1.ทำไมเจอหนักขนาดนี้ หมวกกันน็อกยังช่วยชีวิตคนเหล่านี้ได้ 2.รู้จักหมวกกันน็อกให้ดียิ่งขึ้น ตัวช่วยชีวิตของคุณโดยไม่ต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์ 3.อ่านตรงนี้ ก่อนเลือกซื้อหมวกกันน็อก จะได้ไม่เสียเงินเปล่า มั่นใจเมื่อออกถนน 4.รู้ก่อนซื้อ มั่นใจก่อนใช้ หมวกกันน็อกคุณภาพ มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
(ขอบคุณภาพจากสำนักข่าว 77 ข่าวเด็ด , ไทยรัฐ Sanook)
แม้ข่าวการสูญเสียบนท้องถนนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มีให้เห็นแทบทุกวัน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยรอดชีวิตมาได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของโชค หรือ ปาฏิหาริย์ หากเป็นเพราะการสวมหมวกกันน็อกซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากศีรษะได้รับบาดเจ็บที่เป็นสาเหตุอันดับต้นของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ภาพบน: หมวกกันน็อกช่วยชีวิตชายคนหนึ่งจากอุบัติเหตุขับชนรถบัส จนรถเสียหลักไถลกับพื้น (ขอบคุณภาพจาก pantip.com)
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งเวลาขับขี่จะช่วยให้เราปลอดภัย แต่การเลือกหมวกกันน็อกที่ได้คุณภาพก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
คุณสมบัติของหมวกกันน็อกคุณภาพ
รู้ไหมว่า หมวกกันน็อกที่เราจะฝากชีวิตได้ กว่าจะผลิตออกมา จะต้องผ่านการตรวจสอบเพื่อให้มีคุณสมบัติต่อไปนี้
1. รับไหวในทุกสภาพอากาศ หมวกกันน็อกที่ดีควรรับสภาพอากาศของประเทศไทยได้ ไม่ว่าจะเป็นร้อน เย็น ฝนตก หรือแดดเผา หมวกกันน็อกที่ได้คุณภาพจะมีการทดสอบประสิทธิภาพหมวกเสมือนอยู่ในสภาพอากาศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใส่ในตู้ปรับอุณหภูมิ ตู้ฉีดน้ำ หรือตู้ปรับบรังสียูวี ตามระยะเวลาที่กำหนด เป็นต้น
2. ดูดซับแรงกระแทก ข้อนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญ ดังนั้นในการผลิตหมวกที่มีคุณภาพ จะมีการทดสอบโดยใช้เครื่องมือปล่อยหมวกตกจากระยะความสูงที่กำหนด เพื่อวัดความสามารถในการรับแรงกระแทก
3. ทนไหวแม้โดนทิ่มแทง เมื่อเกิดอุบัติเหตุมีความเป็นไปได้ที่ศีรษะของเราจะโดนเหวี่ยงไปกระแทกวัตถุที่มีความแหลมคม การผลิตหมวกที่มีคุณภาพจะมีการทดสอบคุณสมบัติ เช่น การใช้เครื่องจักรปล่อยโลหะปลายแหลมทิ้งลงมากระแทกหมวกจากความสูงที่กำหนด หมวกที่มีคุณภาพจะสามารถรองรับแรงกระแทกเหล่านั้นได้
4. ลื่นไถลดี ไม่กระชากกระดูกต้นคอ เวลาเกิดอุบัติเหตุ หมวกกันน็อกที่ดีควรลื่นไถลเป็นอิสระ เพราะถ้ามีส่วนใดของหมวกฝืดหรือขัดกับถนน แรงเหวี่ยงนั้นอาจส่งผลต่อกระดูต้นคอ ดังนั้นหมวกที่ดี ผู้ผลิตจะมีการทดสอบคุณสมบัติข้อนี้เช่นกัน
5. เจอแรงบีบอัดก็ยังคืนรูป วัตถุดิบที่ดีในการผลิตหมวกกันน็อกจะต้องทนแรงบีบอัดได้ ดังนั้นผู้ผลิตหมวกที่ได้มาตรฐานจะนำหมวกไปทดสอบกับเครื่องกดทับ เพื่อดูประสิทธิภาพการคืนรูปของหมวก
6. เจอแรงเหวี่ยงก็ไม่หลุด แรงเหวี่ยงรุนแรงจากอุบัติเหตุอาจทำให้หมวกเลื่อนมาบังสายตา หรือหลุดจากศีรษะ ซึ่งล้วนอันตราย หมวกที่มีคุณภาพควรถูกวัดคุณสมบัติข้อนี้เช่นกัน
7. สายรัดคางทนแรงกระชาก หมวกกันน็อกอาจไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากไม่ใช้สายรัดคาด เพราะหมวกอาจหลุดเมื่อเจอแรงเหวี่ยงจากการชน โดยสายรัดคางที่ดีจะต้องทำจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นเหมาะสม และทนทาน
8. ตัวล็อกคงทน สารรัดจะทำงานคู่กับตัวล็อก โดยตัวล็อกที่มีคุณภาพ จะผ่านการทดสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานได้ดีหลายพันครั้งโดยไม่แตกร้าว
9. แผ่นบังตาป้องกันได้ทุกสภาวะ จะมีการทดสอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ค่าหักเหแสงของแผ่นบังตา เพื่อตรวจสอบความเรียบของแผ่นบังตา เพราะแผ่นบังตาที่มีค่าหักเหแสงผิดปกติ อาจทำให้ผู้ขับขี่มึนศีรษะ , ทดสอบความแข็งแรงของแผ่นบังตา นอกจากนี้แผ่นบังตาที่ดีจะสามารถกำจัดฝ้าได้ตามระยะเวลาที่กำหนดอีกด้วย
จากที่เล่ามาเบื้องต้นทำให้เห็นว่า เราควรพิจารณาให้ดีก่อนเลือกซื้อหมวกกันน็อก โดยมีวิธีเบื้องต้นง่ายๆ คือการเลือกหมวกที่มีสัญลักษณ์ มอก. ประคู่กับ QR code ตามตัวอย่างต่อไปนี้ และเมื่อเลือกได้หมวกที่มีคุณภาพแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ อย่าลืมสวมหมวกทุกครั้งเวลาขับขี่ ทั้งคนขับและคนซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะไกลหรือใกล้ก็ตาม
กดติดตามข้อมูลข่าวสาร แคมเปญที่น่าสนใจ และกิจกรรมดีๆ จาก สสส เพิ่มเติมได้ที่ :
Facebook : Social Marketing Thaihealth by สสส.
Line : @thaihealththailand
Tiktok: @thaihealth
Youtube: SocialMarketingTH
Website : Social Marketing การตลาดเพื่อสังคม