"ปรีดิ์อัญ" ควบอาชาคู่ใจจบอันดับ 19 ที่สเปน ก่อนบู๊โอลิมปิก

ความเคลื่อนไหวของนักกีฬาขี่ม้าชาติไทย "ปรีดิ์อัญ" ชนกภรณ์ การุณยธัช ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาขี่ม้าไทย เป็นนักกีฬากระโดดข้ามเครื่องกีดขวางคนแรกของไทยที่คอวลิฟายผ่านเข้าไปแข่งมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ได้เป็นครั้งแรก แต่หลังจากที่ "ปรีดิ์อัญ" ประสบอุบัติเหตุตกม้า เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาหักต้องกลับมาผ่าตัดและรักษาตัวที่ประเทศไทย เป็นระยะเวลานานเกือบ 3 เดือนและเมื่อกระดูกเท้าเชื่อกันสนิท ทำกายภาพบำบัด สามารถเดินเองได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าช่วย และขึ้นม้าฝึกซ้อมได้ "ปรีดิ์อัญ" จึงเดินทางกลับประเทศฝรั่งเศสทันที่เพื่อกลับไปฝึกซ้อมกับอาชาคู่ใจ"ทีน่า" ที่ห่างหายกันมานานถึง 3 เดือน 

หลังจากที่ "ปรีดิ์อัญ" แล ะ"ทีน่า" กลับมาฝึกซ้อมร่วมกันอีกครั้งเป็นระยะเวลา 1 เดือน ได้ออกแข่งรายการแรกในรอบ 4 เดือนที่ฝรั่งเศส ความสูง 145 ซม. สามารถกระโดดเคลียร์ราวได้ในรอบแรก ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย รอบกรังปรีซ์ แต่น่าเสียดายก่อนจะจบการแข่งขันเพียงแค่ 2 เครื่อง ขาหลังทีน่าเตะเครื่องหล่น ทำให้มีแต้มเสีย 4 คะแนน จบอันดับ 9 

จากนั้นสองนักกีฬาไทย "ปรีดิ์อัญ" และ "ทีน่า" เดินทางไปยังประเทศสเปน ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฏาคม 2567 เพื่อลงแข่งขันอุ่นเครื่องวอร์มก่อนโอลิมปิก 2024 จะเริ่มขึ้น ซึ่งระหว่างที่อยู่ประเทศสเปน "ปรีดิ์อัญ" ยังคงทำกายภาพบำบัด เพื่อให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์ที่สุด โดยจะนั่งเครื่องจากประเทศสเปน ไปยังประเทศเบลเยียมเพื่อทำกายภาพบำบัดกับนักกายภาพที่ดูแล "ปรีดิ์อัญ" มาตั้งแต่เริ่มมาอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส 

สำหรับช่วงที่อยู่ที่ฝรั่งเศส จะนั่งรถไฟไปเบลเยียมเพื่อทำกายบำบัดอาทิตย์ละ 3 วัน แต่เมื่อนักขี่ม้าสาวไทยเดินทางไปสเปน แต่ยังต้องทำกายภาพบำบัดอยู่ จึงต้องนั่งเครื่องจากสเปนมาเบลเยียมเพื่อทำกายภาพครั้งละ 2-3 วันแล้วเดินทางกลับไปแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันล่าสุดเมื่อวันที่ 11-14 ก.ค.67 "ปรีดิ์อัญ" และ "ทีน่า" ลงแข่งขันคลาส CSI*4 ความสูง 150 ซม. ในรอบแรกสองนักกีฬาไทยมีแต้มเสียจากการเตะเครื่อง 4 คะแนน จบอันดับที่ 19 ชวดเข้ารอบจั๊มอ๊อฟไปอย่างน่าเสียดาย

"ปรีดิ์อัญ" เปิดเผยหลังการแข่งขันว่า "หลังจากที่เราห่างหายจากสนามแข่งไปนานถึง 2 เดือนพอกลับมาลงสนามแข่งขัน ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ความมั่นใจของกันและกันระหว่างตนกับม้า ทีน่า ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอาการบาดเจ็บดีขึ้นเยอะเพราะได้ทำกายภาพอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่ประเทศไทยช่วงรักษาตัวไปทำกายภาพทุกวัน พอกลับมาฝรั่งเศสก็ไม่ทิ้งเรื่องการทำกายภาพ อยากให้ร่างกายหายและสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกของตัวเอง แม้ว่าอยู่ที่สเปนก็ต้องบินไปทำกายภาพที่เบลเยียม รู้สึกว่าทำแล้วร่างกายเราดีขึ้นเรื่อยๆ"

"หลังจบการแข่งขันที่สเปนได้เดินทางกลับฝรั่งเศส ซึ่งหลังจากนี้ก็คงไปซ้อมกับทำกายภาพบำบัดอย่างเดียว เพื่อเตรียมตัวไปแข่งและรอแข่งโอลิมปิก 2024 ในวันที่ 5 สิงหาคม 2567 ฝากเป็นกำลังใจและเชียร์เราสองคนด้วยนะคะ" ปรีดิ์อัญ กล่าว