เมืองทอง พบ บีจี! เทียบตำแหน่งต่อตำแหน่งก่อนดวลเดือด

เมืองทอง พบ บีจี! เทียบตำแหน่งต่อตำแหน่งก่อนดวลเดือด
บิ๊กแมตช์ ไทยลีก 2024-25 สัปดาห์ที่ 10 ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม เวลา 20:00 น. ซึ่งเกมนี้มีความน่าสนใจมากมายหลายสิ่งอย่าง 'SIAMSPORT' จึงอาสาวิเคราะห์แบบตำแหน่งต่อตำแหน่งให้คุณได้อ่านกัน!!

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2024 เวลา 20:00 น. ถ่ายทอดสดทาง True Visions Now (True Ball Thai 3)

[ 1 ] ผู้รักษาประตู

เมืองทอง ยูไนเต็ด 

กิเลนผยองหมดสิทธิ์ใช้งาน กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก เนื่องจากติดสัญญายืมตัวจาก บีจี ปทุม ทำให้ โสภณวิชญ์ รักญาติ มือหนึ่งทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะได้โอกาสลงเฝ้าเสาแทน โดยมี พีระพงษ์ เรือนนินทร์ กับ คณพศ กาดี เป็นตัวสแตนด์บาย

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

ตัวเลือกแรกของกระต่ายแก้วยังเป็น สรานนท์ อนุอินทร์ คนเดิม และหมอนี่ก็มีฟอร์มที่สม่ำเสมอและไว้ใจได้อยู่แล้ว ดังนั้นจอมหนึบมือสองทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะเป็นปราการด่านสุดท้ายของ เดอะ แรบบิต แน่นอน

วิเคราะห์: แม้ว่า โสภณวิชญ์ จะมีดีกรีมือหนึ่งช้างศึกยู-23 แต่การที่ไม่ได้เฝ้าอย่างสม่ำเสมอย่อมส่งผลถึงความมั่นใจ รวมไปถึงการกะจังหวะ ยิ่งต้องมาเล่นใน ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ ยิ่งมีความกดดันสูง ดังนั้นนี่จะเป็นจุดที่ บีจี ปทุม รู้ดีว่าจะใช้ประโยชน์จากมันเช่นไรให้ได้มากที่สุด

[ 2 ] ฟูลแบ็ก

เมืองทอง ยูไนเต็ด

ฝั่งขวา เมืองทอง ใช้ ทริสต็อง โด หนึ่งในแบ็กชั้นนำของประเทศยืนยาวๆ โดยกองหลังเชื้อสายฝรั่งเศส มีจุดเด่นที่พละกำลังและเกมรับที่ไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ผ่านง่ายๆ ขณะที่ฟากซ้ายมีหลายตัวเลือก ไม่ว่าจะเป็น สถาพร แดงสี, จอห์น-พาทริก สเตร้าส์, ชยพล ทรัพย์มา และที่น่าสนใจคือ สก็อตต์ วู้ดส์ นักเตะทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่ผลงานโดดเด่นในระยะหลัง

บีจี ปทุม 

ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ เดอะ บลู แมชีน เล่นระบบกองหลัง 3 คน ทำให้ฟูลแบ็กของพวกเขาทำงานค่อนข้างหนัก แต่ทั้งสองฝั่งก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

ด้านขวา วาริส ชูทอง เบียดแย่ง สันติภาพ จันทร์หง่อม ลงเป็นตัวจริงได้บ่อยครั้ง ซึ่งก็ทำผลงานได้โดดเด่นเกินวัย ส่วนทางซ้าย สัญชัย นนทศิลา คือตัวเลือกแรก โดยมีสองดาวโรจน์อย่าง ธวัชชัย อินทร์ประโคน กับ วรินทร จำนงค์วัตร์ ที่พร้อมสอดแทรก

วิเคราะห์: ฟูลแบ็กคือตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนของ บีจี ปทุม เพราะมักจะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ขณะที่ฝั่ง เมืองทอง ค่อนข้างลงตัว โดยเฉพาะทางขวา ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่กิเลนผยองน่าจะใช้เจาะเกมรับทีมเยือน

[ 3 ] เซนเตอร์ฮาล์ฟ

เมืองทอง ยูไนเต็ด

นับตั้งแต่ จิโน่ เล็ตติเอรี่ เข้ามารับตำแหน่งเฮดโค้ชกิเลนผยอง ดูเหมือนว่าเกมรับของทีมจะดูแข็งแกร่งขึ้นชัดเจน สถิติเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก คือเครื่องชี้วัดมาตรฐานชั้นดี โดยเฉพาะเมื่อมี อาลี ซิสโซโก้ ยืนคู่ อับบอส โอตาโคนอฟ ซึ่งมี ทรงวุฒิ ใคร่ควรญ ปราการหลังอนาคตไกลคอยสลับสับเปลี่ยน

ทั้งนี้ จักพัน ไพรสุวรรณ เป็นอีกหนึ่งรายที่ไม่สามารถลงเล่นได้ เนื่องจากติดสัญญา ยืมตัวจาก บีจี ปทุม 

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

กระต่ายแก้วลงสนามไป 8 เกม แต่โดนถลุงไปถึง 10 ประตู ซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความเปราะบางในแผงหลัง ทั้งๆ ที่ใช้ระบบ 3-5-2 ซึ่งใช้ ชินภัทร ลีเอาะ กับ คริสติญง โกมิส เป็นแกนหลัก โดยมี ชนภัช บัวพันธ์ และ มาร์โก บัลลินี่ ผลัดกันลงสนาม แต่ก็ยังไม่วายเสียง่ายเกินไปอยู่ดี

ทว่าการเปลี่ยนแปลงเฮดโค้ชมาเป็น สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ รักษาการ น่าจะมีการปรับสู่ระบบ 4-3-3 ซึ่งบางทีอาจจะทำให้รูปแบบการเล่นมีความสมดุลยิ่งกว่าเดิม

วิเคราะห์: ณ ผลงานปัจจุบัน เมืองทอง ดูดีกว่า แต่พอเปลี่ยนโค้ช อาจจะเข้าทาง บีจี ปทุม มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ว่าแนวรุกของฝั่งใดจะเด็ดขาดกว่าเช่นกัน

[ 4 ] กองกลาง

เมืองทอง ยูไนเต็ด 

เวลานี้ พิชา อุทรา คือแกนกลางของแผงมิดฟิลด์ โดยระยะหลัง จอห์น-พาทริก สตร้าสส์ มักจะได้โอกาสก่อน สรวิทย์ พานทอง และคนอื่นๆ ส่วนตัวรุก จิโน่ เล็ตติเอรี่ เชื่อในตัว คคนะ คำยก สุดยอดดาวรุ่งพุ่งแรงจนส่งลงเล่นทุกเกมในซีซั่น 2024-24

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

หากดูรายชื่อ สื่อทุกสำนักต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เดอะ แรบบิต มีขุมกำลังในแดนกลางที่น่าอิจฉาที่สุดในลีก เพราะตัวรับก็มี กฤษดา กาแมน กับ อิรฟาน ดอเลาะ ขณะที่มิดฟิลด์ที่คอยขับเคลื่นเกมนั้นก็หลายคนเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น กาคุโตะ โนสึดะ, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ และ ศิวกรณ์ เตียตระกูล

ขณะเดียวกัน เพลย์เมเกอร์ บีจี ปทุม เลือกได้ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ หรือ อิลฉาน ฟานดี้ 

วิเคราะห์: หากมองเรื่องชื่อชั้น บีจี ปทุม เหนือกว่าแน่ แต่ฟอร์มในสนามยังไม่ค่อยเปล่งประกายเท่าใดนัก ส่วนฝั่ง เมืองทอง ดูจะสมดุลกว่า ทว่าถ้ากระต่ายแก้วจูนกันติดเมื่อไหร่ พวกเขาก็พร้อมขย้ำได้ทุกทีม

[ 5 ] ปีก

เมืองทอง ยูไนเต็ด

2-3 ฤดูกาลหลังสุด เมืองทอง มีจุดเด่นที่เกมรุกด้านข้าง โดยเฉพาะ วิลเลียน พ็อพพ์ ที่สอดเข้าไปทำประตูอยู่บ่อยครั้ง รวมถึง เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่ย้ายมาเฉิดฉายในช่วงสั้นๆ กระทั่งหวนกลับ บีจี สเตเดี้ยม อีกหนในซีซั่นปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ด้านข้างของกิเลนผยองยังไม่มีนักเตะคนใดจับจองพื้นที่ได้ถาวร เพราะมักจะสลับระหว่าง เดนิส บุสน์ญ่า (ไม่ได้ลงแน่นอนในเกมกับ บีจี ปทุม), ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, กรวิชญ์ ทะสา และ เอมิล โรบัค

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ก่อนหน้านี้ มาโกโตะ เทกูระโมริ กุนซือคนเก่านิยมใช้ฟูลแบ็กเติมเกมริมเส้น ซึ่งผลที่ออกมายังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจเท่าใดนัก เมื่อเทียบกับตัวผู้เล่นที่มีอยู่ ดังนั้นพอเปลี่ยนมาเป็น สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่นิยม 4-3-3 น่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจได้มากกว่า โดยเฉพาะ เจริญศักดิ์ ที่จะได้คัมแบ็กสู่ตำแหน่งถนัดสักที

นอกจากปีกทีมชาติไทย - ทางกระต่ายแก้วก็ยังมีตัวเลือกที่จี๊ดจ๊าดอย่าง อิลฮาน ฟานดี้ หรือ รานีล ที่ขยับมายืนได้ รวมไปถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์, เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ และ เมลวิน โลเรนโซ่ 

วิเคราะห์: หาก บีจี ปทุม กลับมาเล่น 4-3-3 พวกเขาจะอันตรายเพิ่มขึ้นทวีคูณ เพราะมี เจริญศักดิ์ คอยคุกคามคู่ต่อสู้ ขณะที่ เมืองทอง ยังต้องความหาผู้เล่นที่เหมาะสมตรงตำแหน่งนี้ต่อไป

[ 6 ] กองหน้า

เมืองทอง ยูไนเต็ด

ปัจจุบัน ปรเมศย์ อาจวิไล ก้าวข้ามจากนักเตะดาวรุ่งสู่การเป็นตัวความหวังให้กับ เมืองทอง และทีมชาติไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยอาการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ยังสะสมสกอร์ในซีซั่น 2024-25 น้อยไปหน่อย แต่เมื่อใดที่เขาอยู่ในสนาม รับประกันเลยว่ากิเลนผยองมีโอกาสเฮสูงขึ้นไปด้วย

นอกจากหัวหอกวัย 26 ปี พวกเขายังมี เฟลิซิโอ บราวน์ ที่ดาวยิงคอสตาริกา ที่สามารถทดแทนได้ แม้จะถูกค่อนขอดอยู่พอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจประมาทแนวรุกเชื้อสายเยอรมัน ได้เช่นกัน

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ศูนย์หน้าตัวเป้า เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่หลายๆ สโมสรได้แต่อิจฉากระต่ายแก้ว เพราะพวกเขามีเพชฌฆาตให้เลือกใช้มากมาย นำโดย ธีรศิลป์ แดงดา, อิ๊กห์ซาน-อิลฮาน ฟานดี้, รานีล, เมลวิน โลเรนโซ่, ชนานันท์ ป้อมบุปผา, ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม และรวมไปถึงสองแข้งที่พักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่อย่าง ลาร์ส เวลด์ไวจ์ค กับ อิกอร์ เซอร์เกเยฟ (2 คนหลังสุด ไม่ได้ลงทะเบียน ไทยลีก)

หากทุกคนฟิตสมบูรณ์ ธีรศิลป์ คือตัวเลือกอันดับ 1 แน่นอน แม้จะอายุ 36 แต่ปฏิพานและไหวพริบของเขายังสามารถสร้างความแตกต่างได้ทุกวินาที 

วิเคราะห์: นี่คือตำแหน่งที่น่าสนใจไม่เบา เพราะมันมีความหมายนัยยะถึง 'ปัจจุบัน' และ 'อดีต' ของ เมืองทอง และทีมชาติ เนื่องจากเป็นการดวลระหว่าง ปรเมศย์ กับ ธีรศิลป์ ซึ่งเหมือนความสดปะทะความเก๋า ซึ่งใครคมกว่า คนนั้นจะเป็นผู้ชี้ชะตาของเกม

[ 7 ] เฮดโค้ช

เมืองทอง ยูไนเต็ด

จิโน่ เล็ตติเอรี่ เพิ่งย้ายมาคุมทีมในเมืองไทย เป็นครั้งแรก พร้อมกับรูปแบบและแนวทางชัดเจน จนทำให้แฟนๆ ได้ชื่นใจ แม้ผลการแข่งขันจะยังไม่เป็นดั่งหวัง แต่ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ถือว่ามีอนาคตสดใสรออยู่อีกไม่ไกล

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเผชิญหน้า บีจี ปทุม - เมืองทอง จะไม่เจอทีมใหญ่ของสยามประเทศ ดังนั้นนี่จึงเป็นเกมที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าฝีมือของกุนซือชาวอิตาลี นั้นเก่งกาจเพียงใด

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อาจจะร้างราตำแหน่งเฮดโค้ชมาร่วมๆ 2 ปี แต่อย่าลืมว่าเขายังอยู่ เดอะ แรบบิต มาตัเงแต่ปี 2017 ซึ่งนั่นทำให้รู้จักทุกซอกหลืบของสโมสร อีกทั้งด้วยบารมีสมัยเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับทีมชาติไทย มากๆ มันจึงทำให้อดีตกองกลางช้างศึกไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย แม้จะมาสานงานต่อจาก มาโกโตะ เทกูระโมริ เผลอๆ อาจจะทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำไป เพราะมีความยืดหยุ่น รวมทั้งเข้าใจผู้เล่นมากกว่าเทรเนอร์ชาวญี่ปุ่น เสียอีก

วิเคราะห์: ถ้ามองในแง่แท็กติก เล็ตติเอรี่ อาจจะดูดีกว่า ทว่า สุรชัย รู้จักฟุตบอลไทย มาทั้งชีวิต ดังนั้นจึงมีข้อดี-ข้อด้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ฝั่งใดจะวางหมากได้แยบยลกว่า และเมื่อลูกทีมนำไปใช้ในสนามจะทำได้ตามแผนการที่ตระเตรียม


ที่มาของภาพ : เมืองทอง ยูไนเต็ด / บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport