2 เต็งจ๋าดาวซัลโวไทยลีก ซีซั่น 2024-2025

2 เต็งจ๋าดาวซัลโวไทยลีก ซีซั่น 2024-2025
2 ฤดูกาลหลัง ของไทยลีก 1 นั้นต้องยกย่องความเก่งกาจของหัวหอกไทย นามว่า "อาร์ม" ศุภชัย ใจเด็ด ที่ กู้อิสระภาพ มาให้แข้งไทยได้ ด้วยการคว้า ท็อปสกอร์ มาครองได้ 2 ซีซั่นติดต่อกัน ไทยลีกครั้งที่ 26 ซีซั่น 2022-2023 ทำได้ 19 ประตู ต่อด้วยไทยลีกครั้งที่ 27 ซีซั่น 2023-2024 ทำไป 21 ประตู

 หลังก่อนหน้านี้ รายสุดท้ายที่ทำได้คือ "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา สมัยอยู่กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด แข้งบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน แต่เป็นการครองร่วมกับ เคลตัน ซิลวา ของ บีอีซี เทโรฯ ที่ทำเท่ากันที่คนละ 24 ประตู  จากนั้นหอกไทยตกอยู่ใต้เงาของ แข้งนอกตลอด 9 ซีซั่น 

ไทยลีกครั้งที่ 17 คาเมลโล่ กอนซาเลซ / บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด   23 ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 18 เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ/ ราชบุรี  เอฟซี    26 ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 19 ดิเอโก้ หลุย ซานโต / บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด   33ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 20 คลีตัน ซิลวา / เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด   27 ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 21 ดราแกน บอสโควิช / ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด    38 ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 22 ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต / บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด   34 ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 23 ลอนซาน่า ดุมบูย่า / ตราด  เอฟซี    20 ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 24 บาร์รอส ทาร์เดลี่ / สมุทรปราการ ซิตี้   25  ประตู

ไทยลีกครั้งที่ 25 แฮมิลตัน ซัวเรซ / หนองบัว พิชญ เอฟซี    19 ประตู

  สำหรับฤดูกาล 2024-2025 นี้ ล่าสุด ผ่านไป 4 เกม "ต้น" ธีระศักดิ์ เผยพิมาย นักเตะการท่าเรือ  เอฟซี ที่เพิ่งได้สัญญาใหม่ ยาว 5 ปีซัดไป 5 ประตู จาก การลงสนาม 4 นัดที่ทำให้ การท่าเรือ เอฟซี  เปลี่ยนจากการได้แค่เสมอเป็น ชนะ มาแล้ว 

  ส่วน อีกรายที่ทำได้เท่ากันที่ซีซั่นนี้ดูทรงแล้วมีลุ้นยาวๆ หลังซีซั่นก่อนมาเลกสองเลยซัดไปไม่เยอะ นั่นคือ บิสโซลี่ หอก บราซิลเลี่ยน ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยิงไปแล้ว 5 ประตู เช่นกัน  ถามว่าใครมีภาษีดีกว่า คงเป็น บิสโซลี่ เพราะเป็นตัวหลัก ส่วน "ต้น" ส่วนใหญ่ ลงสำรอง  เกมรุกของทั้ง ท่าเรือ เอฟซี  และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ดุดันเหมือนๆกัน ท่าเรือ  เอฟซี ยิง ไปแล้ว 14 ,บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  กดไปแล้ว 16 ประตู 

  ต้องวัดกันในเกมที่เหลือว่าใครจะเข้าป้าย แต่ยังมี ศุภชัย ใจเด็ด เป็นตัวสอดแทรก อีกราย แต่ต้องยกให้ บิสโซลี่ เป็นเต็งจ๋า สุดท้ายใครจะเข้าวิน รอลุ้นกัน 

"สิงห์นก Hk vp 9 "


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X