1. เงินสนับสนุนทีมลีกไทย ทั้งไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3 มีความชัดเจน ออกตรงกำหนด ไม่มีล่าช้า เพื่อปากท้องของสโมสรสมาชิก จากซีซั่น 2023-24 ที่เป็นวาระเร่งด่วน แต่พร้อมทำทันที ต่อด้วยซีซั่นปัจจุบัน 2024-25 ที่ยังเป็นรูปธรรม จับต้องได้
2. ต่อสัญญา มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยที่เข้าใจความเป็นฟุตบอลไทยมากที่สุดคนหนึ่ง ด้วยสัญญา 2 ปีครึ่ง หรือ 30 เดือน จนถึง ก.ค. 2569 รวมถึงการเปิดตัวกุนซือทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยคนใหม่ ฟูโตชิ อิเคดะ ที่เป็นอดีตกุนซือทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติญี่ปุ่นคนล่าสุด เข้ามาจัดการสร้างทีมชบาแก้วให้กลับมาเป็นเสืออาเซียนให้ได้อีกครั้ง
3. ไม่ลืมฟุตบอลหญิง ที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อแฟนบอลไทยมาโดยตลอด เพิ่มเงินรางวัลแชมป์ไทย วีเมนส์ ลีก 1 จาก 500,000 บาท เป็น 600,000 บาท พร้อมเพิ่มเงินรางวัลจากเดิมที่จ่ายแค่ทีมแชมป์-ที่ 3 ปีนี้ให้เพิ่มไปจนถึงทีมที่ 6 แถมเงินสนับสนุนทีมให้เพิ่มเป็นทีมละ 300,000 บาท ถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์-โซเชียลในทุกนัด หวังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพาฟุตบอลหญิงไทยกลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง คือฟุตบอลโลก 2027 รวมถึงไทย วีเมนส์ ลีก 2 ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน
4. ให้ความสำคัญทุกองคาพยพจริงๆ ไม่เพียงแต่ฟุตบอลลีกหญิง ยังรวมถึงโมเลกุลที่เล็กที่สุดของพีระมิดฟุตบอลไทย อย่าง ฟุตบอลชายหาดลีก ที่นายกมาดามแป้งไปร่วมพิธีปิดประจำปี 2024 และตัดสินใจเพิ่มเงินรางวัลแชมป์ให้อีก 100,000 บาท และเพิ่มรางวัลรองแชมป์อีก 50,000 บาท
5. ประสานกับภาครัฐบาล เพื่อให้มีการถ่ายทอดสดไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 ผ่านฟรีทีวี ทางช่อง NBT 2HD เพราะฟุตบอลไทยลีก 3 ถือเป็นลีกรากหญ้าที่มีความสำคัญกับมวลรวมของฟุตบอลไทยทั้งระบบ
6. ยืนยันชัดเจนว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เตรียมนำทีมชาติไทยชุดยู 20 ปี กลับมาทำเอง หากสัญญาเอ็มโอยูเดิมระหว่างสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชุดเก่า กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบลง นั่นคือภารกิจลุ้นไปฟุตบอลยู 20 ปี ชิงแชมป์โลก 2025 ที่ชิลี ที่้้ผ่านมาต้องขอบคุณบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องการดูแลทีมชาติไทยชุดยู 20 เพราะสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ติดขัดเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างที่ทราบๆ กัน
7. ปลุกขวัญ ให้กำลังใจ สร้างทีมชาติไทยคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 ที่สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา โดยทีมชาติไทย เอาชนะซีเรีย 2-1 คว้าแชมป์คิงส์คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และสมัยที่ 16 มาครองได้สำเร็จ ท่ามกลางบรรยากาศสนามแตก โดยทีมชาติไทยกลับขึ้นไปอยู่ในแรงกิ้งท็อปร้อยของโลกได้อย่างที่หวัง
8. มาดามแป้งเดินทางไปลงนามเอ็มโอยูกับซาอุดีอาระเบียและกาตาร์ พร้อมดูงาน Aspire ศูนย์ฝึกระดับโลก หวังยกระดับฟุตบอลไทย ประเดิมความสัมพันธ์ในดีลนี้กับการนำทีมยู-17 ทีมชาติไทยไปชุบตัวที่กาตาร์เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าซาอุดีอาระเบียสู้ศึกยู-17 เอเชียน คัพ 2025 เพื่อลุ้นล่าตั๋วบอลโลก
9. สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี แต่งตั้ง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมฯ 2 ราย ไพฤทธิ์ ต้านไพรี และ พิสุทธา นันทวรเวช ในการทำหน้าที่ AFC Committee วาระปี 2023-2027 โดย "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ จะดำรงตำแหน่ง AFC Associations Committee โดยรับผิดชอบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และสมาคมสมาชิก รวมถึงการปฏิบัติตามข้อบังคับของฟีฟ่าและเอเอฟซีของสมาคมสมาชิก
10. ผลงานชิ้นโบแดงรอบปี 2024 นั่นคือการทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสภาครองเกรส ครั้งที่ 74 เมื่อวันที่ 13-17 ก.พ. 67 โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่มี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ทำหน้าที่เป็นแม่งานใหญ่ ได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก และสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ยังได้รางวัลสุดยิ่งใหญ่ของลูกหนังทวีปเอเชีย กับรางวัลสมาคมฟุตบอลยอดเยี่ยม ระดับ Diamond ในงาน AFC Annual Awards Seoul 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยรางวัลในสาขาดังกล่าว ถือเป็นรางวัลแรกที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้จากเอเอฟซี ในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการจัดงานประกาศรางวัลด้วย
จริงๆ น่าจะมีอีกหลายเรื่อง ... เขียนไม่หมด
"อ๊อฟ...อ๊อฟ"