ส.บอลไทย แถลงแจงชัดขอชะลอจ่ายเงินสโมสรสมาชิกไทยลีกไว้ก่อน หลังบัญชีสมาคมฯถูกอายัดทางการเงินเพื่อไปใช้หนี้ให้ อีสาน ยูฯ 31 ล้านเศษตามคำสั่งศาล ยอมรับอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่หวังแก้ไขให้ดีที่สุดเพื่อให้ฟุตบอลไทยทั้งระบบเดินหน้าต่อไปได้
สืบเนื่องจากศาลปกครองอุบลราชธานี พิพากษาให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คืนสิทธิจากทีมฟุตบอลศรีสะเกษ เอฟซี ให้ อีสาน ยูไนเต็ด และชดใช้ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ยทั้งหมดให้ อีสาน ยูไนเต็ด 32 ล้านบาท ทำให้ ส.ลูกหนังไทย ถูกอายัดบัญชีทางการเงินทั้งหมดเรียบร้อย
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. 65 ส.บอลไทย ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้ โดยประเด็นสำคัญคือ การขอชะลอจ่ายเงินสนับสนุนสโมสรสมาชิกไทยลีก ทุกระดับ เพื่อขอนำเงินไปใช้หนี้ตามกระบวนการทางกฎหมายให้หมดเสียก่อนทั้งหมด 31 ล้านบาทเศษ หลังจากสมาคมฯ ได้พยายามเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามคำพิพากษากับ กรรมการบริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด แล้ว แต่ไม่เป็นผล
ต่อมา เงินของสมาคมฯ ซึ่งฝากไว้กับธนาคารถูกอายัด ส่งผลให้ขาดสภาพคล่องทางการเงินจำนวนเงินดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ต้องสำรองเงินไว้เพื่อชำระค่าสินไหมทดแทนทั้งหมด จึงมีความจำเป็นที่จะต้องชะลอการจ่ายเงินสนับสนุนของสโมสรสมาชิกในไทยลีกไว้ก่อน เพื่อชำระหนี้ให้กับ บริษัท อีสาน ยูไนเต็ด จำกัด จนครบจำนวนตามคำสั่งศาล
ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เคารพและพร้อมดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด เพื่อให้ฟุตบอลไทยทั้งระบบเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทย ฟุตบอลลีกอาชีพ ฟุตบอลยูธลีก การพัฒนาผู้ตัดสิน และผู้ฝึกสอน รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม เหตุดังกล่าวเป็นผลจากการมีมติของสภากรรมการชุดเดิม ที่มี นายวรวีร์ มะกูดี เป็นนายกสมาคมฯ ซึ่งศาลพิพากษาว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นมติที่ก่อให้เกิดความเสียหาย และมิได้เกิดจากการบริหารกิจการของสภากรรมการชุดปัจจุบัน ทั้งนี้ สภากรรมการชุดปัจจุบันจำเป็นต้องไล่เบี้ยสภากรรมการชุดเก่าและผู้เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ชี้แจงว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นผลจากมติโดนสมาคมกีฬาฟุตบอลชุดเดิมที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ซึ่งสมาคมกีฬาชุดนั้นมีคณะกรรมการสมาคมฯ ประกอบด้วย
- นายกสมาคม : นายวรวีร์ มะกูดี
- อุปนายก : นายไบรอัน ลินด์เซ มาร์การ์, นายประเวช รัตนเพียร, นายวิมล กาญจนะ, นายวิชาญ มีนชัยนันท์, นายชาติชาย พุคยาภรณ์, นายพีระ ฟองดาวิรัตน์
- กรรมการกลาง : นายกษม ชนะวงศ์, พันเอก วรวุฒิ ทองศรีงาม, พลตรี ชินเสณ ทองโกมล, พลตรี หม่อมหลวง สุปรีดี ประวิตร, นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ, นายอุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์, นายภิรมย์ อั๋นประเสริฐ, นายเกรียงสิทธิ์ หนุ่มรักชาติ, นายโสภิต ภาโนมัย, นายเกษม จริยวัฒน์วงศ์, นายสุนทร มีสุวรรณ, นายองอาจ ก่อสินค้า