ตลาดซื้อ-ขายผู้เล่นก่อนเปิดซีซั่น 2024-25 กำลังอยู่ในช่วงคึกคักสุดๆ โดยเฉพาะบรรดาทีมหัวตารางที่เสริมทัพกันแบบนันสต็อป
แชมป์เก่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าผู้เล่นโปรไฟล์หรูสู่ ไทยลีก ซึ่งแน่นอนว่าประสบการณ์ของพวกเขาเหล่านี้ย่อมยกระดับการแข่งขันให้ทวีคูณสูงขึ้นแน่
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็มีความเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ด้วยความกระหายกับแรงปรารถนาจะกลับมาครองบัลลังก์อีกครั้งย่อมทำให้กระต่ายแก้วแข็งแรงขึ้นอีกเท่าตัว
ขณะที่ การท่าเรือ เอฟซี อาจจะไม่ได้อิมพอร์ตนักเตะจากต่างแดน แต่สมาชิกใหม่ที่ย้ายเข้ามาก็สามารถใช้งานได้เลย
ทว่าที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เงียบงันอยู่นาน ก่อนจะค่อยๆ ขยับกับการคว้านักเตะใหม่ทีละนิด
ก่อนหน้านี้มีแต่ข่าวการย้ายออก ไม่ว่าจะเป็น มิลอส ย็อคซิช เฮดโค้ชผู้หมดสัญญา ตามต่อด้วยการประกาศแขวนถุงมือของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
เท่านั้นไม่พอ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ก็ต้องกลับไป บีจี ปทุม เป็นคำรบที่สอง รวมไปถึง ภูมินทร์ แก้วตา, กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์, พีรพงษ์ ปัญญานุมาภรณ์ และ สุวิทย์ ไปพรมราช ที่ต่างก็แยกย้ายไปตามเส้นทางของตนเอง
ไม่นับรวม ฌ็อง-โคล้ด บีลลง, สเตฟาน เชโปวิช กับ อี แช-ซอง ที่ยังไร้วี่แววว่าจะต่อสัญญา และที่สำคัญคืออนาคตของ วิลเลียน พ็อพพ์ ที่อยู่ในห้วงคำถามจากแฟนๆ
อย่างไรก็ตาม การเซ็นสัญญาคว้า เดนิส บุสน์ญ่า, กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก และ จักพัน ไพรสุวรรณ มาจาก บีจี ปทุม ด้วยรูปแบบของการยืมตัวนั้นช่วยลดแรงกดดันได้พอสมควร
โดยเฉพาะสองแข้งดีกรีทีมชาติอย่าง กิตติพงศ์ กับ จักพัน ที่ถือเป็นดีลอันยอดเยี่ยมของ เมืองทอง เพราะทั้งคู่มีประสบการณ์ใน ไทยลีก โชกโชน ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องปรับตัวเลยสักนิด
ส่วนทาง บุสน์ญ่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เพราะห้วงเวลาที่ บีจี สเตเดี้ยม ของปีกโครเอเชีย ไม่ค่อยจะโสภานัก แต่นั่นก็น่าจะมาจากการที่ทีมกระต่ายแก้วไม่ได้ใช้แท็กติกโจมตีด้านข้าง ประสิทธิภาพของหมอนี่จึงถูกลดทอนลงไปมากมาย
จริงๆ แล้วแนวรุกวัย 24 ปี ได้รับการยกย่องอย่างสูงที่บ้านเกิด กับฟอร์มอันจัดจ้านตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งการโยกสู่ถิ่น ธันเดอร์โดม ที่เน้นเกมรุกด้านข้างอยู่แล้ว น่าจะทำให้คอลูกหนังได้เห็นฝีเท้าที่แท้จริงได้ไม่ยาก
นอกจาก 3 ราย จาก บีจี ปทุม - กิเลนผยองยังคว้า กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ และ สรวิทย์ พานทอง กลับมาค้าแข้งกับทีมอีกครั้ง
เท่ากับ ณ ตอนนี้มีผู้เล่น 5 รายที่ตบเท้าเข้ามาเพิ่มเติมความแข็งแกร่งให้ เมืองทอง ในฤดูกาล 2024-25
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการอำลาสนามของ กวินทร์ และการย้ายไป บีจี ปทุม ของ เจริญศักดิ์ นั้นส่งผลกระทบต่อทีมแน่ แต่พะยี่ห้ออดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย เคยผ่านห้วงเวลาที่ยากลำบากมานักต่อนักแล้ว
พวกเขาเคยปล่อย ดานโญ่ เซียก้า, คเลตอน ซิลวา, เฮแบร์ตี้, ธีรศิลป์ แดงดา, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น รวมไปถึงสตาร์ดังอีกหลายรายออกจากทีม
แน่นอนว่าเสียงแซ่ซ้องในทางลบจากแฟนๆ ก็วิจารณ์ต่างๆ นานาย่อมมีตามมาแบบไม่อาจหลีกเลี่ยง
แต่ เมืองทอง ก็ผ่านมาได้
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แนวทางการทำทีมย่อมแปรผันตามทิศทางของเศรษฐกิจโลก
ทว่ากิเลนผยองก็ยังพยายามที่จะยืนหยัดด้วยปรัชญาฟุตบอลของพวกเขาที่ต้องการสร้างความสนุกให้ผู้ชมควบคู่ไปกับการพัฒนาเยาวชนให้เติบใหญ๋ในเส้นทางลูกหนังอย่างยั่งยืน และที่สำคัญคือเรื่อง 'การตลาด' อันเป็นเอกลักษณ์ของ เมืองทอง ตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
ดังนั้นเชื่อเถอะว่านอกจาก 5 นักเตะใหม่ที่ย้ายเข้า ยังจะมีผู้เล่นคนอื่นๆ รวมไปถึง 'กุนซือ' ที่จะตบเท้าเข้าสู่รั้ว ธันเดอร์โดม ในเวลาอันใกล้นี้
กิเลนออกล่าและความท้าทายใหม่ในซีซั่น 2024-25
ชิกกะด้าว