ไทยลีก 2024-25 เหลือเพียง 2 เกมสุดท้ายก็จะรูดม่านปิดฉากอย่างเป็นทางการ ณ ปัจจุบัน โซนสีแดงถือว่าน่าสนใจมากๆ เนื่องจาก หนองบัว พิชญ เอฟซี, ระยอง เอฟซี และ นครราชสีมา เอฟซี ต่างก็ไม่ต้องการหล่นสู่ ไทยลีก 2 ตาม ขอนแก่น ยูไนเต็ด กับ นครปฐม ยูไนเต็ด แน่ๆ ดังนั้น 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่าตั๋วที่ทุกทีมพร้อมปฏิเสธอีก 1 ใบ ที่เหลือ สโมสรใดมีโอกาสที่จะได้รับไป!!
อันดับ 14 - หนองบัว พิชญ เอฟซี (27 คะแนน)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: การท่าเรือ เอฟซี (เหย้า) และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (เยือน)
หนองบัว พิชญ คือทีมที่อยู่โซนท้ายตารางมาตลอดทั้งฤดูกาล กับผลงานนอกบ้านที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะเพิ่งเก็บชัยชนะได้นัดเดียวเท่านั้น อันเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดเท่ากับ สุโขทัย เอฟซี แถมมันเพิ่งเกิดใน แมตช์เดย์ที่ 26 ที่บุกไปเฉือน ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-0
ด้วยเหตุนี้เอง มันจึงทำเป็นผลให้ทัพพญาไก่ชนต้องวนเวียนเฉียดไป-เฉียดมาในพื้นที่สีแดง และสุ่มเสี่ยงมากๆ ที่จะต้องกลับไปตั้งหลักใหม่ใน ไทยลีก 2
อีกปัจจัยสำคัญที่ หนองบัว พิชญ ฟอร์มดิ่ง เกิดจากการที่ เปาโล คอนราโด้ แนวรุกความหวังสูงสุดดันปืนฝืด เพราะในเลกที่สอง พี่แกยิงไปกระจุ๋มกระจิ๋มเพียง 2 ประตู เท่านั้น
โปรแกรมที่เหลือของพวกเขาก็น่าหนักใจทีเดียว เนื่องจากจะต้องเผชิญหน้า การท่าเรือ เอฟซี ต่อด้วยการบุกไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของซีซั่น
ตัดเกมที่ ช้าง อารีน่า ไปได้เลย โอกาสที่จะได้แต้มน้อยถึงน้อยที่สุด เพราะปราสาทสายฟ้าปรารถนาเหลือเกินที่จะชนะสวยๆ เพื่อฉลองแชมป์ในรังตนเองต่อหน้าสาวกเซราะกราว ดังนั้นแมตช์ชี้ชะตาของ หนองบัว พิชญ จึงอยู่ที่การพบยอดทีมแห่งย่านคลองเตย
พวกเขาจำเป็นต้องชนะ การท่าเรือ สถานเดียว ไม่มีทางเลือกอื่น โดยที่ต้องภาวนาให้ ระยอง เอฟซี และ นครราชสีมา เอฟซี ไม่สามารถเก็บ 3 คะแนน ได้อีกต่างหาก
โอกาสรอด : น้อยมาก แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ ขึ้นอยู่ที่เกมกับ การท่าเรือ แต่ถ้าไม่ชนะสิงห์เจ้าท่า ก็เตรียมโบกมือลา ไทยลีก ได้เลย
อันดับ 13 - ระยอง เอฟซี (29 คะแนน)
โปรแกรมที่เหลืออยู่ : ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เหย้า) และ การท่าเรือ เอฟซี (เยือน)
ระยอง เอฟซี เป็นอีกทีมที่มักจะวนเวียนเกากลุ่มอยู่โซนท้ายตาราง แถมดูจะหนักกว่า หนองบัว พิชญ เสียด้วยซ้ำ เพราะอยู่ในพื้นที่ตกชั้น 7 จาก 28 แมตช์เดย์ ในฤดูกาล 2024-25 ซึ่งนั่นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความสุ่มเสี่ยงที่มี
ก่อนที่ซีซั่นจะเปิดฉาก ทีมม้านิลมังกรถูกผู้สันทัดกรณีลูกหนังไทย มองว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะกลับบ้านเก่า เนื่องจากศักยภาพผู้เล่นโดยรวมนั้นชื่อชั้นเป็นรองทีมอื่นๆ พอสมควร
อย่างไรก็ตาม พวกเขาใช้ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว สู้ยิบตาในทุกๆ เกม แม้หลายๆ นัดจะต้องเป็นฝ่ายแพ้พ่าย แต่ว่า ระยอง ก็พยายามสุดความสามารถเพื่อให้ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
สปิริตทีมคือปัจจัยสำคัญที่จะนำพาให้ม้านิลมังกรอยู่รอด ซึ่งจาก 5 เกม หลังสุดในลีก พวกเขาแสดงให้เห็นถึงพลังใจอันล้นเหลือกับการไล่ตีเสมอ หนองบัว พิชญ ในนาทีสุดท้าย, พลิกแซงชนะ สุโขทัย เอฟซี 2-1 และรวมไปถึงล่าสุดที่บุกไปเฉือน นครปฐม ยูไนเต็ด นี่ก็เป็นอีกนัดที่โดนนำไปก่อน แล้วก็กลับมาได้
ไม่นับรวมเกมที่เกือบจะไปหยิบแต้มจาก ช้าง อารีน่า เพราะกว่าที่ บุรีรัมย์ จะได้ 3 คะแนน จาก ระยอง นั้นหืดจับมากๆ
กับโปรแกรมที่เหลืออยู่ที่จะพบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในบ้านตนเอง ก่อนจะไปปิดฤดูกาลที่ แพท สเตเดี้ยม ของ การท่าเรือ ดังนั้นทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่ที่ตัวของพวกเขาเองล้วนๆ
นัดตัดสินว่า ระยอง จะได้ไปต่อหรือหล่นสู่ ไทยลีก 2 จึงอยู่ที่เกมเปิดรังรับมือจงอางผยองนั่นเอง หากได้ 3 คะแนน ก็น่าจะการันตีพื้นที่ลีกสูงสุดไป 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ก็ไม่ต้องโทษใครอื่นแล้ว
โอกาสรอด : อยู่ที่ตัวเองเท่านั้น หากชนะ ขอนแก่น ได้ตามเป้า โอกาสรอดมีสูงลิ่ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องลุ้นไปจนถึงนัดสุดท้ายอยู่ดี
อันดับ 12 - นครราชสีมา เอฟซี (31 คะแนน)
โปรแกรมที่เหลืออยู่: ประจวบ เอฟซี (เหย้า) และ เมืองทอง ยูไนเต็ด (เยือน)
จริงๆ แล้ว นครราชสีมา เอฟซี ไม่ควรจะต้องมาลุ้นจนถึงช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล 2024-25 เพราะพวกเขาแทบจะมีอันดับเลขตัวเดียวเกินกว่าครึ่งซีซั่น แถมยังเคยรั้งที่ 3 ของตารางการแข่งขันอีกต่างหาก
ทว่าฟอร์มในเลกที่สองนี่แหละคือปัจจัยที่ส่งผลให้แมวพิฆาตดำดิ่งลงเรื่อยๆ เนื่องจาก 10 เกมหลังสุด ชนะเพียงนัดเดียวเท่านั้น ซึ่งสามคะแนนที่ได้มาก็มาจาก ขอนแก่น ที่กำลังย่ำแย่อยู่แล้ว
ยังดีที่ผลงานในเลกแรกของพวกเขาทำแต้มตุนไว้พอสมควร มันจึงทำให้ไม่ต้องพบงานลำบากเหมือน หนองบัว พิชญ และ ระยอง เท่าไรนัก
แม้จะได้เปรียบอีกสองคู่แข่ง แต่กระนั้นก็ใช่ว่า นครราชสีมา จะนิ่งนอนใจได้ เพราะถ้าเกมที่เหลือกับ ประจวบ เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด พวกเขาดันแพ้รวด เมื่อนั้นโอกาสที่จะต้องกลับไปเล่น ไทยลีก 2 ก็สูงขึ้นตามไปด้วย
2 แมตช์ที่เหลือถือว่าหนักหน่วงไม่เบา เนื่องจากทั้งต่อพิฆาตและกิเลนผยองต่างก็กำลังอยู่ในห้วงเวลามั่นใจมากๆ
โดยเฉพาะ ประจวบ ที่ร้อนแรงจริงๆ นัดล่าสุดก็เพิ่งบุกไปชนะ การท่าเรือ ถึง แพท สเตเดี้ยม แถมโควตาถ้วยเอเชีย อาจจะตกมาอยู่กับไทย อีกหนึ่งที่นั่ง หากสโมสรของเกาหลีเหนือ ไม่ผ่าน คลับ ไลเซนซิ่ง
เท่ากับว่าต่อพิฆาต ซึ่งอยู่อันดับ 5 นั้นสามารถลุ้นไปตะลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ได้เหมือนกัน เพราะว่าถ้าจบที่ 4 ก็มีโอกาสคว้าตั๋วใบนี้สำเร็จ แม้จะต้องพุ่งทีมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น 2 เกม ที่เหลืออยู่ของ นครราชสีมา ถือว่าหนักหน่วงและมีโอกาสที่จะไม่ได้แต้มสูงทีเดียว
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เกมกับ ประจวบ นี่แหละจะชี้วัดว่าแมวพิฆาตจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งอย่างน้อยที่สุด พวกเขาต้องมีแต้มให้ได้ มิเช่นนั้นจะไปกดดันในแมตช์สุดท้ายที่จะไปเยือน เมืองทอง
โอกาสรอด : มีสูงกว่าคู่แข่งอีก 2 ทีม แต่การที่ต้องเจอทั้ง ประจวบ และ เมืองทอง อาจจะทำให้เกมพลิกในนัดสุดท้ายของฤดูกาล