บีจี สเตเดี้ยม - ปัจจัยสำคัญพาบียูเชือดบุรีรัมย์

   นอกจากนี้ มันยังเป็น 3 แต้มอันล้ำค่าที่พวกเขาได้มา เพราะมันช่วยลดช่องว่างจาก 9 เหลือเพียง 6 คะแนนเท่านั้น 

   ในทางกลับกัน หากบียูเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ก็จะตามไกลสุดกู่ถึง 12 แต้มเลยทีเดียว

   ดังนั้นชัยชนะเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 จึงเป็นพลังบวกให้กับ แบงค็อก โดยแท้จริง 

   ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แข้งเทพหักด่านยอดทีมแห่งแดนอีสานได้นั้นมีอยู่หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นที่มากกว่า เพราะถ้าแพ้หรือเสมอมันไม่เป็นผลดีเลย รวมไปถึงทีมเยือนต้องเล่นถ้วย ช็อปปี้ คัพ จึงเกิดอาการเหนื่อยล้าพอสมควร แม้จะถล่มคู่ต่อสู้สบายๆ ก็จริง แต่การเดินทางบ่อยๆ ย่อมกระทบถึงสภาพร่างกายโดยตรง

   ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ดูจะชัดเจนมากๆ และไม่อาจปฏิเสธได้เลยคือเรื่องของ 'สนาม' 

   แบงค็อก จำเป็นต้องขยับจากสนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิต มาแข่งขันที่ บีจี สเตเดี้ยม เพราะรังเหย้าตนเองติดงานกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย แต่กลายเป็นว่ามันเป็น 'ผลดี' มากกว่าเดิมเสียอีก เนื่องจากการที่ได้เล่นแบบที่ขอบหญ้าแนบชิดกับอัฒจันทร์ผู้ชม มันช่วยส่งพลังใจไปถึงนักเตะแบบเห็นๆ

   ตลอดทั้ง 90 นาที เสียงเชียร์จากสาวกบียูสามารถกดดันอาคันตุกะได้อย่างไม่ลดละ ซึ่งส่งผลให้ฝั่งทีมเยือนต้องพบกับความยากลำบากในเรื่องสภาพจิตใจ

   เมื่อเสียงโหวกเหวกโวยวาย ร่วมด้วยเสียงกลอง รวมกันเป็นหนึ่งเดียว บุรีรัมย์ จึงเดินเกมได้ไม่ปะติดปะต่อเท่าที่ควร ซึ่งนอกจากจะลดทอนความอันตรายของคู่ต่อสู้แล้ว มันยังย้อนเป็นพลังบวกให้กับฝ่ายที่เป็นเจ้าถิ่นอีกต่างหาก

   เรียกว่ามีแต่ได้กับได้

   ก่อนหน้านี้ยามที่ แบงค็อก เล่นที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิต พวกเขาดูจะไม่ได้เปรียบฝั่งตรงข้ามสักเท่าไหร่ แถมในหลายๆ เกม ดูเหมือนแฟนๆ ของผู้มาเยือนจะมากกว่ากองเชียร์ทีมตัวเองเสียด้วยซ้ำ

   นับตั้งแต่บียูได้ ทรู คอร์เปอเรชั่น เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักในปี 2010 พวกเขาก็ค่อยๆ สถาปนาตนเองสู่การเป็นสโมสรเบอร์ต้นๆ ของสยามประเทศ

   ทว่าความสำเร็จเดียวที่จับต้องได้คือแชมป์ เอฟเอ คัพ 2023-24 หรือเมื่อซีซั่นที่ผ่านมารายการเดียวเท่านั้น

   แบงค็อก มีศักยภาพที่พร้อมจะประสบความสำเร็จมากๆ ทุนทรัพย์มหาศาล, การเงินคล่องตัว, ผู้บริหารซัพพอร์ตทุกด้าน, สตาฟฟ์โค้ชก็เก่ง, บุคลากรในส่วนอื่นๆ ก็คนลูกหนังทั้งนั้น แต่กลับมีโทรฟี่น้อยเกินไป

   หลายๆ ฤดูกาลในศึก ไทยลีก - บียูคือทีมที่ทำคะแนนได้เป็นกอบเป็นกำในระยะแรก ก่อนจะค่อยๆ แผ่วทีละนิด โดยเฉพาะเลกสองนี่แทบจะทุกซีซั่นเลยที่พวกเขาสะดุดขาตัวเองอยู่เสมอ จนจบเพียง 'รองแชมป์' และคว้าอันดับ 2 ไปถึง 4 จาก 8 ครั้งหลังสุด

   ย้อนกลับไปมองสโมสรที่ประสบความสำเร็จเคยได้แชมป์ลีก ไล่ตั้งแต่ ชลบุรี (2007), เมืองทอง ยยูไนเต็ด (2009ม 2010, 2021 และ 2016), เชียงราย ยูไนเต็ด (2019), บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (2020-21) และ บุรีรัมย์ 

   ทีมเหล่านี้ต่างมีแฟนคลับมากมายหนุนหลังยามเล่นในบ้าน เพราะสนามแข่งขันที่ค่อนข้างเอื้ออำนวยในการกดดันผู้มาเยือนแบบชัดเจน

   ผิดกับ แบงค็อก ที่เคยใช้ทั้งสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ก่อนจะโยกมาที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิต ตั้งแต่ปี 2015 

   ทั้งสองสนามไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ถ้าต้องการจะยกระดับไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ พวกเขาควรจะมีสนามของตนเองแบบที่ผืนหญ้าสนิทแนบกันผู้ชม

   ผลงานในการเอาชนะ บุรีรัมย์ 3-2 ก็เห็นได้ชัดว่าเสียงเชียร์นั้นส่งผลในแง่ลบให้กับคู่แข่ง แล้วแปรผันเป็นพลังบวกให้กับทีมตัวเอง

   อย่างไรก็ตาม แม้จะจี้ตามเหลือเพียง 6 คะแนน แต่โอกาสที่แชมป์ ไทยลีก จะตกเป็นของ บุรีรัมย์ ก็ยังสูงอยู่ดี ด้วยศักยภาพในหลายๆ ด้าน อีกทั้งเดี๋ยว แบงค็อก ก็คงจะทำแต้มหล่นอีกแน่ๆ

   แต่อย่างน้อย การที่ได้เล่นในสนามที่ไม่ต้องมีลู่วิ่งคั่นกลางระหว่างผู้ชมกับนักเตะนั้นสามารถช่วยได้จริงๆ 

   บีจี สเตเดี้ยม - ปัจจัยสำคัญพาบียูเชือดบุรีรัมย์

ชิกกะด้าว