1. ขนลุก หมอสมองเล่าเคสอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ พร้อมแนะวิธีป้องกัน 2. ฟังแล้วเสียวกะโหลก หมอสมองเล่าเคสจริงช่วยชีวิตคนขับมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวก 3. แค่ไม่สวมหมวกกันน็อก เจอไม้ปักกะโหลก เคสแบบนี้หมอขอเตือน 4. เรื่องจริงจากห้องผ่าตัด เตือนใจนักบิด ไม่อยากเจอกะโหลกแตก เลือดคั่ง ทำยังไงดี
หมอผ่าตัดสมองเป็นแพทย์ที่มีงานล้นมืออยู่เสมอ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะกรณีผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ที่มีความเสี่ยงสูงที่ศีรษะจะได้รับบาดเจ็บเมื่อเกิดเหตุ ดังนั้นวันนี้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงชวนคุณหมอประชา ปัญญาประสิทธิ์ ศัลยแพทย์ระบบประสาทและหลอดเลือดสมอง มาบอกเล่าประสบการณ์ชวนขนลุก และชวนให้คิดหาทางป้องกัน
แค่ไปจ่ายตลาดถึงกับโดนผ่าสมอง
กรณีแรกเป็นชาวเชียงใหม่ที่เช้าวันนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจ่ายตลาด และด้วยความเคยชินคิดว่าตลาดอยู่ใกล้ๆ เลยออกไปโดยไม่สวมหมวกกันน็อก
ใครจะคิดว่า แค่วันธรรมดาวันหนึ่งจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน มีมอเตอร์ไซค์อีกคันขับผ่านมา และเกิดการเฉี่ยวกัน จนรถของเขาเสียหลักล้มลงข้างทางจนศีรษะกระแทก ไม้ปักเข้าไปที่กะโหลก!
แม้กะโหลกเป็นกระดูกที่แข็งมาก แต่ก็มีขีดจำกัดเมื่อเจอแรงกระแทกรุนแรง กะโหลกของเขาแตกยุบ จนทำให้มีเลือดคั่ง และมีสิ่งสกปรกหลุดเข้าไป
ทีมแพทย์ต้องรีบทำการรักษาด้วยการยกกะโหลกขึ้น ทำความสะอาด และนำเลือดที่ออก ยังดีที่บาดแผลไม่ได้โดนเส้นเลือดใหญ่ คุณหมอประชาถึงกับใช้คำว่า “รอดตายอย่างหวุดหวิด”
ไอเลิฟเมืองไทย แต่แค่เรื่องนี้ เข็ดเลย
กรณีที่ 2 เป็นชาวต่างชาติอายุ 35 ปี มาเที่ยวเชียงใหม่เช่ามอเตอร์ไซค์ขับเล่น ด้วยอารมณ์สนุกสนาน และคิดว่า ไม่ได้ขับไปไหนไกล เลยไม่สวมหมวกกันน็อก แต่อุบัติเหตุคือสิ่งที่ไม่คาดฝัน เขาประสบอุบัติเหตุ จนท้ายทอยถูกกระแทกรุนแรง กะโหลกแตกร้าว จนยุบไปกดสมอง ทำให้เกิดเลือดคั่ง
ผู้บาดเจ็บมีอาการปวดหัวรุนแรง ต้องเข้ารับการผ่าตัดเร่งด่วน ด้วยการงัดกระดูกขึ้นมา ไม่ให้ไปกดเส้นเลือดดำใหญ่ ระบายเลือดที่คั่งออก และจัดกระดูกใหม่
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวคนนี้ปลอดภัยดี และยังกลับมาเที่ยวเมืองไทยเสมอ แต่บอกไว้ว่า ไม่กล้าขับมอเตอร์ไซค์โดยไม่สวมหมวกอีกแล้ว
อย่าดูเบา อาการปวดหัว เวียนหัว พฤติกรรมเปลี่ยน หลังประสบอุบัติเหตุ
กรณีสุดท้ายเป็นเรื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติอายุ 73 ปี แค่ขับมอเตอร์ไซค์ออกมาทำธุระแถวที่พักโดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อก เจออุบัติเหตุ รถเสียหลักล้ม ศีรษะกระแทก หลังเหตุการณ์เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อย แต่คิดว่าไม่เป็นไร เลยไม่ได้ไปหาหมอ
ที่ไหนได้ เขาเริ่มปวดหัวมากขึ้นๆ จนทนไม่ไหว ตัดสินใจไปโรงพยาบาล แพทย์ดูอาการแล้ว ให้ทำซีทีสแกนพบว่า มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ซึ่งคุณหมอประชาอธิบายว่า อาการแบบนี้ในตอนแรกมักไม่มีเลือดออก แต่เลือดจะค่อยๆ ซึมออกมาทีหลัง ทำให้ผู้บาดเจ็บตอนแรกจะรู้สึกว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก
นอกจากนี้คุณหมอยังได้ให้ข้อสังเกตสำคัญอีกว่า บางกรณีผู้บาดเจ็บอาจมีอาการเวียนหัวแทน หรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปภายใน 1 เดือนหลังเกิดเหตุ ผู้ประสบอุบัติเหตุรวมทั้งคนใกล้ชิดจึงควรคอยดูอาการให้ดี โดยเฉพาะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะไม่ได้สวมหมวกกันน็อก จะมีความเสี่ยงสูง หากพบว่า มีอาการข้างต้น ควรรีบไปหาหมอทันที
จาก 3 กรณีตัวอย่างที่คุณหมอประชาเล่ามา เราจะพบจุดร่วมที่ควรนำมาทบทวนเป็นบทเรียน คือ ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อก มีความเสี่ยงได้รับบาดเจ็บรุนแรง หรืออาจเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นขณะที่ผู้ประสบเหตุยังขับขี่ไปไหนไม่ได้ไกล ซึ่งตรงกับข้อมูลสำรวจที่พบว่า อุบัติเหตุมักเกิดในระยะเพียง 5 กิโลเมตรจากที่พัก ด้วยเหตุนี้ สสส. จึงอยากส่งต่อความปรารถนาดีถึงผู้ที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ทุกคนให้ “กันน็อกก่อนขี่” ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการไปไหน ใกล้หรือไกล ทั้งคนขับและคนซ้อนท้าย เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรัก
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส เพิ่มเติมได้ที่ :
Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส.
Line : @thaihealththailand
Tiktok: @thaihealth
Youtube: SocialMarketingTH
Website : Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม