แม้ว่าศึก โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ แต่ว่ากีฬาฟุตบอลชายนั้นจะแข่งกันก่อน โดยจะเริ่มขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ ตามกฎในกีฬาฟุตบอลชายของ โอลิมปิก เกมส์ นั้น ทุกทีมต้องใช้ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีลงชิงชัย แต่มีข้อยกเว้นว่าแต่ละทีมสามารถเรียกนักเตะอายุเกินกว่าเกณฑ์มาติดทีมได้สูงสุด 3 คน โดยกฎที่ว่านี้ใช้ตั้งแต่ โอลิมปิก เกมส์ 1996 เป็นต้นมา
แน่นอนว่าหลายทีมก็เรียกนักเตะอายุเกินกว่าเกณฑ์มาติดทีมของตัวเอง ด้วยความหวังว่าประสบการณ์ของแข้งเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ในศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024 นั้น ญี่ปุ่น เป็นทีมเดียวจากทั้งหมด 16 ทีมที่ไม่เรียกนักเตะอายุเกินกว่าเกณฑ์มาเล่นเลย โดยนักเตะที่อายุเยอะเยอะที่สุดของพวกเขามี ยู ฮิราคาวะ, เลโอ โคคุโบะ, อายูมุ โอฮาตะ, โชตะ ฟูจิโอะ, เรียวยะ นิชิโอะ และ เคอิน ซาโตะ ที่ต่างก็มีอายุ 23 ปีเท่ากัน
นี่นับเป็นครั้งที่ 3 เข้าไปแล้วที่ ญี่ปุ่น ไม่เรียกนักเตะอายุเกินกว่าเกณฑ์มาร่วมทำศึก โอลิมปิก เกมส์ เลย จากการลงชิงชัยทั้งหมด 8 หน ซึ่งบางคนก็อาจจะสงสัยว่า 2 ครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นตอนไหนบ้าง
หนแรกนั้นคือศึก โอลิมปิก เกมส์ 1996 ที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ และนั่นก็ถือเป็นหนแรกที่ทีมฟุตบอลชายจากแดนอาทิตย์อุทัยได้เข้าร่วมการแข่งมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติด้วย
ครั้งนั้นนอกจาก ญี่ปุ่น มันก็มีอีก 3 ชาติที่ไม่ใช้โควตานักเตะอายุเกินเลย ได้แก่ ฝรั่งเศส, ฮังการี และ สเปน โดยกุนซือของ ญี่ปุ่น ในชุดนนั้นเป็นคนที่แฟนบอลชาวไทยคุ้นหูเป็นอย่างดี นั้นคือ อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติไทยนั่นเอง
สำหรับคนที่อายุเยอะที่สุดของ ญี่ปุ่น ในชุดนั้นคือ ชิเงรุ โมริโอกะ, ริวจิ มิชิกิ, โทชิฮิโระ ฮัตโตริ, มาซากิโยะ มาเอะโซโนะ, เคนอิจิ อูเอมูระ และ ฮิโรยูกิ ชิราอิ ที่มีอายุ 22 ปีเท่ากัน ขณะเดียวกันทีมชุดนั้นก็มีเจ้าหนูวัย 19 ปีที่ชื่อ ฮิเดโตชิ นากาตะ ติดทีมมาด้วย
ในคอนนั้น ญี่ปุ่น กจับไปอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ บราซิล, ไนจีเรีย และ ฮังการี ซึ่งพวกเขาก็ประเดิมด้วยการเจอกับ บราซิล และทำให้โลกต้องช็อกหลังเอาชนะไปได้ 1-0 จากประตูชัยของ เทรุโยชิ อิโตะ ก่อนที่ในนัดสองจะแพ้ ไนจีเรีย 0-2
ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ญี่ปุ่น เอาชนะ ฮังการี ไปได้ 3-2 โดยมาได้ 2 ประตูในช่วงท้ายเกม ทำให้พวกเขามี 6 คะแนนเท่ากับ บราซิล และ ไนจีเรีย น่าเสียดายที่พวกเขาได้เป็นแค่อันดับ 3 ของกลุ่มจากการเป็นรองเรื่องผลต่างประตูได้-เสียจนทำให้ต้องตกรอบ โดยแชมป์ในครั้งนั้นตกเป็นของ ไนจีเรีย
ครั้งที่ 2 ที่ ญี่ปุ่น ไม่ใช้โควตานักเตะอายุเกินกว่าเกณฑ์เลยคือศึก โอลิมปิก เกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ ซึ่งนอกจากพวกเขาแล้วก็มีเพียง ไอวอรี่ โคสต์ ที่ไม่ใช้โควตาที่ว่าเลย
เฮดโค้ชของ ญี่ปุ่น ชุดนั้นคือ ยาสีฮารุ โซริมาจิ ส่วนคนที่อายุเยอะที่สุดของทีมอยู่ที่ 23 ปี และมีทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย โยเฮ โทโยดะ, ทาคูยะ ฮอนดะ, ฮิโรยูกิ ทานิงูชิ และ ไคโตะ ยามาโมโตะ
ญี่ปุ่น ชุดนั้นมีนักเตะที่แฟนบอลชาวไทยได้ยินแล้วน่าจะคุ้นหูหลายคนด้วย อย่างเช่น เคซึเกะ ฮอนดะ (อายุ 22 ปี), ชินจิ โอกาซากิ (อายุ 22 ปี), ยูโตะ นางาโตโมะ (อายุ 21 ปี), มายะ โยชิดะ (อายุ 19 ปี) และ ชินจิ คางาวะ (อายุ 19 ปี)
ครั้งนั้น ญี่ปุ่น อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ สหรัฐอเมริกา, ไนจีเรีย และ เนเธอร์แลนด์ส แต่พวกเขาปราชัยหมดทั้ง 3 นัด เริ่มจากการพ่ายขุนพลแดนลุงแซม 0-1 ตามด้วยการแพ้ ไนจีเรีย 1-2 และปิดท้ายด้วยการปราชัยต่อ เนเธอร์แลนด์ส 0-1
ในศึก โอลิมปิก เกมส์ 2024 ลูกทีมของ โกะ โออิวะ อยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ อิสราเอล, มาลี และ ปารากวัย ซึ่งต้องดูกันว่าหนนี้พวกเขาจะสามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการไม่มีนักเตะอายุเกินกว่าเกณฑ์ได้หรือไม่
- เด็กเกร็ดบอล -