นักฟุตบอลที่เติบโตขึ้นมาในรุ่นราวคราวเดียวกันกับ "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทั้งประสบการณ์ค้าแข้งอย่างโชกโชนในหลายสโมสรบนไทยลีก และระดับทีมชาติก็ถือว่าผ่านมาหลากหลายเวทีพอสมควรทั้งรุ่นเยาวชนและชุดใหญ่ แต่ใครจะไปรู้ว่า "เจ้าทู " ชนานันท์ ป้อมบุบผา มีน้องชายบุญธรรมที่เขาวาดฝันและถ่ายทอดวิชาลูกหนังให้ เพื่ออนาคตจะได้ขึ้นมาเดินตามเส้นทางลูกหนังเหมือนดั่งตน และเด็กน้อยบุญธรรมคนที่ว่า มีนามว่า "ปก" ปกป้อง ป้อมบุบผา
ปกป้อง ป้อมบุบผา น้องชายบุญธรรมของ "เจ้าทู" ชนานันท์ ป้อมบุบผา หนุ่มน้อยวัย 15 ปี เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2550 ในครอบครัวชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ตั้งแต่ตอนเกิดพ่อแม่ของ ชนานันท์ ป้อมบุบผา อย่าง คุณพ่อ ธนกิจ ได้เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งรับเป็นลูกบุญธรรม
เส้นทางลูกหนังเจ้าตัวถูกฟูมฟักสั่งสอนพร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาจากทั้ง "พี่ทู "ชนานันท์ ป้อมบุบผา และ พี่ "ท็อป"ภารดร ป้อมบุบผา พี่ชายคนโตของบ้าน จนเปรียบเสมือนโค้ชฟุตบอลคนแรกของเจ้าตัว ทั้งพี่ทูและพี่ท็อปคอยฝึกสอนศาสตร์วิชาฟุตบอลให้กับเจ้าตัวมาโดยตลอด จนเด็กน้อยคนนี้ซึมซับเข้าสายเลือดจนมีความชื่นชอบตามพี่ชายทั้งสองคน
เจ้าตัวเริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 7 ขวบ ที่โรงเรียนศุภลักษณ์ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี กับเพื่อนๆประถมด้วยกันตามประสาเด็กผู้ชายที่ชื่นชอบฟุตบอล ก่อนที่จะเข้ามาเล่นฟุตบอลจริงจัง ที่โรงเรียนอนุบาลสุพรรณบุรี โดยปัจจุบัน ปกป้อง เรียนที่มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีคุณครูที่โรงเรียนคอยฝึกฝนพัฒนาทักษะฟุตบอลให้โดยตลอดเปรียบเสมือนโค้ชฟุตบอลคนปัจจุบัน
หนุ่มน้อยที่ความส่วนสูง 175 เซนติเมตร น้ำหนัก 65 กิโลกรัม เล่าให้ทีมงานฟุตบอลสยามฟังถึงเรื่องราวของครอบครัวป้อมบุบผา ครอบครัวฟุตบอลอย่างแท้จริง ว่า" ปกติหลังเลิกเรียนทุกตอนเย็นผมก็จะมาฝึกซ้อมฟุตบอลกับพี่ท็อป ภารดร ป้อมบุบผา พี่ชายคนโตของพี่ทู ชนานันท์ ป้อมบุบผา ที่ Topstriker อะคาเดมี่ของพี่ท็อป ซึ่งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรีครับ ตอนแรกผมเริ่มเล่นฟุตบอลจากตำแหน่งปีกซ้ายตอนป.6 ครับ เพราะผมถนัดเท้าซ้ายเลยได้ไปเล่นตำแหน่งนั้น แต่ก็เปลี่ยนมาเล่นกองกลางตอนขึ้นม.1ครับ ซึ่งก็เป็นตำแหน่งที่ชอบและเล่นมาจนถึงปัจจุบัน เพราะผมเป็นคนชอบเล่นฟุตบอลสไตล์คอยสร้างสรรค์เกม หาโอกาสยิงให้เพื่อนครับ ทำให้ชอบเล่นกองกลาง"
ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้จาก "พี่ทู" ชนานันท์ ป้อมบุบผา ที่จะคอยเข้าสอนฟุตบอลให้กับเจ้าตัวบ้างเมื่อว่างหรือหลังแข่งขันฟุตบอลไทยลีกกับต้นสังกัดเสร็จ มันทำให้น้องปกป้อง ที่คอยมองเห็นและเรียนรู้จากพี่ชายคนนี้อยู่ตลอดเวลาถึงมีความฝันอยากจากเดินตามเส้นทางฟุตบอลอาชีพแบบพี่ทู
เจ้าตัวเล่าให้ฟังถึงอนาคตที่ฝันไว้ในเส้นทางฟุตบอล ว่า" เวลาพี่ทูว่างเขาก็จะมาสอนผมทั้ง ลูกยิง ลูกจ่าย สอนยิงลูกนิ่งจนผมชอบที่จะยิงลูกนิ่งให้กับทีมเวลาลงไปแข่งขันในสนาม พี่ทูเคยพาผมไปซ้อมกับเยาวชนรุ่น12-13 ปี ของทรู แบงค็อกฯ ตอนนั้นผมซ้อมได้ดีนะครับ ผมเลยวาดฝันไว้ที่จะอยากมีเส้นทางฟุตบอลแบบพี่ทู อยากลงเล่นฟุตบอลไทยลีก จนก้าวไปเล่นต่างประเทศให้ได้ ทั้งเจลีกหรือยุโรป พี่ทูจะคอยเตือนผมตลอดให้ดูแลร่างกายให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่ในสนามจะได้ทำอะไรได้อย่างแข็งแรงและรวดเร็ว "
นอกจากไอดอลแรงบันดาลใจของเขาจะเป็นพี่ทูแล้ว เจ้าตัวยังชื่นชอบที่จะดูการเล่นของ "ลิโอเนล เมสซี่" ไอดอลนักฟุตบอลที่เจ้าตัวยกให้เป็นนักเตะเบอร์หนึ่งในดวงใจ จากการที่เคยดูเมสซี่เล่นในแมตช์เอลกลาซิโก้เมื่อปี 2016 ที่นักเตะทีมชาติอาร์เจนตินาดีใจหลังทำประตูได้ด้วยการชูเสื้อให้แฟนบอลได้เห็นชื่อและเบอร์ของเขา ความเป็นคีย์แมนคนสำคัญของทีมทำให้ปกป้องอยากที่จะเป็นเหมือนไอดอลของเขาที่จะคอยเป็นคีย์แมนในสนามให้กับทีม
ส่วนถ้าพูดถึงในระดับสโมสรที่ เจ้าหนู" ปกป้อง ป้อมบุบผา " ชื่นชอบสโมสรในฟุตบอลไทยลีกก็คงเป็น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้นสังกัดปัจจุบันของพี่ชาย นอกเหนือจากนั้นเจ้าตัวยังชื่นชอบ เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมในไทยลีกที่จะคอยตามเชียร์ สำหรับทีมต่างประเทศเจ้าตัวเลือกที่จะชื่นชอบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสไตล์การเล่นที่ต่อบอลได้อย่างเป็นระบบ มีกองกลางที่เป็นระดับท็อปของโลกกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแบร์นาโด้ ซิลวา นักเตะที่เจ้าตัวจะชอบศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้ในการเล่นกองกลางของเขา
เจ้าตัวเล่าให้ฟังถึงการชอบเรียนรู้ศึกษาสไตล์การเล่นของนักฟุตบอลระดับคุณภาพ จนนำมาปรับใช้การสนามว่า" ผมจะชอบดูการเล่นของ "แบร์นาโด้ ซิลวา" มากที่สุดครับ เขาเป็นนักเตะที่มีสไตล์คอยทำเกมหาช่องในการทำประตู ผมเลยเอามาใช้กับตัวเองตอนเล่นในสนามบ้างครับ ถ้านักเตะไทยชอบดู "พี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ เขามีความเร็วความสามารถเฉพาะตัวที่ดี "
ด้วยวัยที่ยังมีเส้นทางในสายลูกหนังอีกยาวไกล และการมีพี่ชายที่คอยปลูกฝั่งอบรมสั่งสอนอยู่เคียงข้างมาอย่างตลอดแบบนี้ ในอนาคตตระกูลป้อมบุบผา คงจะมีนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลไทยได้อีกหนึ่งคน และเมื่อขึ้นมาแล้ว เราอาจจะได้เห็นสองพี่น้องป้อมบุบผา ลงเล่นด้วยกันในฟุตบอลอาชีพเลยก็ได้