"กิ๊ก" ณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ยืนยันว่าทางรัฐพร้อมหนุนจัดฟุตบอลยูธลีก เพื่อส่งเสริมนักเตะไทยในอนาคต ด้านการแข่งขันไทยลีก 3 พร้อมสนับสนุนเพราะคือรากฐานสำคัญของฟุตบอลไทย
ณณัฏฐ์ เผยว่า "ผมเองก็ได้ทราบถึงปัญหาหลายอย่างของวงการกีฬา โดยเฉพาะวงการฟุตบอลที่เป็นที่คาดหวังของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ว่านักกีฬาไทยเราไม่เก่ง นักกีฬาไทยเก่ง แต่ยังขาดโอกาส ขาดการสนับสนุน โดยเฉพาะนักกีฬาเยาวชน ซึ่งในต่างประเทศการแข่งขันในระดับเยาวชนจะถูกให้ความสำคัญมาก เพราะพวกเขาเหล่านี้คือ อนาคต ผมไม่อยากให้มีดาวรุ่งเกิดใหม่ทุกๆ 3-4 ปี แต่อยากให้มีดาวรุ่งแจ้งเกิดทุกปี เราต้องเปิดโอกาสให้พวกเค้าได้ปล่อยของ ผมจึงอยากนำยูธลีกกลับมาอีกครั้งหนึ่ง"
"ปัญหาที่สำคัญของวงการฟุตบอลไทย คือ ความต่อเนื่อง ที่เราไม่สามารถเชื่อมนักเตะเยาวชนส่งต่อขึ้นสู่นักเตะทีมชาติได้ การขาดช่วงของดาวรุ่งถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของทีมชาติ เราอาจเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน แต่ในระดับเอเชียนั้นต่างออกไป ระบบเยาวชนที่แข็งแรงเป็นหนึ่งในกลไกที่จะทำให้เราขยับเข้าใกล้เบอร์ต้นๆ ของเอเซียได้มากขึ้น อย่างประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีการพัฒนาระบบเยาวชนมาอย่างยาวนานจนตอนนี้เริ่มผลิบาน"
ลีกของเยาวชนในประเทศไทยเอง ก็ไม่ได้จัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเหมือนที่จัดแบบไทยลีก จะมีก็แต่การแข่งขันเฉพาะรายการของเอกชน ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นว่าเราควรทำอะไรให้ชัดเจน เป็นรูปธรรม และต่อเนื่อง เพื่อสร้างนักเตะรุ่นใหม่ที่พร้อมรับใช้ทีมชาติ พร้อมเข้าสู่ลีกอาชีพในไทย หรือแม้แต่พร้อมที่จะไปค้าแข้งในต่างประเทศ หากเราไม่ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ อีก 5 ปีข้างหน้า เราจะเกิดปัญหาแน่นอน
เพราะตอนนี้ให้นึกถึงนักเตะรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่มีความโดดเด่น เรายังนึกกันไม่ออกด้วยซ้ำ แล้วการแข่งขันรายการใหญ่ๆ เราจะเอาบุคลากรที่ไหน เราไม่ได้มองแค่ 4 ปีครั้งเพื่อลุ้นไปบอลโลก แต่เราต้องมองในอีก 10 ปีข้างหน้า ถึงการเป็นทีมแนวหน้าในเอเชีย เหมือนที่เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น เคยทำเขาวางรากฐานมายาวนาน และในวันนี้เขาก็ได้รับผลที่ดี ด้วยเหตุผลข้างต้นผมจึงต้องการที่ผลักดันเรื่องการจัดแข่งขันฟุตบอลยูธลีก ให้กลับมาแข่งขันอีกครั้งให้ได้ เพื่อการพัฒนาของเยาวชนต่อไปในอนาคต หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกฝ่ายต่อไป
โดยทางภาครัฐบาล ก็ได้เล็งเห็นและพร้อมที่จะให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ด้วยการเดินหน้าผลักดันสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการจัดการแข่งขัน โดยให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เป็นหน่วยงานที่เข้ามาดูแลรับผิดชอบในเรื่องของการจัดการแข่งขัน ในระดับลีกเยาวชน หรือยูธลีก และประสานสร้างความต่อเนื่องผูกล้อไปกับระดับลีกฟุตบอลอาชีพ ที่จะมีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ดูแลจัดการแข่งขันอยู่ เพื่อรองรับนักกีฬาที่มีขีดความสามารถต่อไป"
ส่วนการแข่งขันไทยลีก 3 รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ระบุว่า “เป็นเวทีที่สำคัญเพราะเป็นเวทีที่เป็นรากฐานของฟุตบอลอาชีพ และเป็นการสร้างความนิยมให้กับท้องถิ่น ซึ่งจะนำมาสู่การกระจายรายได้แก่ท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้วงการฟุตบอลไทยเกิดความยั่งยืนในอนาคต”
นอกจากยูธลีกแล้ว ลีกระดับภูมิภาค หรือไทยลีก 3 มีความสำคัญ เราก็ต้องได้รับการสนับสนุน การสร้างทีมฟุตบอลให้เข้มแข็ง เราต้องสร้างจากลีกภูมิภาคที่เป็นฐานของปิระมิด เพื่อให้สโมสรมีการเติบโตและใกล้ชิดกับท้องถิ่น ซึ่งจะเกิดการเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจช่วยสร้างรายได้ภายในพื้นที่ได้อีกด้วย"
ทางรัฐบาลยินดีสนับสนุนอยู่แล้ว และหวังว่าทางพี่น้องประชาชนแฟนบอลชาวไทย จะได้เห็นมุมมองและความตั้งใจ ที่ทางรัฐบาลต้องการจะช่วยพัฒนาให้กับวงการฟุตบอลไทย หรืออย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าผู้ดูแลด้านนโยบายกีฬาของรัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช่คิดแค่ฉาบฉวย แต่เล็งเห็นถึงการให้ความสำคัญในการสร้างฐานรากจริงๆอย่างการแข่งขัน ยูธลีก ที่ต้องการสร้างให้เกิดขึ้นเพื่อความยั่งยืนของฟุตบอลระดับเยาวชนไทยต่อไป"