ฟุตบอลลีกของไทย พักการแข่งขันในครึ่งซีซั่นแรกเพื่อหลีกทางให้กับทีมชาติไทยไปทำศึกอาเซี่ยนคัพ นั่นหมายความว่าในปี 2565 ที่กำลังจะผ่านไป จะยังไม่มีโปรแกรมฟาดแข้งกันอีก
เป็นวาระประจำช่วงท้ายปี ทีมงานฟุตบอลสยาม จะได้ทำการรวบรวมนักเตะดาวรุ่งที่ฟอร์มเยี่ยมในปีนี้ที่โชว์ฟอร์มในบอลลีกได้ดี เพื่อให้แฟนฟุตบอลไทยได้รับรู้กันว่า นักเตะอายุน้อยที่ไม่เกิน 23 ปีอันเป็นจุดสิ้นสุดในระดับดาวรุ่งก่อนพุ่งขึ้นสู่ชุดใหญ่ ใครฟอร์มโดดเด่นพอมีแววที่จะเป็นความหวังของวงการฟุตบอลไทยได้บ้าง ลองไปดูกัน
นพพล ละครพล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
การขาดหายไปของประตูมือหนึ่งของบุรีรัมย์ อย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน กลายเป็นโอกาสที่ นพพล ละครพล ผู้รักษาประตูดาวรุ่งวัย 22 ปีจากชุดยู 23 ปีของไทยได้โอกาสลงเฝ้าเสาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสได้ลงเล่นถึง 11 นัดให้กับบุรีรัมย์ และมีโอกาสเซฟประตูได้หลายต่อหลายหน จากที่คิดว่าจะเป็นจุดอ่อน กลับเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของทีม โดยช่วงที่ลงเฝ้าเสาเสียไปเพียง 6 ประตูเท่านั้น ด้วยปฏิกริยาที่ว่องไวแม้รูปร่างจะไม่สูงใหญ่ ทำให้ทดแทนจุดด้อยตัวเองได้เป็นอย่างดี จึงถือเป็นดาวรุ่งที่ฟอร์มดีในไทยลีกซีซั่นนี้ที่ติดในชาร์ตยอดเยี่ยม
ฉัตรมงคล เรืองฐนโรจน์ (ชลบุรี)
แบ็กซ้ายดาวรุ่งที่ก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดเป็นซีซั่นที่ 2 ซึ่งยังคงเป็นผู้เล่นเกมรับริมเส้นที่มีความคล่องตัวสูง มีเซ้นส์บอลที่ฉลาด และที่สำคัญเป็นแบ็กสไตล์สมัยใหม่แบบโมเดิร์นฟุตบอลที่มักจะเติมเกมบุกขึ้นมาเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับทีม โดยปีนี้ลงเล่นให้ชลบุรีไป 13 นัด สิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้เจ้าตัวลงเล่นได้ไม่ครบทุกนัด มาจากสภาพร่างกายที่ต้องใช้งานค่อนข้างหนัก วิ่งขึ้นวิ่งลงตลอด แต่ทุกนัดที่ลงสนามก็มักจะทำให้เกมฝั่งซ้ายของชลบุรีมีความไหลลื่นทีเดียว ฟอร์มดีแบบนี้จึงมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยในเกมอุ่นเครื่องกับเมียนมา
ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
ในช่วงเวลาที่แนวรับของเมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องระส่ำเมื่อเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ตัวหลัก ๆ อย่างลูคัส โรช่า ดันเจ็บยาวช่วงต้นซีซั่นรวมถึง เจสเปอร์ นีลโฮล์ม ก็ยังไม่สมบูรณ์ ทำให้โอกาสตกเป็นของกองหลังดาวรุ่งรูปร่างสูงใหญ่ในวัยเพียงแค่ 21 ปีอย่าง ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ เด็กจากอะคาเดมี่ของเมืองทอง ซึ่ง มาริโอ กล้าดันขึ้นมาเล่น ซึ่งเจ้าตัวยืนปักหลักในแดนหลังได้อย่างนิ่งเกินวัย การอ่านเกมสกัดที่แข็งแกร่ง รวมถึงการกล้าจ่ายบอลจากรับเป็นรุกก็ทำได้เนียนตา แม้ในช่วงหลังจะกลับไปนั่งสำรองเหมือนเก่า เพราะตัวหลักหายเจ็บกลับมา แต่ฟอร์มกับชุดใหญ่ของ”กิเลนผยอง”ที่ได้ลงเล่นไป 7 นัด ก็เข้าตาสตาฟฟ์โค้ชยู 23 จนถูกเรียกตัวไปติดทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อภิสิทธิ์ แสนสีคำม้วน (หนองบัว พิชญ เอฟซี)
แม้ผลงานของ”พญาไก่ชน”หนองบัว พิชญ เอฟซี ในครึ่งซีซั่นแรกที่ผ่านไปจะย่ำแย่ ตกเป็นรองบ๊วยของตาราง แต่ก็ยังมีสิ่งที่พอชื่นใจบ้าง เมื่อผู้เล่นตำแหน่งวิงแบ็กซ้ายดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ โผล่ขึ้นมาแจ้งเกิดได้อย่างเข้าตา อภิสิทธิ์ แสนสีคำม้วน วิงแบ็กในวัย 21 ปี เล่นได้อย่างกระหาย ขยันในเกมรับและกล้าเติมเกมบุกได้อย่างเร้าใจ แม้ช่วงแรกจะยังจับจังหวะไม่ได้ แต่ยิ่งเล่นไปยิ่งมั่นใจและประสานกับรุ่นพี่ในทีมได้อย่างลงตัว กลายเป็นกำลังหลักของทีมไปแล้ว ณ ตอนนี้ รวมถึงทีมชาติชุดยู 23 ด้วย
ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (ชลบุรี เอฟซี)
หลังกลับจากการค้าแข้งในสเปน ฟอร์มของ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ก็ขยับเลเวลขึ้นมาอีกระดับ แม้อายุจะน้อยเพียง 21 ปี แต่ฝีเท้าตอนนี้ขยับขึ้นไปเกินวัยจนถึงขั้นติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว ด้วยลีลาการเล่นที่ชาญฉลาดในตำแหน่งกองกลางตัวรุกด้านขวา การเอาตัวรอดแบบหนึ่งต่อหนึ่งทำได้ดี แถมมีการตัดสินใจที่เฉียบคมทั้งการจ่ายบอลทำทางให้เพื่อนรวมถึงการหาจังหวะยิงเอง ทำให้ผลงานของชลบุรีปีนี้พุ่งตามไปด้วย โดยลงเล่นไป 16 เกมยิง 2 ประตู ฟอร์มโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับการคัมแบ็กกลับไทยหนนี้ของเขา
อนันต์ ยอดสังวาลย์ (ลำพูน วอริเออร์)
จากนักเตะเดินสายก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพ ฟอร์มการเล่นของ อนันต์ ยอดสังวาลย์ กับลำพูน ในไทยลีก 2 ถือว่าหวือหวาน่าดูชม แต่เมื่อก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุด ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปีและไร้ประสบการณ์ อนันต์ มีปัญหาเรื่องการปรับตัวกับสไตล์การเล่นในลีกสูงสุดช่วงระยะแรก ๆ แต่เมื่อได้ลับฝีเท้าในฐานะตัวจริงตำแหน่งปีกซ้าย อนันต์ เริ่มกล้าเล่น กล้าลากและประสานงานเกมรุกกับเพื่อนร่วมทีมโดยเฉพาะแข้งต่างชาติมากประสบการณ์อย่าง โมฮัมเหม็ด ออสมัน ได้อย่างลงตัว และเจ้าตัวได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่องถึง 15 นัด ขอแค่สั่งสมประสบการณ์และความแข็งแกร่งอีกหน่อย จะมีโอกาสลุ้นถึงทีมชาติชุดใหญ่ในตำแหน่งปีกซ้ายเหมือนกัน
เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์
เด็กหนุ่มวัยเพียงแค่ 20 ปีที่ก้าวมาจากทีมเชียงราย ซิตี้ มีโอกาสได้ลงเล่นชุดใหญ่ให้กับลีโอ เชียงราย ในเวทีบอลเอเชียเป็นหนแรก และโชว์ความกล้าเล่น และเล่นได้จนกลายมาเป็นกองกลางฝั่งขวาตัวจริงของทีมใหญ่จากล้านนาอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้รูปร่างจะไม่สูงใหญ่แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความขยันและเทคนิคการเล่นที่เอาตัวรอดได้ดี กล้าเล่นกล้ากระชาก มีโอกาสได้ลงเล่นในไทยลีก 1 ถึง 14 นัดยิงไป 1 ประตู ในขวบปีแรกที่ได้โอกาสสัมผัสลีกสูงสุดและวัยเพียงแค่ 20 ปี นี่คือ วันเดอร์คิด ที่น่าจับตาอีกคนในลีกไทย
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (การท่าเรือ เอฟซี)
เกือบจะไม่ได้ไปต่อกับการลงเล่นในลีกสูงสุดให้กับการท่าเรือ เอฟซี เพราะจะถูกยืมไปเล่นในลีกรองให้กับคัสตอม ยูไนเต็ด ที่เป็นทีมพันธมิตรของสิงห์เจ้าท่า แต่ฟอร์มการเล่นในช่วงปรีซีซั่นกลับพุ่งขึ้นมา ทำให้ “เจ้าต้น”ธีรศักดิ์ เผยพิมาย เด็กหนุ่มวัยเพียงแค่ 20 ปีที่ก้าวมาจากทีมไทยลีก 3 อย่าง พราม แบงค็อก ได้โลดแล่นในลีกสูงสุด ซึ่งแม้จะไม่สามารถเบียดแนวรุกระดับพระกาฬของเจ้าท่าทั้ง แฮมิลตัน ซัวเรซ, แซร์จิโอ ซัวเรซ, บดินทร์ ผาลา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ได้ แต่โอกาสที่ได้ลงสัมผัสสนามถึง 14 นัดและยิงไป 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ บ่งบอกได้ว่าถ้าเก็บประสบการณ์ระดับสูงไปเรื่อย ๆ ธีรศักดิ์ จะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมท่าเรือและทีมชาติชุดใหญ่ซึ่งตอนนี้เขามีชื่อติดธงผืนใหญ่ไปแล้ว
ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
แม้ชื่อชั้นของ “เจ้าแบงค์”ศุภฎัฎฐ์ เหมือนตา จะขึ้นหิ้งในฐานะกองหน้าทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปแล้ว แต่ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี ก็ยังไม่พ้นคำว่า ดาวรุ่งอยู่ดี เพียงแต่เพิ่มคำว่า “โรจน์”เข้าไปอีก 1 คำ ก็ไม่เกินเลยความจริงกับคุณภาพของฝีเท้านักเตะรายนี้ที่ฟอร์มโดดเด่นทั้งกับบุรีรัมย์ และทีมชาติไทยทั้งเยาวชน 23 ปีและชุดใหญ่ นี่คือกองหน้าที่ถูกวางไว้ว่าจะขึ้นมาแทน ธีรศิลป์ แดงดา ในทีมชาติไทยอย่างแน่นอน โดยฟอร์มในลีกปีนี้เล่นไป 15 นัดยิงไป 6 ลูกกับ 5 แอสซิสต์ กับวัยแค่ 20 ปี ครบเครื่องทั้งการยิง การกระชากผ่านคู่แข่งและการจ่ายให้เพื่อนยิง จึงเหมาะอย่างยิ่งกับตำแหน่ง “ดาวรุ่ง(โรจน์)”ในปีนี้อย่างแท้จริง
และนี่คือนักเตะอายุน้อยที่ต่ำกว่า 23 ปี ซึ่งโชว์ผลงานได้ดีในบอลลีกของไทย ในรอบปี 2565 ที่กำลังจะผ่านไป มาตามกันต่อว่าปีหน้ากับครึ่งฤดูกาลหลังจะมีดาวรุ่งอายุน้อยโผล่ขึ้นมาโชว์ผลงานประดับวงการได้อีกหรือไม่ โปรดติดตาม