จากกรณีที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีการสำรวจจากสมาคมกีฬาต่างๆ ก่อนจะมีการตั้งเป้าหมายของโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เอาไว้ถึง 6 เหรียญทอง แบ่งเป็น มวยสากล 2 ทอง, เทควันโด 1 ทอง, ยกน้ำหนัก 1 ทอง, แบดมินตัน 1 ทอง และกอล์ฟ 1 ทองนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าเป้าหมาย 6 ทองที่วางไว้เป็นการประเมินจากข้อมูลของสมาคมต่างๆ แต่เมื่อมาถึงตรงนี้แล้วไม่อยากให้ไปยึดติดกับการประเมินตรงนั้น เพราะเรารู้ดีว่าทัพนักกีฬาไทยไม่เคยทำได้ถึง 6 ทอง แต่ก็อยากให้มีการผลักดันกันให้เต็มที่ อยากให้มองว่าทุกคนมีโอกาส เพราะบางทีไม่ได้ขึ้นกับฝีมืออย่างเดียว ยังมีเรื่องของโชค หรือปัจจัยหลายๆ อย่างรวมอยู่ด้วย

"แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหรียญที่เราจะได้ก็คงจะมาจาก 5 ชนิดกีฬาดังกล่าว อยู่ที่ชนิดไหนจะสามารถทำได้เข้าเป้าที่วางไว้ แต่เอาจริงๆ ยอมรับว่าได้สัก 2-3 เหรียญทองก็ถือว่าดีมากๆแล้ว" ดร.ก้องศักด กล่าว

ผู้ว่าการกกท. กล่าวเสริมอีกว่า ส่วนกีฬาอื่นๆที่มองว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็ต้องยอมรับว่าจากสถิติและการวิเคราะห์คู่ต่อสู้ ถ้าหากพ้นจาก 5 ชนิดกีฬาดังกล่าว ก็คงจะได้แค่ลุ้นในการทำสถิติใหม่มากกว่า อย่างเช่น ภูริพล บุญสอน ก็หวังทำสถิติใหม่ให้ได้ หรือ "เอสที" วารีรยา สุขเกษม ที่ตั้งเป้าจะมาลุ้นเหรียญในครั้งหน้า หรือเรือใบเองก็เป็นนักกีฬาหน้าใหม่เช่นกัน

"ต้องยอมรับว่าครั้งนี้มีนักกีฬาหน้าใหม่ถึง 37 คน ต้องมาดูว่าจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน ว่ายน้ำเองก็ลุ้นทำสถิติตัวเอง ซึ่งหลายๆ ชนิดต้องยอมรับว่ายังไม่ถึงเหรียญในตอนนี้" ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้าย