"วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พ่ายแพ้วิคเตอร์ อเซลเซ่น มือ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก 0-2 เกม ในรอบชิงชนะเลิศ ชายเดี่ยว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ส.ค.2567 แต่เชื่อเหลือเกินว่า แฟนกีฬาชาวไทยทุกคนก็คงอดภูมิใจ และมีความสุขกับผลงานของ "วิว กุลวุฒิ" ในโอลิมปิกเกมส์รอบนี้ไม่ได้เช่นกัน 

เด็กหนุ่มจากสโมสรแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่มุมานะให้กับการฝึกซ้อมแบบสุดๆ ก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่โอลิมปิกไทยคนใหม่ และจารึกหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทยอีกครั้ง จากการคว้าเหรียญเงิน ชายเดี่ยว โอลิมปิกเกมส์ 2024 หลังก่อนหน้านี้เราเข้าไปใกล้กับเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากสุด ก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2004

หนนั้น "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศชายเดี่ยวได้ ก่อนไปพ่าย เตาฟิค ฮิดายัต จากอินโดนีเซีย 0-2 เกม และในเกมชิงเหรียญทองแดง ก็ไปพ่ายให้กับ โซนี่ คุนโคโร จากอินโดนีเซีย 0-2 เกม ชวดเหรียญทองแแดง ไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นทีมแบดมินตันไทยก็ทำได้แค่เกือบและเฉียดไปเฉียดมา ซึ่งส่วนมากก็จะไปจอดป้ายที่รอบก่อนรองชนะเลิศ

ความสำเร็จในศึก "ปารีส 2024" ได้ยุติการรอคอยเหรียญรางวัลของทีมแบดมินตันไทยในโอลิมปิกเกมส์ ที่รอคอยมานานถึง 32 ปี หรือนับตั้งแต่แบดมินตัน บรรจุแข่งขันในโอลิมปิกครั้งแรก ปี 1992 ที่สเปนลงด้วย

ขณะเดียวกันเหรียญรางวัลของ "วิว" ก็ยังถือเป็นเหรียญรางวัลแรกอย่างเป็นทางการของทัพนักกีฬาไทย ในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ด้วย ซึ่งเราแฟนๆกีฬาชาวไทย ต่างก็เอาใจช่วยและลุ้นว่านี่อาจจะเป็นเหรียญรางวัลเบิกทาง ที่สร้างขวัญและกำลังใจให้กับหลายๆชนิดกีฬาของทัพไทย คว้าเหรียญวันท้ายๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ "กุลวุฒิ" สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย สมัยยังเยาวชน เจ้าตัวได้จารึกชื่อเป็นนักแบดมินตันเยาวชนชายเดี่ยวคนแรกที่คว้าแชมป์โลก 3 สมัย ในวัย 18 ปี (ปี 2017, 2018 และ 2019) ซึ่งก็เป็นคนไทยคนที่สองที่ทำสำเร็จ ต่อจากรุ่นพี่ รัชนก อินทนนท์ ที่คว้าแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยเช่นกัน ในปี 2009–2011

หลัง กุลวุฒิ ขยับขึ้นมาลุยเล่นในระดับอาชีแบบเต็มๆ ก็เริ่มสร้างผลงานและเขย่าวงการแบดมินตันโลก  ด้วยการปราบนักกีฬามือท็อปได้อยู่บ่อยๆ และทำผลงานได้ดี จนคว้าแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์มาครองได้แล้ว 3 รายการ ทั้งที่ไทย, อินเดีย และเยอรมัน และเป็นรองแชมป์อีก 5 รายการ ขณะเดียวกันยังได้แชมป์โลก 1 สมัย ในปี 2023 และรองแชมป์โลกอีก 1 สมัย ปี  2022 โดยเคยขึ้นไปรั้งมือ 3 ของโลก เมื่อ 3 มิ.ย. 2023 ซึ่งก็ถือเป็นอันดับโลกดีที่สุดของเจ้าตัว

ทว่าหลังจากได้แชมป์โลก เมื่อปลายเดือน ส.ค.2023 กุลวุฒิ เผชิญกับปัญหาอาการป่วยและบาดเจ็บกวนใจ ส่งผลถึงฟอร์มการเล่นที่ตกลงไป ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่ามีปัญหากับการความมั่นใจในสนามด้วย จากการที่ต้องแบกดีกรีแชมป์โลกลงแข่งขัน ซึ่งหลายรายการเจ้าตัวร่วงตกรอบตั้งแต่รอบแรกๆ และก็ส่งผลอันดับโลกของ “วิว” ร่วงมารั้งที่ 8 ของโลก ก่อนเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์

การมาโอลิมปิกแบบไม่ได้ถูกคาดหมายให้เป็นตัวเก็งและเต็งเหรียญรางวัล มีส่วนทำให้ กุลวุฒิ มั่นใจและลงไปเล่นอย่างไม่กดดัน เจ้าตัวผ่านรอบแรกฉลุย ก่อนเข้ามาปราบ เคนตะ นิชิโมตะ มือ 11 โลกจากญี่ปุ่น ในรอบ 16 คน

รอบ 8 คน "วิว" ทำเซอร์ไพรส์คว่ำ ฉี ยู่ฉี มือ 1 ของโลก จากจีนลงได้แบบราบคาบ สร้างความสุขให้กับแฟนๆกีฬาไทยเป็นอย่างมาก และแฟนๆยิ่งสุขไปอีกเมื่อ กลุวุฒิ เอาชนะ หลี๋ ซีเจี๋ย มือ 7 ของโลก จากมาเลเซีย ในรอบตัดเชือก เข้ามาชิงชนะเลิศกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น แชมป็เก่า ตัวพ่อของวงการในยุคนี้

ตลอดเวลา 52 นาที ของเกมในรอบชิงชนะเลิศ กุลวุฒิ พยายามงัดเทคนิคและอาวุธทุกอย่างที่มีต่อกรกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น แชมป์เก่า แต่ดูเหมือนหนุ่มเดนมาร์กจะไม่สะทกสะท้าน เพราะด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ มีความเร็วและคล่อง ทำให้ยืนปิดพื้นที่คอร์ทได้หมด แถมเทคนิคการตีทึ่เข้าขั้นสุดยอด

สุดท้าย กุลวุฒิ ไม่อาจต้านทานได้ และเป็นฝ่ายแพ้ไป 0-2 เกม 11-21, 11-21 กุลวุฒิ คว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์ ส่วน วิคเตอร์ อเซลเซ่น เป็นชายเดี่ยวคนที่ 2 ต่อจาก  หลิน ตัน ของจีน ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย

หลังจบเกม กุลวุฒิ กล่าวยกย่อง อเซลเซ่น ยังคงเป็นนักแบดมินตันที่สุดยอดแห่งยุคนี้ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับในความพ่ายแพ้แมตช์นี้ และมองว่าความพ่ายแพ้ดังกล่าว ยังทำให้เห็นว่าตัวเองมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาฟอร์มการเล่นให้คงที่และมีมาตรฐานมากกว่านี้

กุลวุฒิ ยังกล่าว ขอบคุณกองเชียร์คนไทยที่ติดตามให้กำลังใจตนเองเสมอมา และอยากขอโทษที่ไม่สามารถนำเหรียญทองกลับไปฝากได้ ส่วนโอลิมปิกเกมส์ครั้งหน้า 2028 ที่สหรัฐฯ เจ้าตัวมองเป้าไปที่การมีชื่อผ่านเข้าร่วมการแข่งขันให้ได้ก่อน เพราะก็ยังไม่แน่ใจว่าตนเอง ณ เวลานั้น ในวัย 27 ปี จะมีสภาพร่างกายดีพร้อมแค่ไหน ที่สำคัญยังมีน้องๆนักกีฬาไทยรุ่นใหม่อีกหลายคนที่กำลัง ไต่อันดับโลกขึ้นมา ดังนั้นเมื่อถึงเวลานั้นอาจไม่ได้มีตนแค่คนเดียว

ด้าน วิคเตอร์ อเซลเซ่น ที่เพิ่งสถิติชนะ "วิว" เป็นครั้งที่ 6 จากการพบกันทั้งหมด 7 ครั้ง ก็กล่าวชื่นชม กุลวุฒิ เช่นกันว่าเป็นคนที่มีฝือระดับท็อปของโลกคนหนึ่ง และเชื่อว่ากุลวุฒิ จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่ดียิ่งๆขึ้นกว่านี้ และก็มีโอกาสที่ใน 4 ปีข้างหน้า จะคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์

เช่นกันกับ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ก็ได้ออกมาชื่นชมและยกย่อง กุลวุฒิ ว่าเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมทั้งในและนอกสนาม เป็นนักกีฬาที่มีสภาพจิตใจแแข็งแกร่ง และมีสมาธิที่แน่วแน่ ซึ่งหากไม่มีสิ่งเหล่านี้ ก็คงทำให้ "วิว" ไม่สามารถก้าวขึ้นมาสร้างความสำเร็จได้แบบนี้ในหลายๆครั้งที่ผ่านมา รวมถึงครั้งนี้ที่คว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์

เหรียญรางวัลของ กุลวุฒิ ในศึก "ปารีส 2024" อาจเป็นใบเบิกทางที่ดีของทัพไทยในมหกรรมกีฬาครั้งนี้ ขณะเดียวกันยังทำลายกำแพงของทีมแบดมินตันไทยที่ร้างความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ จากการไม่เคยได้เหรียญรางวัลมาก่อนเลย แม้จะถูกยกเป็นชนิดกีฬาความหวังของไทยมาโดยตลอด จากการที่มีนักกีฬามือดีมือดัง ก้าวขึ้นมาสร้างผลในเวทีอาชีพและระดับโลกอย่างไม่ขาดสาย

ความสำเร็จในรอบนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นนับหนึ่งที่ทำให้ทีมแบดมินตันไทยสานต่อผลงานในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งถัดๆไป เหมือนที่ 3 กีฬาของไทย อย่าง มวยสากล, ยกน้ำหนัก หรือ เทควันโด ที่ต่างก็สร้างผลงาน และต่อยอดความสำเร็จในระดับสูงบนเวทีโอลิมปิกเกมส์ หลังเริ่มได้เหรียญเป็นครั้งแรก