จากนักบอลสกุลดัง สู่ประธานสโมสร บ้านค่าย กู้วิกฤติติดเงินนักเตะ พาทีมลุ้นเลื่อนชั้น

จากนักบอลสกุลดัง สู่ประธานสโมสร บ้านค่าย กู้วิกฤติติดเงินนักเตะ พาทีมลุ้นเลื่อนชั้น
หากเอ่ยถึงทีมฟุตบอลแถบย่านชายทะเลตะวันออก มีมากมายนับสิบทีม ทั้งระดับจังหวัด ไล่มาจนถึงระดับท้องถิ่นอย่างอำเภอ ที่อยู่ในสารบบฟุตบอลอาชีพ

    หนึ่งในนั้นคือ บ้านค่าย ยูไนเต็ด ทีมระดับอำเภอ ของจังหวัดระยอง ซึ่งได้มีโอกาสมาวาดลวดลายในรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ของฟุตบอลไทยลีก 3 แต่กว่าจะมาถึงจุดที่มีโอกาสสร้างชื่อเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ของพวกเขา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แถมผ่านวิกฤติจนถึงขั้นถูกฟ้องร้องมาแล้ว

(ประธานสโมสรหนุ่มวัย 25 ปี ชนะ ปิตุเดชะ)

    จากทีมเล็ก ๆ ที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาในชื่อทุ่งเคล็ด ก่อนขยับมาเป็น บ้านค่าย เข้าสู่วิถีบอลอาชีพในปี 2560 พวกเขาเคยมีโอกาสเลื่อนชั้นขึ้นสู่ระดับดิวิชั่น 2 ซึ่งก็คือไทยลีก 3 ในยุคปัจจุบันนั่นเอง ภายใต้การก่อตั้งและดูแลของ นายเศรษฐา ปิตุเดชะ นักการเมืองสกุลดังของจังหวัดระยอง

 (2 บอร์ดบริหาร (ซ้าย) ขัตติยะ ปิตุเดชะ ผจก.ทีม และรองประธานสโมสร ปราโมทย์ ฉันทมิตร์ ที่เข้ามาช่วยบริหาร)

    และการเลื่อนชั้นในครั้งนั้น มาจากการยิงจุดโทษของผู้เป็นลูกชาย ที่ชื่อ ชนะ ปิตุเดชะ ที่ลงเล่นให้บ้านค่าย ในตำแหน่งแบ็กซ้าย จนเมื่อ 2 ปีที่แล้วผู้เป็นลูกชายประสบอุบัติเหตุในการแข่งขันถึงขึ้นต้องผ่าเข่า และตั้งใจจะกลับมาเล่นต่อเมื่อรักษาหายดีแล้ว แต่ผู้เป็นพ่อซึ่งสุขภาพไม่ค่อยดี อยากให้มาดูแลทีมเต็มตัวในฐานะประธานสโมสร

(ดร.นพพร เอกศาสตรา เข้ามาคุมทีมจนได้เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีก)

    ชนะ เล่าว่า ตนยังอยากจะเล่นฟุตบอลอยู่ในตอนนั้น เลยตอบปฏิเสธไป จนสุดท้ายสโมสรต้องเปลี่ยนมือไปสู่กลุ่มผู้บริหารชุดใหม่ ที่เข้ามาดูแลทีม แต่ปรากฏว่ามีปัญหาในการบริหาร และค้างเงินนักเตะจนถึงขึ้นนักเตะต่างชาติของทีมตอนนั้นยื่นฟ้องไปยังฟีฟ่า

    “ช่วงนั้นคุณพ่อก็จากไปแล้ว ผมเองก็อยากจะเข้ามากอบกู้ทีมที่เราสร้างมากับมือ ใช้เวลาตัดสินใจอยู่ 5 วันก็เข้ามาเทคโอเวอร์คืน แล้วก็จัดการสะสางเรื่องของเงินค้างจ่าย ตอนเข้ามามันกะทันหัน ก็ได้เงินจากสปอนเซอร์ใหญ่มาไม่เยอะ เลยต้องควักจ่ายส่วนตัวไปเป็นล้านเหมือนกัน”

    ผลงานในปีแรกที่กลับมาคุมทีมในฐานะประธานสโมสร ชนะ ในวัย 24 ปีตอนนั้นก็พาทีมจบอันดับ 8 และในปีนี้ก็มีการปรับโครงสร้างการบริหาร โดยดึงบอร์ดบริหารที่มีประสบการณ์ในการทำทีมฟุตบอลระยอง เอฟซี และจัดฟุตบอลเดินสายเงินล้าน หนองละลอกคัพ อย่าง นายก อบต.หนองละลอก คือ คุณปราโมทย์ ฉันทมิตร์ และขัตติยะ ปิตุเดชะ ผู้เป็นพี่ชาย มาช่วยกันบริหาร โดยใช้นักเตะที่เป็นแกนหลักจากชุดเดิมอย่าง นรงฤทธิ์ บุญสุข ลงเล่นกับตัวท้องถิ่น

    “ผลงาน 3 นัดแรกเราไม่ดี จึงมีการเปลี่ยนโค้ชมาเป็น ดร.นพพร เอกศาสตรา ซึ่งเข้ามาคุมทีมและปรับเปลี่ยนจนพาทีมทำผลงานได้รองแชมป์โซนตะวันออก ได้เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นหนที่ 3 นับจากปี 2018, 2019 และปีนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามเป้าหมายของเรา ส่วนจะได้เลื่อนชั้นหรือไม่ก็ยังตอบยาก เราได้แต่บอกนักเตะว่าให้ตีความสามารถของคู่แข่งให้สูงไว้ก่อน เราจะได้ไม่ประมาท และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะพวกเขาให้ได้ ถ้าเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ได้ก็ถือว่าเป็นโบนัสที่เราพร้อมรับอย่างเต็มใจ”

    จากนักเตะสู่ประธานสโมสร ด้วยวัยเพียง 25 ปี ชนะ ปิตุเดชะ น่าจะใช้ประสบการณ์ทั้งการเป็นนักเตะบวกกับทักษะการบริหาร พาทีมบ้านค่าย ยูไนเต็ด เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น ส่วนจะไปไกลถึงไทยลีก 2 หรือไม่ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport