก "เจ้าภาพ" เปิดเกมรุกเข้าใส่เต็มสูบ และแค่นาทีที่ 11 แฟนตราไก่ได้เฮกันลั่นทั่ว พาร์ค เดส์ แพร็งซ์ หลัง ฝรั่งเศส ชิงขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่สเปนเคลียร์บอลไม่ดีมาเข้าทาง เอ็นโซ่ มีโย่ต์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเสาแรก อาร์เนา เตนาส นายด่านกระทิงดุปัดไม่ดีบอลปลิ้นเข้าเสาไกลเป็นประตูแรกของมิดฟิลด์จากสตุ๊ดการ์ทในทัวร์นาเมนต์นี้

ทว่าสเปนไม่หวั่นมาไล่ตีเสมอแบบทันควัน 1-1 ในนาทีที่ 18 จากจังหวะบุกขึ้นมาลุ้นครั้่งแรกต่อบอลขึ้นมาทางขวาก่อนเข้ากลางให้ อเล็กซ์ บาเอน่า จ่ายเร็วจังหวะเดียวขึ้นหน้าให้ เฟร์มีน โลเปซ วิ่งมาแปทีเดียวหนีมือ กีโยม เรสเตส เข้าไปอย่างเฉียบขาดเป็นประตูที่ 5 ของดาวเตะจากบาร์เซโลน่าในโอลิมปิกครั้งนี้ ตามหลัง ซูเฟียเน่ ราฮีมี่ ดาวซัลโวจากโมร็อกโกที่ยิงไป 8 เม็ด ถึงสามประตู

เท่านั้นไม่พอ โอกาสลุ้นแค่หนที่สองของทัพ "กระทิงดุ" พลิกแซงขึ้นนำเจ้าภาพทันที 2-1 ในนาทีที่ 25 บอลขึ้นมาทางซ้ายปาดเข้าไปในกรอบ 6 หลา เฟร์มีน โลเปซ พุ่งเข้าชาร์จถึงก่อนนายด่านตราไก่ส่งบอลเข้าก้นตาข่าย เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้มีลุ้นแฮตทริกทันที

ทัพตราไก่ทรงทรุดชอตไปดื้อๆ เลย และอีกสามนาทีต่อมา น.28 แฟนเจ้าภาพเงียบกันกริบ เมื่อสเปนมาได้ฟรีคิกทางซ้ายก่อนที่ อเล็กซ์ บาเอน่า จะปั่นข้ามกำแพงเข้าไปอย่างสุดสวยให้ สเปน ทะยานนำห่าง 3-1 

ช่วงทดเจ็บนาที 45+2 ตราไก่เกือบได้ประตูไล่มาจากลูกยิงของ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า แต่ยังไม่ผ่านมือ อาร์เนา เตนาส ที่ยังพุ่งปัดออกไปปลายมือ

จบครึ่งแรก ฝรั่งเศส ตามหลัง สเปน 1-3 

ครึ่งหลัง นาที 52 อองรี ปรับทัพส่งทั้ง แม็กเนส อคิลูเช่ และอาร์โนลด์ คาลิมูเอนโด ลงมาแทนที่ โฌริส โชตาร์ และ อเล็กซ็องดร์ ลากาแซตต์

"ตราไก่" พลาดโอกาสทองหลัง นาที 57 อาเดรียง ทรุฟแฟร์ ครอสมาเสาแรกให้ มานู โกเน่ โขกชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ฝรั่งเศสดาหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง นาที 72 มานู โกเน่ ได้โอกาสสับไกในกรอบเน้นๆ แต่บอลยังโดน อาร์เนา เตนาส ปัดออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ "ตราไก่" ยังไม่ได้เม็ดที่สอง

จนแล้วจนรอดทัพ "ตราไก่" ที่บุกแหลกมาได้เม็ดที่สองไล่มา 2-3 ในนาที 78 จากจังหวะที่ ไมเคิ่ล โอลีเซ่ ซัดฟรีคิกเข้าไปบอลไปถูกปลายเท้า แม็กเนส อคิลูเช่ เบาๆ ก่อนลอดขาแนวรับสเปนเสียบเสาไกลเข้าไป  

นาที 90+1 เสียงเชียร์เจ้าภาพดังกระหึ่มเมื่อ ฝรั่งเศส มาได้ลูกที่จุดโทษ หลังผู้ตัดสินวิ่งไปเช็ก วีเออาร ข้างสนามก่อนยืนยันเป็นจุดโทษหลัง ฆวน มิรานด้า ไปดึงแข้งตราไก่ล้มลงในกรอบเขตโทษ และเป็น ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ ฝรั่งเศส ไล่ตีเสมอ 3-3 

ช่วงต่อเวลาครึ่งแรก นาที 100 สเปน มาพลิกแซงขึ้นนำ 4-3 จากจังหวะที่ เซร์คิโอ โกเมซ แทงบลให้ เซร์คิโอ กาเมโย่ ตัวสำรองหลุดเข้าไปชิพบอลข้ามตัว กีโยม เรสเตส เข้าไปอย่างเหนือชั้น

ช่วงทดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษฯ นาที 120+1 ทัพกระทิงดุมาได้ประตูตอกฝาโลงจากจังหวะโต้กลับเร็ว อาร์เนา เตนาส นายด่านทัพกระทิงจัดแอสซิสต์ผ่านบอลให้ เซร์คิโอ กาเมโย่ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดสวนตัว เรสเตส เข้าไปให้ สเปน ขึ้นนำห่าง 5-3

จบเกม สเปน ผงาดคว้าเหรียญทองโอลิมปิก 2024 หลังดับฝันเอาชนะเจ้าภาพ ฝรั่งเศส ในรอบชิงชนะเลิศ 5-3 ทำให้ทัพ "ตราไก่" ได้แค่เหรียญเงิน ส่วน โมร็อกโก คว้าเหรียญทองแดงไปครอง

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่ลงสนาม

ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : กีโยม เรสเตส - คีลิอาน ซิลดิลเลีย, โลอิก บาเด้, คาสเตลโล่ ลูเกบา, อาเดรียง ทรุฟแฟร์ - เอ็นโซ่ มีโย่ต์, มานู โกเน่, โฌริส โชตาร์ - ไมเคิ่ล โอลีเซ่ - อเล็กซ็องดร์ ลากาแซตต์, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

สเปน (4-2-3-1) : อาร์เนา เตนาส - มาร์ก ปูบิลล์, เอริก การ์เซีย, เปา กูบาร์ซี่, ฆวน มิรานด้า - ปาโบล บาร์รีออส, อเล็กซ์ บาเอน่า - ไอมาร์ โอโรซ, เฟร์มีน โลเปซ, เซร์คิโอ โกเมซ - อาเบล รุยซ์