ห้ามลืม!! ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ บุรีรัมย์-เมืองทอง ฟัดกันวันอาทิตย์นี้

แม้ฟอร์มโดยรวมของไทย จะไม่ไฉไลเท่าใดนัก แต่ก็ยังพอเข้าใจได้ เนื่องจาก มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดนั่นเอง อีกทั้งเขายังบอกตั้งแต่แรกแล้วว่านี่คือการเตรียมตัวเพื่ออนาคต

ดังนั้นอย่าเพิ่งคาดหวังอะไรมาก เนื่องจากอยู่ในช่วงทดลองหลายๆ สิ่งอย่าง 

ด้วยความฟีเวอร์ของศึกชิงแชมป์ลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มันจึงทำให้แฟนฟุตบอลชาวไทย อาจจะลืมไปว่าวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2024 นั้นมี ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ รออยู่ที่ ช้าง อารีน่า

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปะทะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 

นี่คือสองสโมสรที่เดินเป็นเส้นขนานนานนับสิบปีในปฐพีสยามประเทศ

หนึ่งคือทีมที่ครองแชมป์ลีกได้มากที่สุดบนแผ่นดินขวานทอง อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโทรฟี่มากมายก่ายกองจนแทบจะล้นตู้โชว์

หนึ่งคือสโมสรที่ปลุกกระแสนิยมในกีฬาลูกหนังให้กลับมาเฟื่องฟูถึงขีดสุด ด้วยนโยบายด้านการตลาดอันลึกล้ำ พ่วงด้วยถ้วยรางวัลที่เป็นรองเพียงทีมเดียวเท่านั้น

ปัจจุบัน แม้ว่า เมืองทอง จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและวัฏจักรของฟุตบอล ทว่าพวกเขาก็ยังคงสถานะ 'ทีมใหญ่' ของเมืองไทย ไว้ได้เสมอ อาจจะมีบ้างที่ฟอร์มย่ำแย่ แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ กิเลนผยองก็ยังเป็นคู่ต่อสู้ที่ทุกคนครั่นคร้าม

ขณะที่ บุรีรัมย์ ยังต่อยอดความยิ่งใหญ่แบบต่อเนื่อง พวกเขากระหายความสำเร็จในทุกๆ ซีซั่น เพราะการจบฤดูกาลโดยไร้ถ้วยรางวัลถือเป็น 'ความล้มเหลว' โดยสิ้นเชิง

ไม่แปลกที่ทุกๆ ตลาดซื้อ-ขายนักเตะ ปราสาทสายฟ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะว่าต้องการเติมเชื้อไฟให้ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อบวกด้วยทุนทรัพย์มหาศาลของสโมสร มันจึงทำให้พวกเขาคงสถานะเบอร์หนึ่งของประเทศติดต่อกันมาหลายปี

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า บุรีรัมย์ จะยืนยงคงกระพัน แถมยังรั้งจ่าฝูงของตาราง ไทยลีก 2024-25 แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาไร้ซึ่งจุดอ่อน

จิโน่ เล็ตติเอรี่ กุนซือ เมืองทอง ยูไนเต็ด เองก็รู้ดีว่าจะจัดการกับยอดทีมแห่งแดนอีสานเช่นไร แม้จะไปเยือนด้วยความเป็นรองก็ตาม แต่จากผลงานที่ประจักษ์ต่อสายตาประชาชี ทุกคนต่างยอมรับว่าพี่แกเป็นเฮดโค้ชที่ 'มีของ' อยู่พอตัวทีเดียว

หากเทียบผู้เล่นตำแหน่งต่อตำแหน่ง บุรีรัมย์ ดูดีกว่าแน่นอน แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยิ่งในแง่ของแท็กติกที่ปัจจุบันมีผลต่อการแข่งขันเกินครึ่ง มันจึงทำให้โอกาสที่กิเลนผยองจะบุกไปควัก 3 คะแนน ถึง ช้าง อารีน่า ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน

อย่าลืมว่านักเตะ เมืองทอง ต่างก็ได้พักอย่างเต็มเหนี่ยว แถมไม่มีใครติดภารกิจกับทีมชาติไทย ใน อาเซียน คัพ ดังนั้นพวกเขาจึงไปเยือนด้วยสภาพทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์

แม้จะเพิ่งปราชัยเป็นหนแรกในรอบ 7 นัด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ากิเลนผยองจะห่อเหี่ยว ในทางกลับกัน มันยังเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีที่จะทำให้พวกเขาคืนฟอร์มเก่ง โดยมี บุรีรัมย์ เป็นตัวชี้วัดนั่นเอง

ทางฝั่งปราสาทสายฟ้าที่ตัวหลักอย่าง ธีราทร บุญมาทัน, ศุภชัย ใจเด็ด, ศศลักษณ์ ไหประโคน พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล รวมไปถึง นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ก็ไม่ได้ถูกเรียกตัวสู่แคมป์ช้างศึก ดังนั้นจึงฟิตพร้อมสำหรับ ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ ในวันอาทิตย์นี้เช่นกัน

เมื่อมองไปถึงองค์ประกอบของทั้งสองฝั่ง ณ ปัจจุบันถือว่าสภาพทีมไม่ต่างกันมากนัก 

ศักยภาพตัวต่างชาติของ บุรีรัมย์ ดูจะเหลื่อมล้ำกว่า เมืองทอง อยู่พอควร ซึ่งไม่ใช่แค่กิเลนผยองหรอก หากแต่แข้งนอกเซราะกราวนั้นเหนือกว่าทุกสโมสรใน ไทยลีก แบบชัดเจน

นีล เอเธอร์ริดจ์ เคยเฝ้าเสาใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาแล้ว, เคอร์ติส กู๊ด - เคนเนธ ดูกัลล์ คือทีมชาติออสเตรเลีย, กีเญร์เม่ บิสโซลี่ กับ ลูคัว คริสปิม เป็นนักเตะลีกบราซิล ระดับ ซีรี่ส์ เอ ส่วนสองอาเซียน อย่าง ดิออน คูลส์ และ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส นั้นเกรดยุโรป ชัดๆ

ทว่าในความต่างนี้คงใช้ไม่ได้กับศึกแห่งศักดิ์ศรีของเกมในวันอาทิตย์ เนื่องจากกิเลนผยองเองก็มีทีเด็ดไว้จัดการกับเจ้าถิ่น อีกทั้งการที่มาเยือนด้วยความเป็นรอง มันจึงทำให้พวกเขาไม่ต้องแบกรับความกดดันเท่ากับ บุรีรัมย์

ไม่ว่าผลการแข่งขันจะจบลงเช่นไร นี่คือเกมแห่งฤดูกาลอย่างแท้จริง

ทุกครั้ง ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าเมื่อไหร่หรือที่ไหน บุรีรัมย์ กับ เมืองทอง ก็จะเป็นเกมที่ตื่นเต้นเร้าใจตลอดทั้ง 90 นาที ในสนาม 

ใครที่เสียสตางค์ซื้อตั๋วเข้าไปรับชมเกมชิดแบบติดขอบจะได้สัมผัสบรรยากาศการห้ำหั่นกันอย่างเต็มเหนี่ยวของแฟนฟุตบอลของทั้งสองทีม เพราะพวกเขาต่างก็เป็นสโมสรที่มีกองเชียร์มากที่สุดในสยามประเทศ

ส่วนในสนามก็เป็นเรื่องของแท็กติกและสมาธิที่ต้องชิงไหว-ชิงพริบกันไปจนสิ้นสุดเสียงนกหวีดสุดท้าย

20 ธันวาคม 2024 เวลาดี หนึ่งทุ่มตรง 

ห้ามลืมว่ามี ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ บุรีรัมย์ กับ เมืองทอง ที่จะลงฟัดกันในวันอาทิตย์นี้

ชิกกะด้าว