เส้นทางความฝันของแต่ละคนแตกต่างกันไป โดยเฉพาะเส้นเรื่องบนถนนฟุตบอลของใครหลายคนอาจจะเพียรพยายามทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่างให้ได้มาเพื่อเป้าหมาย ในการเป็นนักเตะอาชีพ,ทีมชาติ หรือแม้กระทั่งบุคลากรฟุตบอลอาชีพ แต่นอกเหนือจากสิ่งต่างๆเหล่านี้แล้ว การตอบแทนบ้านเกิดในฐานะอะไรก็แล้วแต่คืออีกหนึ่งเป้าหมายชีวิตลูกหนังของหลายคน
การเลื่อนชั้นของ “ไก่นาจอมพริ้ว”แปดริ้ว ซิตี้ จากไทยแลนด์เซมิโปรลีก ด้วยการคว้าแชมป์ภาคตะวันออก สู่ไทยลีก 3 ในฤดูกาลหน้า 2024-25 ถ้าดูจากพรรษาการก่อร่างสร้างทีมเพียง 3 ปี ทำให้กระแสฟุตบอลในจังหวัดฉะเชิงเทรา ดูคึกคักคึกครื้นทันที เพราะในฤดูกาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะมีดาร์บี้แมตซ์แห่งเมืองแปดริ้วเกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มคนทำทีมทั้งสองทีมและนักเตะทั้งสองทีมต่างรู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดี
หนึ่งในทีมบริหาร“ไก่นาจอมพริ้ว”แปดริ้ว ซิตี้ อย่าง “อั้ม”อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ ยอมรับว่าภูมิใจเป็นอย่างมากที่ทำทีมบ้านเกิดประสบความสำเร็จเพราะตลอดทั้งชีวิตฟุตบอลตั้งแต่เล็กยันโต อยากตอบแทนบ้านเกิดด้วยความสามารถด้านฟุตบอล “อั้ม”อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ เริ่มต้นตั้งแต่การเป็นนักเตะตัวแทนจังหวัดตั้งแต่อายุ 16 ปี ลงเล่นไทยแลนด์ คัพ กับบรรดานักเตะรุ่นใหญ่ของจังหวัด ก่อนที่จะกลายเป็นนักเตะไทยลีกสโมสรธนาคารกรุงไทย เรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตคือการเบนเข็มสู่เส้นทางโค้ชบ้านเกิด
แรงบันดาลใจการเป็นโค้ช พ่อ และ ปทุมคงคา
มุมนักฟุตบอลของ “อั้ม”อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ อาจจะพอทราบกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นนักเตะของจังหวัดฉะเชิงเทรา,ธ.กรุงไทย และ จันทรเกษม เส้นทางการเดินหน้าสู่โค้ชฟุตบอลเกิดขึ้นด้วยดีเอ็นเอ เพราะมีแรงบันดาลใจจากพ่อ อ.มณฑล สุริยะจันทร์ อดีตผู้ตัดสินมวยไทยชื่อดัง ที่เข้าไปเป็นครูที่โรงเรียน ปทุมคงคา การเข้าไปเป็นครูพละจึงมีโอกาสได้ทำฟุตบอล ดูแลนักเตะอย่าง นาวี สุขยิ่ง,จำเริญ คำนิล,สมชาย ทรัพย์เพิ่มฯ กลายเป็นแรงจูงใจในอาชีพโค้ชให้กับลูกชาย
ประธานกีฬาโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์
ชีวิตวัยเด็กมกมุ่นกับเรื่องของฟุตบอลทั้งการเป็นผู้เล่นและทำงานด้านการจัดการ “อั้ม”อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ ได้รับบทบาทการเป็นประธานกีฬาโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นคนคอยคิดเรื่องกิจกรรมและวางแผนการพัฒนากีฬาของโรงเรียน นอกจากการเป็นนักเตะของจังหวัดแล้วช่วงเรียนอยู่ ม.6 ก็ลงมาดูน้องๆนักเตะเด็ก ม.3 เพื่อช่วยฝึกปรือฝีเท้าให้เกิดการพัฒนา
ซานติอาโก อะคาเดมี่
ชีวิตใหม่ที่เดินทางไปฝากไว้ที่เมืองลุงแซม ซานติอาโก สหรัฐอเมริกา เดินทางไปทำงานทั้งการเป็นเด็กเสิร์ฟ,ล้างจานฯ มีรายได้พอเก็บพอใช้ แต่ที่สำคัญในการเดินทางไปอเมริกาครั้งนั้น อั้ม ได้เริ่มการเป็นโค้ชฟุตบอลระดับเยาวชน รุ่นอายุ 11 ปี ให้กับทีมในอะคาเดมี่ ซานติอาโก ทุกอย่างคือการเรียนรู้เบื้องต้นครูพักลักจำกลับมาใช้ที่เมืองไทยในเวลาต่อมาโดยเฉพาะเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการ
พาบ้านเกิดคว้าแชมป์แรกในฐานะโค้ชนักศึกษาฝึกงาน
“อั้ม”อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ ช่วงเรียนอยู่สถาบันราชภัฎจันทรเกษม ช่วงฝึกงานได้หวนกลับไปฝึกงานที่บ้านเกิด ที่โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ตอนนั้นในฐานะนักศึกษาฝึกงานได้รับโอกาสได้เป็นโค้ชฟุตซอล พาทีมลงแข่งขันฟุตซอลเยาวชนควิกจูเนียร์ ปี 2544 สุดท้ายเส้นทางโค้ชของเขาเริ่มต้นได้สมหวังพาทีมบ้านเกิดคว้าแชมป์ภาคตะวันออกแบบหักปากกาเซียน พร้อมคว้าสิทธิ์ลุยรอบชิงแชมป์ประเทศไทย เส้นทางชีวิตหลังจากนั้น “อั้ม” รับโอกาสทำทีมเยาวชนฉะเชิงเทราเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน มีบรรดาดาวดังแจ้งเกิดประดับวงการฟุตบอลมากมาย อาทิ รัตพล ปิยะวุฒิสกุล,ศิริศักดิ์ ร่มโพธิ์ทอง,อัครวินทร์ สวัสดีฯ อีกทั้งยังเป็นคนที่ใฝ่เรียนรู้ลงเรียนวิชาโค้ชต่อเนื่องทั้งหลักสูตรทางการไม่เป็นทางการ ปัจจุบันมี ซี ไลเซนส์ ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย เป็นใบการันตีอาชีพโค้ช
ร่วมสร้างทีมลูกหนังเพื่อบ้านเกิด
อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ ร่วมกับ พ.ต.อ.กิตติพรรธ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ,เอก วงษ์นิ่ม กำเนิดทีมฟุตบอลขึ้นมาภายใต้ชื่อ แปดริ้ว ซิตี้ เริ่มต้นในการแข่งขันไทยแลนด์อเมเจอร์ลีก ปี 2565 การเริ่มต้นครั้งแรกด้วยงบประมาณ 600,000 บาท ทีมจบลงด้วยตำแหน่งรองแชมป์โซน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก หลังจากนั้นปีต่อมาลงทำการแข่งขันในรายการไทยแลนด์เซมิโปรลีก จบด้วยอันดับ 3 ของโซน ปีนั้นทุ่มงบประมาณไป 1.05 ล้านบาท และฤดูกาลล่าสุด 2023-24 แปดริ้ว ซิตี้ ทยานคว้าแชมป์โซน ได้สิทธิ์เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3 ด้วยงบประมาณ 1.2 ล้านบาท
ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมาการลงทุนได้รับการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนในจังหวัด พ.ต.อ.กิตติพรรธ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ประธานสโมสร, นายเอก วงษ์นิ่ม ผู้อำนวยการสโมสร , ธนากร ผาดศรี ผู้ฝึกสอน ขณะที่ผู้สนับสนุนสโมสร กำนันป้อง ช่วยณรงค์ ,ศรันยู อ่อนใจเอื้อ (เสี่ยยูแปดริ้ว ) ธรรมชาติ พรหมพิทักษ์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา อุดร เทพวาที ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ,ประพันธ์ ศรีสังข์ (กำนัน ปลิว) กำนันตำบลสาวชะโงก, มติชน ชูทับทิมฯ ที่ลืมไม่ได้เลยคือแฟนบอลในจังหวัดที่ช่วยกันขับเคลื่อนจนทีมเลื่อนชั้นสู่ฟุตบอลอาชีพภายใน 3 ปี เกิดเป็นดาร์บี้แมตซ์ฉะเชิงเทรา ในฤดูกาลหน้า 2024-25 เป็นการแสดงให้ทุกคนในประเทศได้รู้ว่าฟุตบอลจังหวัดเรามีคุณภาพ
ไทยลีก 3 ภาพจริงในอนาคต
การก้าวขึ้นมาสู่ไทยลีก 3 ที่เริ่มเป็นระบบอาชีพ “อั้ม”อรรถพงษ์ สุริยะจันทร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งบอกว่า 3 ปี แรกเราคงต้องดูทิศทางการเข้าร่วมการแข่งขันของทีม ว่าศักยภาพของทีมเราจะต้องปรับอะไรบ้าง ระบบอาชีพเป็นระบบที่ต้องใช้งบประมาณเพื่อความสำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่แปดริ้ว ซิตี้ จะยืนหยัดในแนวทางหลังจากนี้คือการพัฒนาทีมด้วยรากฐานของเยาวชนในจังหวัดให้เติบโตขึ้นมาสู่ระบบฟุตบอลอาชีพ ต่อยอดเส้นทางของพวกเขาต่อไปให้เจริญเติบโตบนถนนสายฟุตบอลไทย มาถึงวันนี้ผมภูมิใจนะที่พัฒนาทีม แปดริ้ว ซิตี้ จนถึงเส้นทางฟุตบอลอาชีพและที่ภูมิใจมากๆ จังหวัดเรามีทีมฟุตบอลอาชีพ 2 ทีม การทำงานของผมหลังจากนี้ในทีมแปดริ้ว ซิตี้ ก็ยังคงซัพพอร์ตต่อไปในหลายๆ จุดที่เรามีประสบการณ์ ส่วนอีกบทบาทคือการเดินหน้าการเป็นโค้ชเยาวชนให้กับจังหวัดฉะเชิงเทราต่อไป