วิจารณ์ พลฤทธิ์ ชักห่วงการตัดสินมวยโอลิมปิก มีตัวอย่างคู่ "เฟี้ยว" เจอกรรมการฟิลิปปินส์แหกโผให้แพ้ทั้ง 3 ยกแบบงงๆ ยอมรับหากเจอแบบนี้ต้องต่อยให้ชัดเจนมากกว่านี้
ภายหลังจากที่ทีมมวยสากลทีมชาติไทยชุดทำศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ขึ้นเวทีชก 3 คนแรก เมื่อ 27 ก.ค. 67 ในรุ่น 54 กก. หญิง "เฟี้ยว" จุฑามาศ จิตรพงศ์ ชนะ ซารา เซอร์โควิช จาก เซอร์เบีย 4-1 เสียง เข้ารอบ 16 คนสุดท้ายไปพบ วิดัด เบอร์ทัล จากโมร็อกโก วัย 24 ปี ที่ได้บายในรอบแรก ดีกรีแชมป์แอฟริกัน 2023 ชกวันที่ 30 ก.ค. 67 เวลา 17.52 น.
ขณะที่ รุ่น 80 กก. ชาย วีระพล จงจอหอ แพ้ คริสเตียน ฮาเวียร์ พินาเรส จากโดมินิกัน 0-5 เสียง และรุ่น 60 กก. หญิง "เนย" ธนัญญา สมนึก แพ้ ดอนเจตา ซาดิก จากโคโซโว 2-3 เสียง หลังการแข่งขันธนัญญาถึงกับปล่อยโฮ ร้องไห้ออกมาด้วยความผิดหวัง ทำใจไม่ได้ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แม้จะพยายามยืนทำสมาธิรวบรวมสติอยู่นานก็ตาม
พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมกำปั้นหญิงกล่าวว่า สำหรับ "เฟี้ยว" จุฑามาศ จิตรพงศ์ ไฟต์หน้าที่เจอโมร็อกโก เคยซ้อมกันมา 10 กว่าวัน มีหมัดหน้า สูงกว่าเรา เชื่อว่าผ่านได้แต่ไม่ประมาท ส่วนการที่กรรมการให้คะแนนฟิลิปปินส์เป็นคนเดียวที่ให้ไทยแพ้ และแพ้ทั้ง 3 ยกนั้น วิจารณ์กล่าวหลังจาก จุฑามาศชกจบว่า "ก็ดูของเราชนะ ยก 3 ไม่น่าแพ้ ไม่รู้มองยังไง มั่นใจว่าน้องทำได้ดีกว่า แต่ไม่กังวลการตัดสิน"
"ส่วนคู่ของธนัญญา รู้สึกติดใจกับคำตัดสินเพราะยก 2 คิดว่าดีกว่าแต่ไม่น่าออก 4-1 อีกทั้งคู่แข่งก็อ่อนไปอ่อนมา แล้วมากอดก็ไม่มีการเตือนเลย พยายามถ่วงเวลาตลอด รวมถึงยก 3 ด้วย คู่แข่งดูอ่อนแรงจนน่าจะออกทางเราด้วยซ้ำ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการชกวันแรก ผู้สื่อข่าวสอบถามวิจารณ์ย้ำอีกครั้งว่า เมื่อดูนักชกไทยชุดแรกขึ้นเวทีแล้ว หนักใจกับแนวทางการตัดสินหรือไม่ ซึ่งเจ้าของเหรียญทองมวยโอลิมปิก 2000 ตอบว่า "เริ่มหนักใจแล้ว" ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งบอกว่า "ไม่กังวล" หลังจบคู่ของจุฑามาศ
"ดูตั้งแต่เฟี้ยว (จุฑามาศ) กรรมการฟิลิปปินส์ให้แพ้ 3 ยก ผมว่าน่าจะมีสักยกหรือ 2 ยก ที่ได้ แต่นี่มันต่างกันเลย อย่างเนย (ธนัญญา) เห็นอยู่ว่ากอด แต่ไม่เตือน ไม่อะไร แถมมาเตือนเราอีก"
วิจารณ์ พลฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า นักมวยหญิง 4 คนที่เหลือ มีความหวังแน่นอน อย่างไรก็ตามตนต้องกำชับนักกีฬาต่อยชัดเจน ยอมรับว่ายังต่อยไม่เคลียร์เท่าไหร่ ต้องต่อยให้ชัดเจน มีบุกเข้าทำเยอะๆ