รัชนก -ไถ้ ซื่อหยิง ปิดฉากคู่รักคู่แค้นในแบดมินตันโอลิมปิก

แฟนๆแบดมินตันคงจะได้ชมการแข่งขันที่คุณภาพสุดๆไปแล้ว ในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ Adidas Arena ในกรงุปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ในประเภทหญิงเดี่ยว รอบแบ่งกลุ่ม แมตช์สุดท้าย ระหว่าง "เมย์" รัชนก อินทนนท์ มือ 21 ของโลก พบกับ ไถ้ ซื่อหยิง มือ 3 ของโลกจากไต้หวัน ซึ่งจบลงด้วยการชัยชนะของ เมย์ รัชนก อินทนนท์ ไป 2-0 เกม 

นับเป็นการรีแมตช์ในโอลิมปิกเกมส์อีกครั้ง หลังจากที่ปี 2020 ที่ญี่ปุ่นนั้น ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ผลปรากฎว่า ไถ้ ซื่อหยิง สามารถเบียดเอาชนะไปได้แบบสนุก 2-1 เกม แล้วภาพต่อมาก็คือ น้ำตาที่ปล่อยโฮออกมาสุดๆ ของเมย์ รัชนก ที่แฟนๆแบดมินตันชาวไทยและเทศ คงจะได้เห็นภาพนั้นไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว 

ทุกคนต่างส่งกำลังใจให้เมย์ รัชนก หลังจบการแข่งขันอย่างล้นหลาม ในตอนนั้นเธอเป็นความหวังของคนไทยในการที่คว้าเหรียญรางวัลให้ได้ แต่ทุกอย่างมันตรงกันข้าม 

แต่โอลิมปิกเกมส์ที่ปารีส เมย์ รัชนก มาในแบบไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้ว จากอันดับโลกที่หลุดจากท็อป 5 หลังจากการจับสายออกมานั้นพอรู้ว่าต้องอยู่ร่วมสายกับ ไถ้ ซื่อหยิง เมย์ บอกว่า "พอรู้ว่าเป็น ไถ้ ซื่อหยิง จากไต้หวัน ก็คิดว่าทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ หากมองในแง่ดีหากเราเอาชนะ ไถ้ ซื่อหยิง เป็นแชมป์กลุ่มได้ก็จะทำให้ผ่านเข้าไปสู่รอบ 8 คนสุดท้ายได้เลย"

ผลการแข่งขันก็ออกมาเป็น เมย์ รัชนก ทำให้แฟนกีฬาชาวไทยที่รับชมการถ่ายทอดสดนั้น มีความสุขและมีน้ำตาไปพร้อมกันหลังจบเกมนี้ ด้วยชัยชนะของ เมย์ 2 เกมรวด สกอร์นั้นก็มีแอบให้เสียวกันบ้างเล็กน้อย เป็นการเอาคืนไถ้ ซื่อหยิง ทบต้นทบดอกเลยก็ว่าได้ 

ทำให้ภาพเมื่อ 3 ปีที่แล้วนั้นลอยขึ้นมาทันที จากที่ไถ้ ซื่อหยิง ที่ทำให้ เมย์ เสียน้ำตาไปอย่างน่าเจ็บปวดในการคว้าเหรียญโอลิมปิกครั้งแรกของเธอ  แต่ในโอลิมปิกปารีส 2024 เมย์ รัชนก เป็นผู้ที่ดับฝัน ไถ้ ซื่อหยิง ในการคว้าเหรียญทองในมหกรรมแห่งมวลมนุษยชาติครั้งนี้ที่เฝ้ารอคอยมาทั้งชีวิตไปโดยปริยาย 

เมย์ บอกว่า ตอนแรกมันเฉยๆนะ พอเห็นไถ้ ซื่อหยิง  ที่ได้ลงเล่นโอลิมปิกสมัยสุดท้าย เริ่มต้นร้องไห้ เธอก็เลยร้องไห้ตาม 

ทั้งคู่ต่างร้องไห้กันออกมาชนิดที่คนดูที่ชมการถ่ายทอดสด ก็ร้องไห้อินไปตามภาพที่ออกมา มันแสดงออกมาได้อย่างชัดเจนเลยว่าการต่อสู้ระหว่าง เมย์ กับ ไถ้ ซื่อหยิง ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ได้สิ้นสุดลงแล้วในปารีสเกมส์ เพราะมันเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของทั้งคู่

แต่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือมิตรภาพที่ เมย์-รัชนก และ ไถ้ ซื่อหยิง มีให้กัน ก็คือ  ผู้ชนะกอดปลอบประโลมเพื่อนสนิท ส่วนผู้แพ้กล่าวยินดีและอวยพรให้เพื่อนด้วยความปรารถนาดี  นี่คือความสวยงามแห่งเกมกีฬาอย่างแท้จริง

หลังจบการแข่งขันนี้ ผมเชื่อได้ว่าคงมีคำพูดหลายหมื่นล้านคำที่คนดูทั่วโลกได้เห็นออกไปนั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ในสนามจะสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายมากแค่ไหน ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไรแต่ 2 คนนี้ ทำให้ทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า ชัยชนะไม่สำคัญเท่ากับมิตรภาพ (Victory is not as Important as Friendship.) ผมเชื่อได้เลยว่าโมเมนต์นี้แฟนกีฬาจะจดจำไว้ไปอีกตราบนานเท่านาน"