ราชบุรี - บุรีรัมย์ เกมนี้เดิมพันสูงลิ่ว!!

  หากเป็นปราสาทสายฟ้าที่บุกไปยัดเยียดความปราชัยได้ถึงถิ่นราชันมังกร พวกเขาก็จะหยิบแชมป์สมัยที่ 10 ในทันที แถมเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ ครองโทรฟี่ได้ 4 สมัยติดต่อกันเป็นหนแรก เพราะปัจจุบันมีแต้มห่างจากรองจ่าฝูงอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด 4 คะแนน กับ 2 เกม ที่เหลืออยู่

   ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นเจ้าถิ่นเอาชนะอาคันตุกะจากแดนอีสานได้สำเร็จ พวกเขาก็จะยังมีลุ้นจบอันดับ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเช่นกัน ทั้งยังเพิ่มโอกาสไปโลดแล่นในถ้วยเอเชีย อีกครั้ง หลังเคยตะลุยมาหนหนึ่งเมื่อฤดูกาล 2021-22

   ดังนั้นวันเสาร์ที่ 19 ณ ราชบุรี สเตเดี้ยม จึงเป็นมากกว่าเกมๆ หนึ่งแน่นอน

[ สถิติก่อนเกม ]

   พบกันมาแล้วทั้งหมด 28 นัด ในทุกรายการ

   - บุรีรัมย์ ชนะ 14 เกม

   - ราชบุรี ชนะ 4 นัด

   - เสมอกันไป 4 แมตช์

   หากนับเฉพาะในลีก บุรีรัมย์ ไม่แพ้ ราชบุรี 8 เกมติดต่อกัน แถมนัดล่าสุดยังเปิด ช้าง อารีน่า ถล่มราชันมังกรเละเทะ 6-0 เมื่อปลายปี 2024 อีกต่างหาก

   อย่างไรก็ตาม หากเล่นที่ ราชบุรี สเตเดี้ยม - เจ้าถิ่นก็ไม่แพ้ผู้มาเยือนเช่นกันใน 2 ครั้งหลังสุดเมื่อเล่น ไทยลีก

   ทว่าถ้าจะนับเฉพาะชัยชนะที่ ราชบุรี มีเหนือ บุรีรัมย์ ในเกมลีก ต้องย้อนกลับไปฤดูกาล 2019-20 เลยทีเดียวที่พวกเขาเปิดรังเฉือนทีมเซราะกราวหวุดหวิด 4-3 

[ กัปตันทีม ]

   ราชบุรี มี จักรพันธ์ แก้วพรม ครองปลอกแขนกัปตันทีมมาเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยวัยวุฒิและคุณภาพฝีเท้าที่ยังคับแก้ แม้จะอายุกำลังจะทะลุสู่ปีที่ 37 ในเดือนพฤษภาคม แต่ผลงานในสนามของพี่แกยังโดดเด่นเอามากๆ

   ฝั่ง บุรีรัมย์ นั้นนำโดย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม แบ็กขวาที่อยู่กับสโมสรเป็นซีซั่นที่ 10 ติดต่อกัน และพร้อมล่าความสำเร็จแบบไม่มีลดละหรือหมดไฟ

[ คนเฝ้าเสา ]

   ราชันมังกรไว้วางใจให้ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล เฝ้าเสาอย่างต่อเนื่อง และหมอนี่ยังฟอร์มอยู่ในระดับมาตรฐาน แม้ระยะหลังจะหลุดโผทีมชาติ แต่กระนั้นเรื่องของฝีไม้ลายมือยังอยู่ในระดับท็อปของสยามประเทศแน่นอน

   นีล เอเธอร์ริดจ์ คือว่าที่เจ้าของรางวัล 'ถุงมือทองคำ' กับการทำไป 15 คลีนชีต และเสียไปเพียง 17 ประตู เท่านั้น ซึ่งการที่ปราสาทสายฟ้ายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ทุกทัวร์นาเมนต์ก็เพราะมีจอมหนึบชาติอังกฤษ เฝ้าเสาให้นี่แหละ

[ จอมแอสซิสต์] 

   ราชบุรี มีทั้ง จักรพันธ์ และ ตาน่า ที่ทำไปคนละ 7 แอสซิสต์ ซึ่งสิ่งนี้แหละจะเป็นอาวุธเด็ดให้ราชันมังกรกำราบคู่ต่อสู้

   ส่วนทาง บุรีรัมย์ น่าเสียดายที่ ธีราทร บุญมาทัน ที่ทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ ยังไม่กลับมาลงสนาม แต่นัดล่าสุดมีชื่อบนม้านั่งสำรอง ซึ่งถ้าหมอนี่คัมแบ็กสู่ฟลอร์หญ้าเมื่อไหร่ ปราสาทสายฟ้าจะติดปีกทันที

[ เพชฌฆาต ]

   เจ้าถิ่นเป็นทีมที่ผู้เล่นเฉลี่ยกันทำสกอร์มากหน้าหลายตา เพราะมีนักเตะที่ยิงขั้นต่ำ 7 ประตู อยู่ถึง 4 ราย โดยที่ กเลมงต์ เดอปรีส์ คือหัวหอกความหวังสูงสุดกับจำนวน 10 ลูก ในซีซั่น 2024-25

   กีเญร์เม่ บิสโซลี่ คือว่าที่ 'ดาวซัลโว' ไทยลีก ฤดูกาลปัจจุบันหลังซัดไปแล้ว 22 ตุง แม้ 3 แมตช์ล่าสุดจะเป้าสะอาด แต่จากสถิตินั้นบ่งบอกว่าหมอนี่ไม่เคยปืนฝืดเกิน 3 เกม เลยเช่นกัน ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ ราชบุรี ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

[ แรงกดดัน อาจเป็นจุดตัดสินการแข่งขัน ]

   ปราสาทสายฟ้าอาจจะอุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดในทุกตำแหน่ง แถมแต่ละรายก็ค่อนข้างมาตรฐานสูง ผลงานไม่มีตก จนทำให้ทำแต้มนำโด่งเป็นจ่าฝูงมาตั้งแต่สัปดาห์แรก จนแทบจะเดินหน้าเข้าป้ายแบบเดี่ยวๆ

   อย่างไรก็ตาม การที่เกมกับ ราชบุรี นั้นมี 3 คะแนนเป็นเดิมพัน มันจึงทำให้ 'ความกดดัน'  ย่อมไปตกอยู่ที่ฝั่งของ บุรีรัมย์ แบบไม่อาจหลีกเลี่ยง ซึ่งด้วยมาตรฐานที่พวกเขาสร้างไว้นั่นแหละ อาจจะเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตนเองได้เช่นกัน

   ฟากราชันมังกรอาจจะต้องพบความกดดันเล็กน้อยในฐานะเจ้าถิ่น แต่คงไม่มากเท่าอาคันตุกะจากแดนอีสาน ทว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของสมาธิ เนื่องจากสองเกมหลังสุดที่เจอกัน พวกเขาโดนถลุงตาข่ายไปถึง 10 ประตู

[ บทส่งท้าย ]

   นี่คือ บิ๊ก แมตช์ ประจำสัปดาห์ที่ 29 ของ ไทยลีก 2024-25 ที่อาจจะได้ข้อสรุปในวันเสาร์ เพราะไม่ว่าฝ่ายใดที่ได้ 3 คะแนน จะเป็นการต่อยอดสู่สิ่งที่พวกเขาปรารถนาเช่นกัน 

   ราชบุรี ชนะเพื่อลุ้นอันดับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

   บุรีรัมย์ ชนะเพื่อเป็นแชมป์

   นี่คือศึกที่น่าลุ้น-น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

   ราชบุรี - บุรีรัมย์ เกมนี้เดิมพันสูงลิ่ว