ไทยลีก 2024-25 แมตช์เดย์ ที่ 24 นอกจากคู่ใหญ่อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จะห้ำหั่นกันในวันเสาร์ที่ 1 มีนาคม ทว่าก็ยังมีอีกคู่ที่น่าสนใจเมื่อ ราชบุรี เอฟซี ทีมฟอร์มดีแห่งปีที่จะยกพลไปเยือน เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งชนะรวด 5 นัดในรังตนเอง ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของเกมนี้ให้รับรู้โดยทั่วกัน!!
*** ไทยลีก 2024-25 เชียงราย ยูไนเต็ด พบ ราชบุรี เอฟซี ณ สิงห์ เชียงราย สเตเดี้ยม วันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม เวลา 18:00 น. ถ่ายทอดสดทาง True visions NOW (True Ball Thai 1) ***
[ 1 ] เกมรับ คีย์แมนของทั้งสองฝั่ง
แม้ว่า เชียงราย และ ราชบุรี จะโดนเจาะตาข่ายแตะหลัก 30 ประตู แต่เมื่อมองถึงรายละเอียด พวกเขาต่างก็มีเกมรับที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน
ธนะศักดิ์ ศรีใส, อี ชอง-มูน, จอรแดน เอมาวิเว่ และ ชูลิโอ เซซาร์ คือปราการหลังตัวกลางที่สลับกันทำหน้าที่ไม่ว่าจะระบบ 3-5-2 หรือ 4-3-3 ซึ่งผลงานที่ออกมาก็ถือว่าเยี่ยมยอดทีเดียว โดยเฉพาะเกมในบ้านที่ไม่เสียประตูเลยใน 4 แมตช์ล่าสุด ทั้งๆ ที่เจอ การท่าเรือ เอฟซี กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ส่วนเกมที่บุกไปปราชัย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-8 นั้นเป็นอุบัติเหตุทางฟุตบอลที่วันนั้นปราสาทสายฟ้ายิงยังไงก็ตุงตาข่าย
ขณะที่ ราชบุรี นั้น 10 เกมหลังสุดมี 'คลีนชีต' เพียงแค่ 2 เกม แต่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟอย่าง โจนาธาร เข็มดี กับ แกเบรียล มูทอมโบ นั้นปฏิบัติหน้าที่ได้แข็งขัน รวมไปถึงการมี กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล เป็นด่านสุดท้าย สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เพื่อนๆ ได้มากทีเดียว
นอกจากนี้ กฤษณนน ศรีสุวรรณ ก็เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญ เพราะเขาช่วยสกรีนคู่แข่งตั้งแต่แดนกลาง เพื่อไม่ให้บอลหลุดถึงพื้นที่อันตราย นั่นจึงเป็นเหตุให้ทีมราชันมังกรมีแนวรับที่ยอดเยี่ยมนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากว่า ราชบุรี ต้องการจะสานผลงานให้ดีแบบต่อเนื่อง พวกเขาจำเป็นต้องเจาะหลังบ้านของ เชียงราย ให้สำเร็จ เพราะถ้าบุกไปยัดเยียดความปราชัยกว่างโซ้งมหาภัยได้ ก็ไม่ต้องเกรงกลัวทีมใดอีกแล้ว
[ 2 ] แผงมิดฟิลด์ ราชบุรี มีทีเด็ดมากกว่า
แดนกลางของ เชียงราย มี ราฟ มาชาโด้ เป็นฟันเฟืองสำคัญ ซึ่งคู่ขาของเขาจะสลับกันไปตามแท็กติก โดยมีทั้ง ทักษ์ดนัย ใจหาญ, อติคุณ มีท้วม, จอนาตา แวร์ซูร่า และ ฮารีส สจ๊วร์ต ที่สับเปลี่ยนกันลงสนาม
จุดแข็งของแผงมิดฟิลด์กว่างโซ้งมหาภัยคือส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นที่เชี่ยวชาญในเชิงรับ ดังนั้นเรื่องการตัดเกมจึงไว้ใจได้เลย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่พวกจอมทัพถูกลดบทบาทไปเช่นกัน
ผิดกับ ราชบุรี ที่มีเพียง กฤษณนน ศรีสุวรรณ ผู้คอยทำหน้าที่ปิดทองหลังพระ โดยปล่อยให้ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กับ จัพรพันธ์ แก้วพรหม คอยขับเคลื่อนเกมกันโดยอิสระ ซึ่งทั้ง 3 คน หมุนเวียนตำแหน่งกันอย่างไหลลื่น และมันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราชันมังกรชิงความได้เปรียบจากฝั่งตรงข้ามได้เสมอ
ด้วยความที่แดนกลางเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการต่อสู้ ซึ่งฝั่ง ราชบุรี มีทีเด็ดในการเข้าทำที่หลากหลายกว่า เชียงราย และถ้าเล่นด้วยความอดทน พวกเขาจะสามารถเอาชนะในพื้นที่นี้ ก่อนจะเป็นฝ่ายคว้าชัยในบั้นปลาย
[ 3 ] เกมรุกราชันมังกรคม แต่กว่างโซ้งใช้โอกาสไม่เปลือง
เกมรุกของทั้งสองทีมต่างกันแบบไกลโพ้น เพราะว่า ราชบุรี คือทีมที่มีสถิติยิงประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของ ไทยลีก ด้วยตัวเลข 39 ประตู เป็นรองเพียง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ขณะที่ เชียงราย นั้นรั้งรองสุดท้าย (20 ประตู) ซึ่งดีกว่า ขอนแก่น ยูไนเต็ด เพียงทีมเดียวเท่านั้น
ด้วยความห่างที่เกิดขึ้น อาจจะดูเหมือนทีมราชันมังกรดูดีกว่าเยอะมาก แต่เมื่อมองถึงสถานการณ์จริง กว่างโซ้งมหาภัยสามารถที่อาจจะคุกคามได้น้อยกว่า แต่ทีเด็ด-ทีขาดในแดนบนของพวกเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน
สิทธิโชค กันหนู และ คาร์ลอส ลูรี่ คือสองตัวความหวังของ เชียงราย เพราะสามารถพลิกสถานการณ์ของเกมได้ในชั่วพริบตา ขอเพียงมีโอกาสสับไก พวกเขาสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ทันที
[ 4 ] บทสรุปของการแข่งขัน
นี่คือเกมที่จะสู้กันด้วยแท็กติกล้วนๆ เพราะว่าเจ้าบ้านจะเล่นแบบรัดกุมเหมือนที่ผ่านมา และการมีสถิติสุดสะพรึงยามเล่นที่ สิงห์ เชียงราย สเตเดี้ยม ที่ชนะรวด 7 นัด (ในทุกรายการ) น่าจะส่งเสริมเรื่องความมั่นใจให้กว่างโซ้งมหาภัยได้มากทีเดียว
ราชบุรี เองก็มาเยือนด้วยความมั่นใจที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เนื่องจากพวกเขาไม่แพ้ใครในฐานะอาคันตุกะ 5 เกม ติดต่อกัน ซึ่งมีทั้ง การบุกสนาม บีจี ต่อด้วย แพท สตเดี้ยม ของ การท่าเรือ เอฟซี อีกต่างหาก ดังนั้นการไปเมืองเหนือจึงไม่ใช่เรื่องที่ราชันมังกรต้องหวาดหวั่น
ด้วยความที่ทั้งสองทีมมีเกมรับแข็งแกร่ง มันจึงเป็นจุดที่จะชี้-วัดผลการแข่งขัน ซึ่งฝ่ายใดผิดพลาดน้อยกว่า ฝ่ายนั้นก็จะเป็นฝั่งที่พลาดท่าในบั้นปลาย
ทว่าฝั่งราชันมังกรจะต้องเล่นด้วยความอดทน เพราะเจ้าถิ่นนั้นมาพร้อมเกมรับอันแข็งแกร่งและคอยดักซุ่มโจมตีด้วยเกมสวนกลับแน่นอน
นอกเหนือไปจากนั้น ไม่ว่า 3 คะแนน จะไปอยู่ที่ทีมใด ย่อมมีผลต่ออันดับในตารางคะแนน
หากเป็น เชียงราย ที่ได้ชัยชนะ พวกเขาจะถีบตัวเองขึ้นไปเหนือโซนสีแดง และนั่นทำให้โอกาสอยู่รอดปลอดภัยใน ไทยลีก สูงขึ้นตามไปด้วย
ส่วน ราชบุรี ถ้าเข้าวิน ก็จะขยับไปรั้งอันดับ 4 แน่นอน เพราะว่าเกมในวันเสาร์นั้น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่อันดับเหนือกว่าจะซัดกันเอง
แมตช์นี้เป็นเกมสุดท้าทายของราชันมังกร หากพวกเขาบุกไปเก็บ 3 แต้ม จากรังของ เชียงราย ได้สำเร็จ ห้วงที่เหลือของฤดูกาล 2024-25 ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวใครทั้งสิ้น และนั่นอาจจะต่อยอดไปถึงซีซั่นหน้าได้ด้วยเช่นกัน