วิเคราะห์ไทยลีก 2024-25 โค้งสุดท้าย ศึกนี้จะจบอย่างไร?

วิเคราะห์ไทยลีก 2024-25  โค้งสุดท้าย ศึกนี้จะจบอย่างไร?
ไทยลีก 2024-25 เข้าสู่ช่วง 11 นัดสุดท้ายหรือคิดเป็นหนึ่งใน 3 ของการแข่งขัน แต่ละสโมสรมีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามา 'วิเคราะห์' ความเป็นไปได้ ก่อนที่ฤดูกาลจะปิดฉากในช่วงปลายเดือนเมษายน!!

สำหรับโควตาถ้วยเอเชีย ของสโมสรไทย ในฤดูกาล 2025-26 มีดังนี้ (2+1)

แชมป์ : ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต 

รองแชมป์ : ได้เข้ารอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2

แชมป์ เอฟเอ คัพ : ได้เล่นรอบเพลย์-ออฟ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ถ้าหากแพ้ จะตกลงมาเล่น รอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 

[ 1 ] โซนลุ้นแชมป์

- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (48 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 1

ศึกหนัก : การท่าเรือ (เหย้า), เมืองทอง (เยือน), บีจี ปทุม (เหย้า)

แชมป์เก่ามีโอกาสที่จะครองบัลลังก์เป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกันสูงมาก เนื่องจากมีแต้มห่างรองจ่าฝูงอย่าง แบงค็อก มากถึง 8 คะแนน แถมตัวเองก็แทบไม่สะดุด ผิดกับบียูที่ต้องลุ้นเหนื่อยอยู่บ่อยๆ อีกทั้งโปรแกรมในช่วงที่เหลืออยู่ก็ไม่หนักจนเกินไป ดังนั้นพวกเขาน่าจะจบซีซั่นด้วยอันดับหนึ่งของตารางเช่นเคย

- แบงค็อก ยูไนเต็ด (40 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 2

ศึกหนัก : ราชบุรี (เยือน), สุโขทัย (เยือน), การท่าเรือ (เยือน), เมืองทอง (เหย้า), บีจี ปทุม (เหย้า)

แบงค็อก อาจจะทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2025 แต่กระนั้นด้วยแต้มที่ห่างจาก บุรีรัมย์ แบบไกลโพ้น บวกกับการที่พวกเขามักจะฟอร์มตกดื้อๆ ในเลกที่สอง และเมื่อบวกปัจจัยเรื่องของโปรแกรมหนักที่รออยู่เพียบ อีกทั้งปราสาทสายฟ้าก็ไร้ทีท่าว่าจะแพ้พ่าย มันจึงทำให้โอกาสที่ขุนพลแข้งเทพจะเป็นรองแชมป์เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันมีสูงทีเดียว

[ 2 ] โซนลุ้นอันดับ 3

อันดับ 3 ยังมีโอกาสได้ไปเล่นถ้วยเอเชีย หากว่า 'แชมป์ เอฟเอ คัพ' 2024-25 เป็นอันดับ 1 หรือ 2 ของ ไทยลีก

- การท่าเรือ เอฟซี (30 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 3

ศึกหนัก : บุรีรัมย์ (เยือน), บีจี ปุม (เยือน), เมืองทอง (เยือน), แบงค็อก (เหย้า), ลำพูน (เยือน), หนองบัว พิชญ (เยือน)

จริงๆ แล้วพวกเขาน่าจะเกาะกลุ่มลุ้นแชมป์ แต่ความที่เปิดฉากปี 2025 เป็นตันมา การท่าเรือ เก็บได้เพียงแต้มเดียวจาก 4 นัด ส่งผลให้คะแนนหยุดอยู่ที่ 30 และมีวี่แววว่าจะถูกแซง หากฟอร์มการเล่นยังถอยหลังเช่นเดิม นอกจากนี้โปรแกรมในช่วงที่เหลืออยู่ก็สาหัสสากรรจ์อีกต่างหาก ดังนั้นคงต้องลุ้นไปจนถึงเกมสุดท้ายของฤดูกาลว่าจะได้ไปลุยถ้วยเอเชีย หรือไม่ 

- เมืองทอง ยูไนเต็ด (29 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 4

ศึกหนัก : สุโขทัย (เยือน), ขอนแก่น (เยือน), บุรีรัมย์ (เหย้า), บีจี ปทุม (เยือน), การท่าเรือ (เหย้า), ประจวบ (เยือน), แบงค็อก (เยือน), อุทัยธานี (เยือน)

เมืองทอง กลายเป็นทีมที่มักจะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากๆ ในเลกที่สอง ซึ่งเป็นเช่นนี้มา 2-3 ฤดูกาลหลังสุด ทว่าซีซั่นปัจจุบันคงจะเป็นงานยากยิ่งหากพวกเขาจะไปจบอันดับ 3 เนื่องจากมีโปรแกรมแข่งนอกบ้านเหลือเพียบ แถมแต่ละแมตช์ก็อ่วมทั้งนั้น ทว่าถ้าผ่านอุปสรรคข้อนี้ได้ พวกเขาก็จะก้าวข้ามในทันที  

- บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (29 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 5

ศึกหนัก : การท่าเรือ (เหย้า),เมืองทอง (เหย้า), หนองบัว พิชญ (เยือน), อุทัยธานี (เยือน), บุรีรัมย์ (เยือน), แบงค็อก (เยือน)

ที่จริง บีจี ปทุม ไม่ควรจะอยู่ตรงนี้เลยด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับขุมกำลังที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นนำของประเทศ ทว่าการที่ฟอร์มการเล่นของพวกเขาลุ่มๆ ดอนๆ มันจึงทำให้ต้องมาลุ้นพื้นที่อันดับ 3 โดยที่มีเกมหนักหน่วงรออยู่อีกมากมาย แต่ถ้าจูนเครื่องติดและเรียกความมั่นใจกลับมาได้เมื่อใด กระต่ายแก้วก็สามารถล้มทุกทีมที่เผชิญหน้าเช่นกัน

- ราชบุรี เอฟซี (29 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 6

ศึกหนัก : นครราชสีมา (เยือน), แบงค็อก (เหย้า), ระยอง (เยือน), สุโขทัย (เยือน), ขอนแก่น (เยือน), บุรีรัมย์ (เหย้า), นครปฐม (เยือน)

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในเลกที่สอง ทำให้ ราชบุรี ถีบตัวเองมาอยู่ในกลุ่มลุ้นอันดับ 3 อย่างเต็มตัว ซึ่งต้องให้เครดิตกับเกมในบ้านสุดแข็งแกร่ง บวกการเล่นที่มีระเบียบวินัยจนได้แต้มใหญ่จาก บีจี ปทุม, เมืองทอง และ การท่าเรือ ซึ่งถ้ารักษามาตรฐานในระดับนี้ได้เรื่อยๆ รับประกันเลยว่าพวกเขาก็มีลุ้นทำตัวเลขที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเลยทีเดียว

- ประจวบ เอฟซี (28 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 7

ศึกหนัก : บุรีรัมย์ (เหย้า), ขอนแก่น (เยือน), การท่าเรือ (เยือน), บีจี ปทุม (เยือน), อุทัยธานี (เยือน), เมืองทอง (เหย้า), ราชบุรี (เยือน), นครราชสีมา (เยือน), แบงค็อก (เหย้า)

ผลพวงจากการเลือกกุนซือที่ใช่อย่าง สะสม พบประเสริฐ มาคุมทัพ บวกด้วยการเสริมนักเตะที่ตรงจุด ทำให้ ประจวบ ไม่ต้องดิ้นรนอยู่โซนท้ายตารางอีกต่อไป ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าต่อพิฆาตจะขยับไปอีกก้าวหรือไม่ ซึ่งภายใต้การกำกับของ 'โค้ชเตี้ย' บางทีพวกเขาอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ก็เป็นได้

- สุโขทัย เอฟซี (28 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 8

ศึกหนัก: เมืองทอง (เหย้า), นครราชสีมา (เยือน), แบงค็อก (เหย้า), ระยอง (เยือน), หนองบัว พิชญ (เยือน), บุรีรัมย์ (เหย้า), บีจี ปทุม (เยือน)

นี่คือทีมที่ฟอร์มในบ้านแข็งแกร่งที่สุดและมันเป็นปัจจัยที่ทำให้ค้างคาวไฟโลดแล่นอยู่กลุ่มบนของตารางอย่างสม่ำเสมอ แต่พอเป็นเกมเยือน พวกเขาเก็บ 3 คะแนนได้เพียงนัดเดียวในฤดูกาล 2024-25 ดังนั้นถ้าปรารถนาจะพวยพุ่งไปสูงกว่าที่เป็นอยู่ ต้องแก้จุดด้อยตรงจุดนี้ให้สำเร็จเสียก่อน

[ 3 ] โซนสีแดง

- นครราชสีมา เอฟซี (25 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 9

ศึกหนัก : แบงค็อก (เยือน), หนองบัว พิชญ (เยือน), การท่าเรือ (เยือน), ขอนแก่น (เหย้า), บุรีรัมย์ (เยือน), บีจี ปทุม (เยือน), การท่าเรือ (เหย้า), เมืองทอง (เยือน)

หากว่า นครราชสีมา สามารถรักษามาตรฐานได้อย่างตอนต้นฤดูกาล บางทีพวกเขาคงไม่ต้องมาดิ้นรนอยู่ในครึ่งล่างของตารางคะแนนแน่ๆ ซึ่งจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ แมวพิฆาตจำเป็นต้องเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยเมื่อถึงช่วงท้ายๆ ของซีซั่น อย่างไรก็ตาม การมี ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น เป็นเทรนเนอร์ น่าจะอุ่นใจในระดับหนึ่งว่าโค้ชคนนี้มีดีพอที่จะพาทีมไปต่อในปีต่อๆ ไป

- อุทัยธานี เอฟซี (22 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 10

ศึกหนัก : ระยอง (เยือน), เชียงราย (เยือน), ขอนแก่น (เหย้า), บุรีรัมย์ (เหย้า), นครปฐม (เยือน), บีจี ปทุม (เหย้า), การท่าเรือ (เยือน), เมืองทอง (เยือน), เมืองทอง (เหย้า, เกมตกค้าง)

ช้างป่าห้วยขาแข้ง สร้างเซอร์ไพรส์ในเลกแรกได้มากทีเดียว แต่พอเปิดฉากเลกที่สองมา พวกเขากลับแพ้รวด 3 นัดติดต่อกัน อันดับเลยหล่นฮวบแบบน่าใจหาย แต่ด้วยประสบการณ์การทำทีมของ มิลอส ย็อคซิช น่าจะช่วย อุทัยธานี ให้อยู่รอดปลอดภัยแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อยไปจนช่วงท้ายฤดูกาลอย่างแน่นอน

- ลำพูน วอร์ริเออร์ (21 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 11

ศึกหนัก : ราชบุรี (เยือน), ระยอง (เยือน), เชียงราย (เหย้า), ขอนแก่น (เยือน), บุรีรัมย์ (เหย้า), บีจี ปทุม (เยือน), การท่าเรือ (เหย้า), ประจวบ (เยือน), อุทัยธานี (เยือน)

การที่กุนซือของ ลำพูน ชื่อ อเล็กซานเดร กามา ยังไงก็การันตีความเหนียวแน่นในเกมรับและแท็กติกอันแยบยล ดังนั้นราชันโคขาวจึงสามารถต่อกรได้ทุกทีมในประเทศ ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มหัวตารางที่สู้ด้วยกลยุทธ์ล้วนๆ ยิ่งถ้าผ่าน 3 เกมมหาหินในเดือนมีนาคม ที่จะต้องเจอทั้ง บุรีรัมย์, บีจี ปทุม และ การท่าเรือ ไปได้ รับรองเลยว่าพวกเขาอาจจะทำอันดับได้สูงกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ 

- ระยอง เอฟซี (21 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 12

ศึกหนัก : ทุกเกมที่เหลืออยู่ของซีซั่น 2024-25

แม้จะมี 21 แต้ม เท่ากับ ลำพูน แต่เปอร์เซ็นต์ที่ ระยอง จะต้องดิ้นรนนั้นสูงกว่ายอดทีมจากดินแดนหริภุญชัยมากๆ เนื่องจากประสบการณ์และตัวผู้เล่นยังเป็นรองพอสมควร อีกทั้งโปรแกรมที่เหลืออยู่ก็ค่อนข้างหนัก เพราะต้องออกไปเยือนถึง 6 เกม เลยทีเดียว แต่กระนั้น ถ้าหากพวกเขารวมพลังสู้สุดใจ โอกาสที่จะไปต่อในซีซั่นหน้าก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยซะทีเดียว

- หนองบัว พิชญ เอฟซี (20 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 13

ศึกหนัก : ทุกเกมที่เหลืออยู่ของซีซั่น 2024-25

ปัญหาใหญ่ของ หนองบัว พิชญ คือเกมเยือน เพราะเล่นไปแล้ว 9 นัด ปรากฏว่ายังไม่ชนะใครเลย ซึ่งเป็นทีมเดียวในลีกที่ผลงานย่ำแย่มากๆ ยามออกนอกบ้าน ซึ่งถ้ายังเป็นเช่นเดิมอยู่ ทีมพญาไก่ชนก็อาจจะต้องกลับไปนับหนึ่งใหม่อีกครั้งในซีซั่น 2025-26

- เชียงราย ยูไนเต็ด (20 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 14

ศึกหนัก : ทุกเกมที่เหลืออยู่ของซีซั่น 2024-25

อดีตแชมป์ ไทยลีก 2019 มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะผู้เล่นคนสำคัญที่ย้ายออกกันระนาวตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล 2024-25 ทำให้ศักยภาพโดยรวมลดลงอย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็พยายามยืนหยัดสู้อย่างเต็มที่ ทว่าจากปัจจัยรอบๆ ด้าน มันมีความเป็นไปได้สูงที่กว่างโซ้งมหาภัยอาจจะต้องตาม ชลบุรี เอฟซี ไปอีกทีม

- นครปฐม ยูไนเต็ด (14 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 15

ศึกหนัก : ทุกเกมที่เหลืออยู่ของซีซั่น 2024-25

นับตั้งแต่เลื่อนชั้นสู่ ไทยลีก ได้สำเร็จเมื่อฤดูกาล 2023-24 พวกเขาก็กลายเป็นทีมที่คู่แข่งไม่อาจประมาทได้เลย แต่ปัจจุบันกับการมีแต้มห่างจากโซนปลอดภัยถึง 7 คะแนน ทำให้โอกาสที่ นครปฐม จะอยู่รอดนั้นยากยิ่งทวีคูณ ทว่าการได้ ธงชัย สุขโกกี กลับมาคุมทีมอีกครั้ง อาจจะเป็นความหวังที่จะนำเสือป่าราชาฝ่าวิกฤติไปได้ในบั้นปลาย

- ขอนแก่น ยูไนเต็ด (10 คะแนน)

อันดับปัจจุบัน : 16

ศึกหนัก : ทุกเกมที่เหลืออยู่ของซีซั่น 2024-25

10 คะแนน จากการชนะ 2 และเสมอ 4 เกม โดยที่เหลืออีก 11 นัด ให้เก็บแต้ม น่าจะพอเห็นอนาคต ไทยลีก 2 ของ ขอนแก่น อยู่รางๆ แล้ว - ปัญหาของพวกเขาอยู่ที่เกมรุกที่ฝืดสุดๆ เพราะยิงได้เพียง 9 ประตู จาก 19 แมตช์ บวกกับเกมในบ้านที่เคยเป็นจุดแข็งมาก่อน ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ดังนั้นจงอางผยองจะต้องเล่นให้เหมือนรอบชิงชนะเลิศทุกๆ เกม ต่อจากนี้ หากหวังอยู่ต่อในฤดูกาลถัดไป


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport