คิง เพาเวอร์ มอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ปี 6 พร้อมอบรมการบริหารสนามอย่างยั่งยืน

11 กันยายน 2566 - คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งเสริมศักยภาพคนไทยทางด้านกีฬาอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด THE POWER OF POSSIBILITIES ชีวิตไม่หยุดค้นหาความเป็นไปได้ จัดพิธีมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และงานอบรมหลักสูตรบริหารจัดการสนามฟุตบอลหญ้าเทียมอย่างมืออาชีพ ประจำปี 2566 ให้กับผู้ที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ปี 2566 จำนวน 9 แห่ง เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการดูแลบำรุงรักษาสนามฟุตบอลฯ อย่างถูกต้อง และยั่งยืน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ

โดยผู้เข้าอบรมจะได้รับความรู้ และความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการดูแล และบริหารจัดการสนามฟุตบอลฯอย่างเหมาะสม เช่น การให้ความรู้เรื่องระบบพื้นสนามฟุตบอลฯ, การดูแลสนามฟุตบอลฯ เบื้องต้น, กฎระเบียบการใช้สนามฟุตบอลฯ , การบริหารจัดการสนามฟุตบอลฯ ,การสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ฯลฯ ซึ่งจะมีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งาน และให้เกิดการใช้งานที่เป็นประโยชน์สูงสุดของชุมชนอย่างยั่งยืน

นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์  เป็นบริษัทของคนไทยที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย และพลังแห่งความเป็นไปได้ ที่ผ่านมาเรามุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “KING POWER THAI POWER พลังคนไทย” ซึ่ง “โครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย”  ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่เราได้จัดขึ้น เพื่อให้เยาวชนและชุมชนใกล้เคียงได้ใช้ประโยชน์ในการออกกำลังกาย เติมเต็มความฝันของเยาวชนในการค้นหาโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาทักษะทางด้านกีฬา และก้าวเข้าสู่วงการกีฬาระดับประเทศในอนาคต โดย คิง เพาเวอร์ มุ่งหวังให้สนามฟุตบอลหญ้าเทียมสีน้ำเงินสร้างประโยชน์ให้กับโรงเรียน ชุมชน และเยาวชนต่างๆ ทั่วประเทศ จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรม อบรมหลักสูตรบริหารจัดการสนามฟุตบอลหญ้าเทียมอย่างมืออาชีพมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สนามฟุตบอลทั้ง 9 แห่งที่ได้ผ่านการคัดเลือกในปีนี้ จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2567  โดยทุกสนามฟุตบอลฯ ที่เรามอบให้ชุมชนจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพสนามตามมาตรฐาน FIFA นอกจากนี้เรายังวางแผนในการเข้ามาดูแลบำรุงรักษาสนามฟุตบอลฯ ในทุกๆ 3 เดือนเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 6 ปี

นายวุฒิไกร ชายกวด ครู คศ.2 และครูผู้ดูแลทีมฟุตบอล โรงเรียนสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในผู้ที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย กล่าวว่า  การมีสนามที่ดี ไว้ใช้ในการฝึกซ้อม จะช่วยเสริมศักยภาพให้กับเด็ก ๆ เพราะสนามดี การฝึกซ้อมก็จะดีขึ้นด้วย สมรรถภาพร่างกายของนักกีฬาเองก็จะถูกนำออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย เมื่อก่อนเวลาเราจะซ้อม ต้องพาเด็ก ๆ ออกไปขอใช้สนามข้างนอก เพราะบางครั้งซ้อมในสนามของโรงเรียน เด็ก ๆ บางคนก็ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมเพราะสภาพสนามไม่พร้อม วันนี้ได้รับข่าวดี ผ่านการคัดเลือก จาก คิง เพาเวอร์ เหมือนฝันที่เป็นจริง เราจะใช้สนามอย่างคุ้มค่า และส่งเสริมเด็ก ๆ ของเราไปให้ถึงเป้าหมายการเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพในอนาคตต่อไป

โค้ชเต้ - อลงกรณ์ ทองอ่ำ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกระบี่ เอฟซี และเจ้าของรางวัลหัวหน้าผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมแห่งปี ในงานประกาศเกียรติคุณ FA Thailand Awards 2019 กล่าวว่า จากประสบการณ์การเป็นโค้ชฝึกสอนการเล่นฟุตบอลให้กับเยาวชนไทย ส่วนมากเด็ก ๆ จะแพ้ลูกกลางอากาศ ถ้าเริ่มฝึกซ้อมช้าจะไม่สามารถสู้กับนักฟุตบอลในโซนอาหรับ หรือยุโรปได้ ซึ่งควรเริ่มฝึกตั้งแต่อายุ 13 ถึง 14 ปี โดยเริ่มจากการใช้ลูกฟุตบอลเบอร์ 4 ที่มีหนังนุ่ม เพื่อลดความเจ็บเวลาโหม่ง ถ้าใช้ลูกฟุตบอลขนาดใหญ่หรือหนังที่แข็งเกินไปอาจทำให้เด็ก ๆ รู้สึกเจ็บและเกิดประสบการณ์ที่ไม่ดี และไม่อยากฝึกซ้อมลูกกลางอากาศ และอีกเทคนิคที่สำคัญคือการสแกนเพื่อน และคู่แข่งว่าอยู่ในตำแหน่งไหนก่อนที่ลูกฟุตบอลจะถึงตัว ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจ และการส่งลูกได้เร็วขึ้น ถ้าฝึกทักษะนี้ให้เคยชินก็จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองอีกด้วย

สำหรับโรงเรียนและชุมชน 9 แห่งที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมปี 2566 ได้แก่ โรงเรียนสนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา, โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย จ.สมุทรสาคร, โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ จ.นครราชสีมา, โรงเรียนบ้านโคกสูง จ.ขอนแก่น, ชุมชนตำบลบ่อแก้ว จ.น่าน, โรงเรียนเจียงทองพิทยาคม จ.ชัยภูมิ, โรงเรียนสุวรรณไพบูลย์ จ.ปัตตานี, โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ จ.ตรัง และโรงเรียนวัดราชบพิธ กรุงเทพมหานคร

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทุกโรงเรียนและชุมชนที่เข้ารับการอบรมการบริหารสนามฟุตบอลฯ ในครั้งนี้ จะสามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากวิทยากรทุกท่านไปปรับใช้และพัฒนาสนามฟุตบอลฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ภายใต้ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้ที่ช่องทาง Instagram /  Facebook / YouTube และ TikTok -  King Power Thai Power พลังคนไทย