ศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023-24 จะรูดม่านปิดฉากลงในวันอาทิตย์ ที่ 26 พ.ค.67 ซึ่งฤดูกาลนี้ 4 สโมสรบิ๊กโฟว์จากเมืองไทยตามตารางคะแนนล่าสุด ที่ลงทำการแข่งขันหลายรายการทำให้พวกเขาเหล่านี้ได้เงินเข้ากระเป๋าจากผลงานที่ลงสนามทำการแข่งขัน และกลายเป็น 4 สโมสรที่ได้เงินรางวัลมากสุดของเหล่าบรรดาทีมจากเมืองไทย รายได้นี้ไม่รวมค่าผ่านประตูและของที่ระลึก
"แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แม้ว่าจะพลาดท่าจากแชมป์ไทยลีก แต่ระดับตัวเลขเงินเข้ากระเป๋าก็ยังอันดับเดียวกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 9 สมัย แน่นอนว่ายังมีอีก 2 รายการ ในเมืองไทย ทั้ง เอฟเอ คัพ,ลีก คัพ ที่ยังแข่งขันไม่จบยังมีเงินรางวัลอีกถ้วยละ 5 ล้านบาทให้ได้สะสมยอดต่อ
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
- เอเอฟซี ชปล : 10.2 ล้านบาท (ค่าเดินทาง,โบนัสชนะ)
- ไทยลีก: 10 ล้าน
- ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยน คัพ: 5 แสนบาท
- ลีกคัพ : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เมืองทอง ยูไนเต็ดl รอบรองฯ (เงินรางวัลแชมป์ 5 ล้านบาท)
รวม : 20.7 ล้านบาท (กรณีคว้าแชมป์ ลีก คัพ 25.7 ล้านบาท)
ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
- เอเอฟซี ชปล:16.7 ล้านบาท (ค่าเดินทาง,โบนัสชนะ,โบนัสเข้ารอบ)
- ไทยลีก: 3 ล้านบาท
- ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยน คัพ: 1ล้านบาท
- เอฟเอคัพ: ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด - ดรากอน ปทุมวัน กาญจนบุรี l รอบชิงชนะเลิศ (เงินรางวัลแชมป์ 5 ล้านบาท)
รวม : 20.7 ล้านบาท (กรณีคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ 25.7 ล้านบาท)
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
- เอเอฟซี ชปล : 7.98 ล้านบาท (ค่าเดินทาง )
- ไทยลีก : 8 แสนบาท
- ลีกคัพ : บีจี ปทุม ยูไนเต็ด - การท่าเรือ l รอบรองฯ(เงินรางวัลแชมป์ 5 ล้านบาท)
รวม : 8.69 ล้านบาท (กรณีคว้าแชมป์ ลีก คัพ 13.69 ล้านบาท)
การท่าเรือ เอฟซี
- เอเอฟซี ชปล : 1.45 ล้านบาท(ค่าเดินทาง)
- ไทยลีก : 1.5 ล้านบาท
- ลีกคัพ : บีจี ปทุม ยูไนเต็ด - การท่าเรือ l รอบรองฯ(เงินรางวัลแชมป์ 5 ล้านบาท)
รวม : 2.95 ล้านบาท (กรณีคว้าแชมป์ ลีก คัพ 7.95 ล้านบาท)
เงินรางวัลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023-24
ทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 10,000,000 บาท
ทีมอันดับ 2 จะได้รับเงินรางวัล 3,000,000 บาท
ทีมอันดับ 3 จะได้รับเงินรางวัล 1,500,000 บาท
ทีมอันดับ 4 จะได้รับเงินรางวัล 800,000 บาท
ทีมอันดับ 5 จะได้รับเงินรางวัล 700,000 บาท
ทีมอันดับ 6 จะได้รับเงินรางวัล 600,000 บาท
ทีมอันดับ 7 จะได้รับเงินรางวัล 500,000 บาท
ทีมอันดับ 8 จะได้รับเงินรางวัล 400,000 บาท