แอนโธนี่ ฮัดสัน แม่ทัพคนใหม่ผู้กอบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

   กระทั่งช่วงบ่ายของวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2025 - เดอะ แรบบิต ประกาศว่าพวกเขาแต่งตั้ง แอนโธนี่ ฮัดสัน เป็นกุนซืออย่างเป็นทางการ

   เทรนเนอร์หนุ่มวัย 43 ปี เป็นลูกชายแท้ๆ ของ อลัน ฮัดสัน อดีตกองกลางที่เคยโลดแล่นกับ เชลซี, สโต๊ก และ อาร์เซน่อล จนก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ แล้วย้ายไปค้าแข้งในสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นทศวรรษที่ 80'

   นั่นเองจึงเป็นที่มาของการกำเนิด แอนโธนี่ ณ เมืองซีแอตเทิ่ล นั่นเอง

   แม้จะไปเติบโตที่เมืองมะกัน แต่พอเริ่มเข้าสู่วงการลูกหนัง ฮัดสัน ไต่เต้าจากอะคาเดมี่ของ เวสต์แฮมทว่าไม่มีผลงานอะไรมากนัก ก่อนจะย้ายไป เอ็นอีซี ไนจ์เมเก้น (เนเธอร์แลนด์ส) และปิดฉากอาชีพค้าแข้งที่ วิลมิงตัน แฮมเมอร์เฮดส์ สโมสรในลีกล่างของสหรัฐอเมริกา บนวัยเพียง 26 ปี เท่านั้น

   ในช่วงที่อยู่กับ วิลมิงตัน แฮมเมอร์เฮดส์ เขาควบตำแหน่งโค้ชและผู้เล่น ซึ่งนั่นเองที่ทำให้เจ้าตัวค่อยๆ ซึมซับการเป็นเทรนเนอร์ทีละนิด

   ด้วยความที่มีแววเด่นในการคุมทีม ตุลาคม 2008 ฮัดสัน ถูก เรอัล แมรี่แลนด์ สโมสรในลีกลำดับที่ 3 ของสหรัฐอเมริกา แต่งตั้งให้เป็นกุนซือ ซึ่งด้วยวัยเพียง 27 ปี ทำให้เขาเป็นเฮดโค้ชที่อายุน้อยที่สุดของประเทศ ณ เวลานั้น

   ความเจ๋งของเขาตอนเป็นบิ๊กบอสที่ เรอัล แมรี่แลนด์ คือการพาทีมจบอันดับ 5 ของตาราง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นจมบ๊วยอยู่หลายเดือน จนปลายซีซั่น พี่แกถูกรับเลือกให้เป็น 'เฮดโค้ชยอดเยี่ยม' ของลีกเลยทีเดียว

   เขาอยู่กับ เรอัล แมรี่แลนด์ ได้ 2 ฤดูกาล เขาก่อนมาเป็นโค้ชทีมสำรองของ สเปอร์ส ในช่วงสั้นๆ และมาได้งานกุนซือเต็มตัวกับ นิวพอร์ต เคาน์ตี้ สโมสรใน คอนเฟอเรนซ์ พรีเมียร์ (ลีกลำดับ 5 ของอังกฤษ) 

   ในช่วงที่กลับบ้านเกิดของคุณพ่อ เขาได้รับคำชมจาก แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ผู้จัดการทีมชั้นครูของวงการลูกหนังเมืองผู้ดี ที่ให้นิยามเกี่ยวกับ ฮัดสัน สั้นๆ ว่า 'ลิตเติ้ล มูรินโญ่' อันหมายถึงมีความเก่งกาจในด้านแท็กติกคล้ายๆ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส นั่นเอง

   อย่างไรก็ตาม เขาอยู่กับ นิวพอร์ต เคาน์ตี้ ได้ไม่นานก็ได้รับการทาบทามจากบาห์เรน ให้ไปเป็นเฮดโค้ชทีมชาติชุดยู-23 ในปี 2012

   ที่นี่เองเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้พี่แกเฉิดฉาย เพราะแค่ทัวร์นาเมนต์แรกก็นำทีมไปถึงรองแชมป์ จีซีซี คัพ (ศึกชิงแชมป์เยาวชนเอเชียนตะวันตก) ก่อนที่ปีถัดมา (2013) จะนำ เดอะ เร้ด ครองบัลลังก์ได้สำเร็จ 

   แน่นอนว่าโปรไฟล์แจ่มขนาดนี้ มีหรือที่สมาคมฟุตบอลบาห์เรน จะนิ่งนอนใจ ว่าแล้วก็ดัน ฮัดสัน ขึ้นเป็นเฮดโค้ชของทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2013 โดยควบตำแหน่งคุมชุดยู-23 เช่นกัน และเขาก็สร้างชื่อต่อเนื่องด้วยการนำทีมคว้าอันดับ 3 ของการแข่งขัน ดับบริวเอเอฟเอฟ คัพ 2014 (ศึกชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียนตะวันตก) ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ณ ขณะนั้นเลยทีเดียว

   หลังจากไปได้สวยกับบาห์เรน - ปี 2014 เขาไปต่อที่ทีมชาตินิวซีแลนด์ โดยอยู่ที่นี่ราวๆ 4 ปี ในบทบาทกุนซือชุดใหญ่และยู-23

   ฮัดสัน ยังการันตีด้วยถ้วยรางวัล เพราะพี่แกนำ ออลล์ ไวท์ คว้าแชมป์ โอเชียเนีย คัพ 2016 ต่อด้วยการนำทีมผ่านเข้าไปเล่นเพลย์-ออฟ เวิลด์ คัพ 2018 ก่อนจะแพ้เปรู ด้วยสกอร์รวม 0-2 อย่างน่าเสียดาย

   ปี 2017 เขาย้ายกลับบ้านเกิดไปคุม โคโลราโด้ ราปิดส์ ด้วยวัยเพียง 36 ทำให้กลายเป็นเฮดโค้ชที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แต่ไม่มีผลงานที่โดดเด่นมากนัก

   กระทั่งมกราคม 2021 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญมาถึงอีกครั้ง เพราะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยของ เกร็กก์ เบอร์ฮัลเตอร์ กุนซือทีมชาติสหรัฐอเมริกา 

   พอเทรนเนอร์ใหญ่สัญญาหมดลงในปี 2023 - เขาก็ทำหน้าที่แทน โดยได้คุมพญาอินทรีอยู่ 3 เกม พร้อมกับสถิติชนะ 2 และเสมอ 1 นัด 

   พลันที่แยกทางกับสหรัฐอเมริกา - ฮัดสัน ลัดฟ้ามาหาความท้าทายในเอเชีย อีกครั้ง โดยเริ่มจาก อัล-มาร์คิยาห์ สโมสรในลีกสูงสุดกาตาร์ (กรกฎาคม 2023) ตามด้วย อัล อาราบี เอสซี และเพิ่งหมดสัญญาเมื่อธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา

   นอกเหนือจากการทำทีมฟุตบอล เขายังเป็นนักสังคมสงเคราะห์ตัวยง  เพราะอุทิศตนเป็นอาสาสมัครของเรือนจำและโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร รวมไปถึงนิวซีแลนด์ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีติดสุราเรื้อรัง

   เท่านั้นไม่พอ เมื่อพฤษภาคม 2019 พี่แกยังก่อตั้งมูลนิธิ ฟอร์ก็อตเท่น ด็อกส์ ฟาวเดชั่น (Forgotten Dogs Foundation) เพื่อช่วยให้สุนัขไร้บ้านได้พบที่พักพิงที่ปลอดภัย โดยมูลนิธิมักจะจัดคลินิกฟุตบอลและทัวร์นาเมนต์เพื่อระดมทุนให้แก่น้องหมาที่น่าสงสาร

   ส่วนในแง่มุมของโค้ช - ฮัดสัน พกดีกรี ยูฟ่า โปร ไลเซ่นส์ และชื่นชอบในระบบ 4-1-3-1 และสามารถยืดหยุ่นแท็กติกได้ตามสถานการณ์ของการแข่งขัน

   นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของเรื่องราวกุนซือป้ายแดงของ บีจี ปทุม ที่เพิ่งประเดิมนัดแรกในการคุมทัพด้วยการพาทีมชนะ ตรังกานู ตัวแทนจากมาเลเซีย ใน ช็อปปี้ คัพ 2024-25 ด้วยสกอร์ 4-3

   แน่นอนว่า ฮัดสัน ย่อมเห็นถึงปัญหาที่มีอยู่ แต่ด้วยศักยภาพในหลายๆ ด้าน บวกกับมันสมองของเทรนเนอร์เชื่อสายอังกฤษ แสงสว่างกำลังรออยู่ที่ปลายทาง

   ด้วยฟอร์มที่ลุ่มๆ ดอนๆ ซึ่งหนักไปที่ความน่าผิดหวังของ เดอะ แรบบิต จะถูกแก้ไขโดยเฮดโค้ชหนุ่มไฟแรงที่พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อนำทีมกลับมาผงาดอีกครั้ง 

   แอนโธนี่ ฮัดสัน แม่ทัพคนใหม่ผู้กอบกู้กระต่ายแก้ว