ไทยลีก และโควตาอาเซียน

   ไทยลีก 2024-25 ถือเป็นซีซั่นที่มีนักเตะอาเซียน เข้ามาค้าแข้งมากที่สุด เพราะนับตั้งแต่เปิดโควตาให้ผู้เล่นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้โลดแล่นในสยามประเทศ ฤดูกาลปัจจุบันมีถึง 23 ราย จาก 16 สโมสร ที่โชว์ฟอร์มต่อหน้าแฟนฟุตบอลในทุกๆ สัปดาห์ ดังนั้น 'SIAMSPORT' จึงอยากพาคุณไปรู้จักกับพวกเขาให้มากกว่าเดิม!!

*** แบงค็อก ยูไนเต็ด, ขอนแก่น ยูไนเต็ด, นครปฐม ยูไนเต็ด, นครราชสีมา เอฟซี, หนองบัว พิชญ เอฟซี, ประจวบ เอฟซี และ สุโขทัย เอฟซี ไม่ใช้โควตาอาเซียน *** 

[ 1 ] บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (2 คน)

    ซ๊ซั่น 2023-24 บีจี ปทุม ใช้บริการโควตาอาเซียน เป็นสิงคโปร์ ทั้งก๊วน นำโดย 2 ดูโอ้ตระกูล ฟานดี้ และมี ไรฮาน สจ๊วร์ต อีกหนึ่งราย ทว่าฤดูกาลปัจจุบันเหลือเพียง อิ๊กห์ซาน ที่ยังอยู่ พร้อมกับไปดึงน้องคนที่สามอย่าง อิลฮาน มาเติมแทน

อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ (สิงคโปร์)

   หนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในยุคปัจจุบัน ย้ายจากลีกนอร์เวย์ มาเล่นให้ บีจี ปทุม ตั้งแต่ปี 2022 และก็ทำผลงานได้น่าพอใจ แต่ติดตรงที่มักจะได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง จนทำให้พัฒนาการสะดุดไปบ้าง ทว่าถึงอย่านั้นหมอนี้ก็อันตรายทุกจังหวะจริงๆ

อิลฮาน ฟานดี้ (สิงคโปร์)

   น้องชายแท้ๆ ของ อ๊กห์ซาน และกว่าที่ เดอะ แรบบิต จะได้ตัวมาที่ บีจี สเตเดี้ยม ในฤดูกาล 2024-25 ก็สุดแสนจะยื้อยุดฉุดกระชากอยู่แสนนาน ซึ่งด้วยพรสวรรค์อันเอกอุ อิลฮาน จึงถูกจับตามองว่าจะมาสร้างชื่อเสียงในเมืองไทย ได้ต่อจากบรรดาพี่ๆ ของเขานั่นเอง

[ 2 ] บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (3 คน)

   โควตาอาเซียน ของ บุรีรัมย์ มักจะเป็นแข้งลูกครึ่ง ซึ่งซีซั่นที่ผ่านมา ดิออน คูลส์ กับ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส ก็ทำหน้าที่ได้โดดเด่นจนได้ไปต่อ แถมฤดูกาล 2024-25 ยังน่ากลัวกว่าเดิมเมื่อมี นีล เอเธอริดจ์ จอมหนึบดีกรี พรีเมียร์ลีก เข้ามาอีกราย

ดิออน คูลส์ (มาเลเซีย)

   นักเตะเชื้อสายเบลเยียม คนนี้คือจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ บุรีรัมย์ แซงหน้า แบงค็อก ไปคว้าแชมป์ ไทยลีก 2023-24 ได้สำเร็จ กับความสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้หลากตำแหน่ง อีกทั้งคลาสบอลยังเหนือชั้น เพราะไม่ว่าจะถูกจับยืนตรงไหน ก็สามารถยกระดับเพื่อนร่วมทีมไปด้วยนั่นเอง

เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส (ฟิลิปปินส์)

   คุณพ่อของเขาเป็นชาวกานา ส่วนมารดาคือฟิลิปปินส์ ทว่าไปเกิดและเติบโตที่ญี่ปุ่น จนเริ่มต้นฟุตบอลที่นั่น แต่สุดท้ายเลือกเล่นทีมชาติของฝั่งแม่ และย้ายมาเมืองไทย เมื่อต้นปี 2024 โดยยืนได้ทั้งแบ็กซ้ายกับเซนเตอร์ฮาล์ฟ

นีล เอเธอริดจ์ (ฟิลิปปินส์)

   ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในอาเซียน เกิดและโตที่อังกฤษ ทั้งยังเล่นอาชีพบนดินแดนผู้ดีเกินกว่า 20 ปี กระทั่งลัดฟ้าสู่ บุรีรัมย์ ในช่วงตลาดซื้อ-ขายก่อนเปิดซีซั่น 2024-25 โดยจะมาแทน ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่กำลังจะแขวนถุงมือในไม่ช้านี้   

[ 3 ] เชียงราย ยูไนเต็ด (2 คน)

   กว่างโซ้งมหาภัยเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่นิยมใช้บริการแข้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยซีซั่น 2024-25 ก็ยังมีนักเตะอาเซียน เช่นเดิม พร้อมกับได้ วิน เนียง ตุน ปีกตัวจี๊ดทีมชาติเมียนมาร์ เข้ามาเสริมแกร่ง

วิน เนียง ตุน (เมียนมาร์)

   แนวรุกคนสำคัญของทีมชาติเมียนมาร์ อายุเพียง 24 ปี แต่เล่นให้ทัพสิงโตแห่งอาเซียน ไปถึง 33 เกม โดยซีซั่น 2023-24 โลดแล่นในลีกอินโดนีเซีย พร้อมกับพา โบเมโ ซามารินดา จบอันดับ 3 ก่อนจะย้ายมา เชียงราย ในปัจจุบัน

ฮารีส สจ๊วร์ต (สิงคโปร์)

   น้องชายแท้ๆ ของ ไรฮัน สจ๊วร์ต อดีตแบ็กขวา บีจี ปทุม ซึ่งสัญญาของ ฮารีส ก็อยู่กับทีมกระต่ายแก้ว และก็ถูกยืมตัวมาที่ เชียงราย ต่อเนื่องเป็นซีซั่นที่สองติดต่อกัน โดยหมอนี่เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมรับ แต่จะถนัดที่สุดคือกองกลาง

[ 4 ] ลำพูน วอร์ริเออร์ส (3 คน)

   โควตาอาเซียนของทัพราชันโคขาวยังเหมือนเดิมจากฤดูกาล 2023-24 นำโดย หม่อง หม่อง ลวิน, กิเก้ ลินาเรส และ ออสคารี่ เค็คโคเน่น ที่อยู่โยงกับทีม

หม่อง หม่อง ลวิน (เมียนมาร์)

   กัปตันทีมชาติเมียนมาร์ คนปัจจุบัน อยู่กับ ลำพูน มาตั้งแต่ทีมโลดแล่นใน ไทยลีก 2 (2021-22) และก็เป็นฟันเฟืองสำคัญในเกมรุก โดยเฉพาะการทะลุทะลวงริมเส้นที่มักจะสร้างปัญหาให้คู่ต่อสู้ได้เสมอ

กิเก้ ลินาเรส (ฟิลิปปินส์)

   ลินาเรส ได้สัญชาติฟิลิปปินส์ จากสายคุณแม่ (ยาย) โดยเจ้าตัวเกิดและเติบใหญ่ที่กาดิซ ประเทศสเปน ซึ่งแน่นอนว่าเขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งบนแดนกระทิงดุ แต่อยู่ลีกล่างๆ กระทั่งลัดฟ้าสู่เมืองไทย โดยมา ลำพูน ในซีซั่น 2022-23 

ออสคารี่ เค็คโคเน่น 

   มิดฟิลด์เชื้อสายฟินแลนด์ (คุณพ่อ)-ฟิลิปปินส์ (คุณแม่) ทั้งยังเคยติดทีมเยาวชนฟินแลนด์ มาแล้ว แต่สุดท้ายเลือกเล่นให้ชุดใหญ่ตามบ้านเกิดของมารดา และก็ถูกเรียกตัวเข้าสู่ทัพ ดิ อัซกาลส์ อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปี 2021

[ 5 ] เมืองทอง ยูไนเต็ด (4 คน)

   กิเลนผยองคือสโมสรที่ทำการตลาดได้เก่งกาจที่สุดของสยามประเทศ ในแต่ละปีที่พวกเขาดึงผู้เล่นอาเซียน เข้ามามักจะมีประเด็นให้ตามติดกันต่อเนื่อง โดยซีซั่น 2024-25 เมืองทอง นำเข้าแข้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวดเดียว 4 ราย และก็สร้างกระแสในละแวกนี้ได้มากทีเดียว

สก็อตต์ วู้ดส์ (ฟิลิปปินส์)

   แนวรับลูกครึ่งนอร์เวย์-ฟิลิปปินส์ ค้าแข้งในยุโรป เป็นส่วนใหญ่ เพราะเคยโฉบมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2022 เพียงระยะสั้นๆ ก่อนจะกลับบ้านเกิดไป และการเซ็นสัญญากับ เมืองทอง ถือเป็นความท้าทายใหม่ที่เจ้าตัวเฝ้ารอจะเฉิดฉายในเมืองไทย

จอห์น-พาทริก สเตร้าส์ (ฟิลิปปินส์)

   นักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ เป็นลูกครึ่งเยอรมัน (คุณพ่อ) ทั้งยังเติบโตมาจากสถาบันเยาวชนของ แอร์เบ ไลป์ซิก สโมสรดังของ บุนเดสลีกา โดยการย้ายมา เมืองทอง นั้นทุกคนต่างเซอร์ไพรส์มาก เพราะหมอนี่จัดเป็นนักเตะระดับแนวหน้าของทีมชาติฟิลิปปินส์ ชุดปัจจุบัน

ยาค็อบ มาห์เลอร์ (สิงคโปร์)

   กองกลางตัวรับเชื้อสายเดนมาร์ก (คุณพ่อ) แต่ครอบครัวย้ายไปอยู่อินโดนีเซีย ตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ ก่อนจะโยกสู่สิงคโปร์ ตอนที่ มาห์เลอร์ เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น กระทั่งหมอนี่ก้าวไปติดทีมชาติแทบทุกชุด ซึ่งปัจจุบันเขาก็เป็นกำลังสำคัญที่ทัพเมอร์ไลอ้อนส์จะขาดเสียมิได้เลยทีเดียว

โรนัลโด้ ควาเต้ห์ (อินโดนีเซีย)

   เจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่เล่นให้ทีมชาติอินโดนีเซีย (17 ปี กับ 104 วัน) มีเชื้อสายไลบีเรีย (คุณพ่อ) ย้ายมาจาก โบดรุม ทีมในลีกรองของตุรกี โดยมาเป็นโควตาเอเชีย ของ เมืองทอง ในฤดูกาล 2024-25 

[ 6 ] การท่าเรือ เอฟซี (2 คน)

   การท่าเรือ อาจจะไม่ค่อยมีโควตาอาเซียน มากนัก ทว่าแต่ละครั้งที่พวกเขาดึงนักเตะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขามา มักจะสร้างอิมแพคได้เสมอ ซึ่งในซีซั่น 2024-25 ก็มีสองสตาร์ทีมชาติอย่าง อัสนาวี่ มังกูอาลาม (อินโดนีเซีย) และ อีร์ฟาน ฟานดี้ (สิงคโปร์) 

อัสนาวี่ มังกูอาลาม (อินโดนีเซีย)

   กัปตันทีมชาติอินโดนีเซีย คนปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พละกำลังล้นเหลือ แถมยังดุดันทั้งรุก-รับ แต่การที่สิงห์เจ้าท่ามี ศุภนันท์ บุรีรัตน์ อยู่ในทีม ทำให้การแย่งชิงตำแหน่งต้องขับเคี่ยวกันอย่างสนุกในทุกๆ สัปดาห์

อีร์ฟาน ฟานดี้ (สิงคโปร์)

   ประสบความสำเร็จมากๆ ตลอด 5 ซีซั่นกับ บีจี ปทุม ก่อนจะหมดสัญญาและย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ การท่าเรือ ซึ่งถ้า อีร์ฟาน ร่างกายสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ รับประกันได้เลยว่าเขาจะสร้างประโยชน์ให้กับสิงห์เจ้าท่าได้อย่างมหาศาล

[ 7 ] ราชบุรี เอฟซี (2 คน)

   ราชันมังกรเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่นิยมใช้โควตาอาเซียน โดยปีที่ผ่านมามี ฟาอิก โบลเกียห์ (บรูไน), เจสเซ่ คูร์แรน (ฟิลิปปินส์) กับ ไฮน์ พโย วิน (เมียนมาร์) แต่รายสุดท้ายถูกปล่อยกลับบ้านเกิด หลังจากอยู่กับ ราชบุรี ได้ 2 ซีซั่น ส่วนสองคนแรกนั้นได้ไปต่อในฤดูกาลปัจจุบัน

ฟาอิค โบลเกียห์ (บรูไน)

   เชื้อพระวงศ์แห่งบรูไน ย้ายมาค้าแข้งในเมืองไทย ตั้งแต่ปี 2021 ก่อนจะลงเอยที่ ราชบุรี เมื่อซีซั่น 2023-24 และก็มีผลงานที่น่าพอใจกับความวูบวาบทางริมเส้น พร้อมด้วยจังหวะสอดไปทำประตูที่สามารถลงโทษคู่แข่งได้ทุกวินาที

เจสเซ่ คูร์แรน (ฟิลิปปินส์)

   แข้งสารพัดประโยชน์เชื้อสายสกอตแลนด์ (คุณพ่อ) แต่ไปเติบโตที่ออสเตรเลีย ก่อนจะเริ่มต้นอาชีพที่แดนจิงโจ้ แล้วลัดฟ้าสู่สยามประเทศโดยมี เมืองทอง เป็นสโมสรแรก กระทั่งมาปักหลักกับ ราชบุรี เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

[ 8 ] ระยอง เอฟซี (2 คน)

    น้องใหม่ซีซั่น 2024-25 เลื่อนชั้นขึ้นมาโดยใช้ ลวิน โม อ่อง (เมียนมาร์) เป็นโควตาอาเซียน เพียงรายเดียวตอนอยู่ ไทยลีก 2 แต่พอมาเวทีสูงสุด พวกเขาดึง อามานี่ อกิลนัลโด้ (ฟิลิปปินส์) กองหลังผู้เจนประสบการณ์เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่ง โดยมีเป้าหมายคือการอยู่รอดให้ได้

ลวิน โม อ่อง (เมียนมาร์)

   นี่คือแนวรุกคนสำคัญที่ทัพม้านิลมังกรจะขาดไม่ได้ วัดจากสถิติซีซั่น 2023-24 ที่ยิงไป 9 ประตู กับทำ 7 แอสซิสต์ ก็บ่งบอกถึงคุณภาพของสตาร์ทีมชาติเมียนมาร์ เป็นอย่างดี

อามานี่ อกิลนัลโด้ (ฟิลิปปินส์)

    เขาคือผู้เล่นที่เป็นชาวฟิลิปปินส์ แท้ๆ และก็ค้าแข้งใน ไทยลีก มาตั้งแต่ปี 2020 แม้จะมีสถิติไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เพราะต้นสังกัดของหมอนี่มักจะตกชั้นถึง 3 ครั้ง (ตราด 2020-21, นครราชสีมา 2022-23 และ ตราด (หนที่สอง) 2023-24) แต่ผลงานโดยรวมของ อกินัลโด้ นั้นยอดเยี่ยมมากๆ กับความทุ่มเทเกินร้อยเมื่ออยู่ในสนาม

[ 9 ] อุทัยธานี เอฟซี (3 คน)

   ฤดูกาล 2023-24 อุทัยธานี มีสองผู้เล่นทีมชาติเมียนมาร์ อย่าง อ่อง ตู และ อ่อง ควง มานน์ แต่รายหลังย้ายออกไป ทำให้ซีซั่นปัจจุบันพวกเขาเพิ่มโควตาอาเซียน เต็มสล็อตด้วยการนำ โจชัว กร็อมเมน และ จัสติน บาสส์ เข้ามา

อ่อง ตู (เมียนมาร์)

   เขาคือนักเตะคนเดียวที่ยืนหยัดใน ไทยลีก ได้ตั้งแต่มีการใช้โควตาอาเซียน เมื่อปี 2018 ซึ่งนั่นการันตีคุณภาพความเก่งกาจของ อ่อง ตู ได้เป็นอย่างดี เพราะหมอนี่มีความเฉลียวฉลาด อีกทั้งยังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้เสมอยามเมื่อบอลอยู่ในครอบครอง

โจชัว กร็อมเมน (ฟิลิปปินส์)

    กร็อมเมน เป็นคนเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ส (คุณพ่อ) แต่ไปเติบโตที่ออสเตรเลีย ทำให้ห้วงชีวิตเริ่มแรกนั้นตั้งต้นกับลีกแดนจิงโจ้ ก่อนจะย้ายสู่เมืองไทย เมื่อปี 2021 และก็เล่นมาหลายสโมสร ไม่ว่าจะเป็น สุโขทัย, ขอนแก่น กระทั่งย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ของ อุทัยธานี ในฤดูกาลปัจจุบัน

จัสติน บาสส์ (ฟิลิปปินส์)

   กองกลางวัย 24 ปี อีกหนึ่งแข้งฟิลิปปินส์ ที่มีเชื้อสายเนเธอร์แลนด์ส (คุณพ่อ) และก็ไปฝึกปรือศาสตร์ลูกหนังที่แผ่นดินเกิดของบิดา โดยเก่งกาจถึงการอยู่ในทีม อาแซด อัลค์มาร์ ก่อนจะย้ายมา ราชบุรี ในห้วงเวลาสั้นๆ กระทั่งหวนสู่สยามประเทศอีกครั้งในซีซั่นนี้นี่เอง

__________

BG Pathum United,BURIRAM UNITED