แชมป์ไทยลีก หายไปไหน (เกือบ) หมด?

แชมป์ไทยลีก หายไปไหน (เกือบ) หมด?
การแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศไทย รายการไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023-24 จะปิดฉากลงในวันที่ 26 พ.ค.67 โดยการแข่งขันไทยลีกฤดูกาลหน้า 2024-25 จะเป็นฤดูกาลที่ 28 ที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ จากการแข่งขันไทยลีก ครั้งแรกในปี 2539 ลากยาวมาจนถึงปี 2567 รวม 28 ปี 27 ฤดูกาล มีทีมก้าวมาคว้าแชมป์ไม่ซ้ำหน้า และที่สำคัญได้เห็นวัฏจักรฟุตบอลอาชีพไทยในการเอาตัวรอดให้เดินได้สะดวกโยธิน

อีกมุมก็มีทีมที่ล้มหายตายจากสารบบฟุตบอลอาชีพของไทยไปเช่นเดียวกัน ทีมแชมป์ของไทยลีก มีไม่น้อยที่ต้องบอกลาฟุตบอลอาชีพและบรรดาทีมแชมป์หน้าใหม่ก็ก้าวเข้ามาช่วงชิงการคว้าแชมป์ด้วยงบประมาณที่พร้อมสู้ นี่คือเรื่องราวเส้นทางของแชมป์ไทยลีกผู้จากไปและแชมป์ที่จะต้องหาวิธีสู้ต่อ 

ธนาคาร กรุงเทพ แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 1 

พ.ศ. 2551 แชมป์ไทยลีกสมัยแรก “บัวหลวง”ธนาคารกรุงเทพ ประกาศยุบทีม เนื่องจากฟุตบอลอาชีพยุคใหม่กำหนดให้สโมสรมีคลับไลเซนส์ซิ่ง และสโมสรต้องเป็นรูปแบบบริษัทชัดเจน ซึ่งขัดต่อระเบียบของการใช้งบประมาณธนาคาร  อาจจะมองผลกระทบในระยะยาวที่จะเกิดขึ้นจึงเลือกปิดตำนานลง

ทหารอากาศ แชมป์ไทยลีก 2 สมัย ครั้งที่ 2,4

“ลูกทัพฟ้า” ทหารอากาศ ยอดตำนานทีมเมืองไทยทั้งในแง่ของผลงานและการสร้างสรรพกำลังผู้เล่นทีมป้อนทีมชาติ คว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัย ครั้งที่ 2,4  สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนแปลงในปี 2553 เปลี่ยนชื่อเป็น แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น 2562 ผู้บริหารทีมตัดสินใจขายสิทธิ์ให้ อุทัยธานี  เอฟซี 

สินธนา แชมป์ไทยลีกครั้งที่ 3

“บ้านจัดสรร”สินธนา แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 3 เติบโตมาด้วยขุมกำลังชื่อทีมเดิม บางเตย สุวรรณน้อย มีอะคาเดมี่ชั้นดีในการป้อนนักเตะอย่าง โรงเรียน อัสสัมชัญ  ต่อยอดจนคว้าแชมป์ลีกสูงสุด  แต่การหมุนของโลกฟุตบอลอาชีพ พ.ศ.  2551 เปลี่ยนชื่อเป็น จุฬา-สินธนา ต่อจากนั้น  2554 เปลี่ยนชื่อเป็น BBCU  และสุดท้าย พ.ศ. 2560 ต้องยุบทีมเนื่องจากงบประมาณ

บีอีซี เทโรฯ แชมป์ไทยลีก 2 สมัย ครั้งที่ 5,6 

“มังกรไฟ”บีอีซี เทโรฯ หรือ ฉายาเดิม “เจ้าบุญทุ่มเมืองไทย” ที่สร้างความโดดเด่นในการเดินหน้าสู่ความสำเร็จด้วยการใช้งบประมาณจ้างผู้เล่นชั้นดีดีกรีทีมชาติ ไล่ล่าลายเซ็นเข้าทีมตั้งแต่ดีกรีเยาวชน ในนามทีมชื่อ บีอีซี เทโรฯ พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ไทยลีก 2 สมัยติดเป็นทีมแรก ในครั้งที่ 5,6 หลังจากนั้นฟุตบอลอาชีพในเมืองไทยเข้มข้นขึ้น พ.ศ. 2560 ควบรวมสโมสรกับ โปลิศ ยูไนเต็ด ก่อนที่ 2561 จะเปลี่ยนชื่อเป็น โปลิศ เทโรฯ   ปัจจุบันตกชั้นสู่ไทยลีก 2  เพื่อลุยศึกฤดูกาลหน้า 2024-25 

ธนาคารกรุงไทย แชมป์ไทยลีก 2 สมัย ครั้งที่ 7-8

“นกวายุภักษ์”ธนาคารกรุงไทย ทีมชั้นนำของเมืองไทยช่วงปี 2544-47 ซึ่งการคว้าแชมป์ไทยลีกครั้งที่ 7-8  เป็นเครื่องการันตีผลงาน  ธนาคารกรุงไทย  แต่เมื่อวันเวลาหมุนเปลี่ยน พ.ศ. 2552  ธนาคารกรุงไทย ไม่สามารถลุยต่อได้เนื่องจากประสบปัญหาเดียวกับทีมสโมสรฟุตบอลที่เป็นทีมในเครือธนาคาร บางกอกกล๊าส คว้าสิทธิ์ไปทำทีม ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ในเมืองไทยขณะนี้

ยาสูบ แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 9 

สร้างปรากฏการณ์คว้าแชมป์ไทยลีก 9 ด้วยการคุมทัพของ โจเซ่ อัลเวส บอร์จิส กุนซือชาวบราซิล  แต่หลังจากนั้นคลื่นฟุตบอลอาชีพที่ต้องทำการปรับตัวให้เข้ายุคสมัย พ.ศ. 2552 เปลี่ยนชื่อเป็น ทีทีเอ็ม-สมุทรสาคร พร้อมย้ายถิ่นฐาน จากนั้น 2553 เปลี่ยนชื่อเป็น ทีทีเอ็ม - พิจิตร ,2556 เปลี่ยนชื่อเป็น ทีทีเอ็ม-เชียงใหม่,  2557 เปลี่ยนชื่อเป็น ทีทีเอ็ม-ลพบุรี และชื่อสุดท้าย  2557 เปลี่ยนชื่อเป็น ยาสูบ-ศุลกากร  ก่อนที่ พ.ศ. 2558 ประกาศยุบทีม โดยทุกการเปลี่ยนชื่อคือการย้ายถิ่นฐาน

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 10 

กลายเป็นทีมมหาวิทยาลัยแรกของประเทศไทยที่ใช้นักศึกษาเป็นโครงสร้างลงทำการแข่งขันลีกสูงสุดของประเทศ ซึ่งสุดท้ายในการแข่งขันไทยลีก 10 พลังหนุ่มภายใต้การคุมทัพของ “มาราโดน่าเมืองไทย”สมชาย ทรัพย์เพิ่ม ผงาดแชมป์ลีกสูงสุดแบบหักปากกาเซียน พ.ศ.2552 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จับมือกับ กรุงเทพมหานคร สร้างทีมฟุตบอลเมืองหลวงก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น แบงค็อก ยูไนเต็ด จากนั้น 2553 กลุ่มทรู คอร์ปอรั่น เข้ามาบริหารทีม ยาวจนถึงปัจจุบันและยังคงโลดแล่นบนลีกสูงสุด 

ชลบุรี เอฟซี แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 11 

“ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี ยอดทีมจากภาคตะวันออก ที่เติบโตมาจากเวทีฟุตบอลไทยแลนด์โปรวิเซียน ลีก  ก้าวมาเล่นลีกสูงสุดปี 2549 ให้หลังลีกสูงสุดที่เกิดขึ้นในเมืองไทย 10 ปี แต่ “ฉลามชล” ก็ทำเซอร์ไพรซ์ด้วยการคว้าแชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 11 ด้วยขุมกำลังลูกหม้อของตัวเองที่สร้างมาจากเยาวชนเป็นหลัก ชลบุรี เอฟซี ยืนระยะเวลาบนลีกสูงสุด 18 ฤดูกาล ในฤดูกาล 2024-25 ต้องกลับไปต่อสู้ในลีกรองของประเทศ

การไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค แชมป์ไทยลีก 12

“มนุษย์ไฟฟ้า”การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ก้าวขึ้นมาผงาดแชมป์ลีกสูงสุดได้อย่างสมบูรณ์ ในการแข่งขันครั้งที่ 12  ซึ่งยุคนั้นมี “น้าเหม่ง”ประพล พงษ์พานิช คุมทัพ นี่คืออีกสโมสรที่เหลือไว้เพียงตำนานให้จดจำ เพราะในปี 2552 เนวิน ชิดชอบ ได้สิทธิ์ในการทำทีมพร้อมกับโยกไปเล่นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ ในชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอ และในปี 2553 ก็เริ่มใช้ชื่อนี้ลงทำการแข่งขันลีกสูงสุดทันที ลากยาวมาถึงปัจจุบันในชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 4 สมัย ครั้งที่ 13,14,16,20

“กิเลนผยอง”เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมที่สร้างบริบทใหม่ให้กับวงการฟุตบอลไทย ในฐานะทีมภาคเอกชนที่นำการตลาดใหม่ๆเข้ามาสร้างสีสันวงการฟุตบอลไทยทุกมิติ รวมไปถึงการสร้างปรากฎการณ์เสริมทัพในยุคเริ่มต้นเดินหน้าคว้าแชมป์ไทยลีกได้ถึง 4 สมัย ในครั้งที่ 13,14,16,20  ปัจจุบันก็ยังเป็นทีมที่มีแรงกิ้งเป็นท็อปไฟว์ของลีกสูงสุดประเทศไทย และยังคงยืนหยัดเล่นบนลีกสูงสุดต่อเนื่อง ฤดูกาลหน้าจะเป็นฤดูกาลที่ 17 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก 9 สมัย ครั้งที่ 15,17,18,19,21,22,25,26,27

การเปลี่ยนแปลงจากการคว้าสิทธิ์ของ เนวิน ชิดชอบ  มาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ช่วงปี 2552 กลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการทำฟุตบอลในดินแดนอีสานใต้แบบเต็มตัว จากวันนั้นมาพาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 9 สมัย ครั้งที่ 15,17,18,19,21,22,25,26,27  โดยครั้งที่ 15 จะยังคงใช้ชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอ แต่หลังจากนั้นมาเป็นชื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้งหมด ปัจจุบันยังคงโลดแล่นในลีกสูงสุดของเมืองไทยในฐานะยอดทีมชั้นนำของประเทศ

เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 23

“กว่างโซ้งมหาภัย”เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมจากโซนภาคเหนือทีมแรกทีประกาศศักดาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศ ในการแข่งขันไทยลีก ครั้งที่ 23  เชียงราย ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดด้วยการไล่ระดับมาตั้งแต่ดิวิชั่น 2 จนก้าวมาสู่ลีกสูงสุด ปัจจุบันก็ยังคงปักหลักลงเล่นบนลีกสูงสุดต่อไป โดยฤดูกาลหน้าจะเป็นฤดูกาลที่ 14 ต่อเนื่อง 

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ครั้งที่ 24

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์ไทยลีกหน้าใหม่อีกหนึ่งทีมในการแข่งขันไทยลีก ครั้งที่ 24 หรือฤดูกาล 2020-21 ลีกสูงสุดของประเทศไทยได้ทำการจารึกชื่อสโมสรแห่งนี้ลงบนถ้วยความสำเร็จ  หลังจากที่เพียรพยายามมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2552 ปัจจุบัน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือ บางกอกกล๊าส เดิม เพิ่มขีดความสามารถต่างๆทุกมิติทั้งเรื่องของขุมกำลังผู้เล่น,ศักยภาพด้านต่างๆ ให้เป็นทีมที่มีการพัฒนาทัดเทียมมูลค่ารอบด้านในระดับเอเชีย 


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport