ผลเสมอของ ชลบุรี เอฟซี ที่ถูก ประจวบ เอฟซี ตีเจ๊า 1-1 ตอนช่วงทดเวลาการแข่งขัน กระเทือนถึงโอกาสที่จะอยู่รอดใน ไทยลีก ของพวกเขาโดยตรงจริงๆ
จาก 3 เหลือเพียง 1 คะแนน กับสถานการณ์ที่บีบคั้นขึ้นเรื่อย เพราะเหลือโปรแกรมอีกแค่ 2 นัด เท่านั้นก็จะจบฤดูกาล 2023-24 ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงลิ่วที่อดีตแชมป์ปี 2007 จะต้องหล่นไปเริ่มใหม่ในลีกรองของสยามประเทศ
ฉลามชลจะต้องเผชิญหน้ากับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มดีเหลือเกินในเลกที่สอง ปิดท้ายด้วยการเปิดบ้านรับมือ ตราด เอฟซี ซึ่งเป็นคู่แข่งชิงแต้มโดยตรง
การบุกเยือนกิเลนผยองอาจจะโชคดีหน่อย เนื่องจากจะไปเล่นกันที่สนามกลาง เนื่องจาก ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม มีจัดกิจกรรมพอดี และก็คงจะส่งผลถึงเสียงเชียร์ไม่น้อย เนื่องจากที่ผ่านๆ มา แฟนๆ ของยอดทีมแห่งย่านแจ้งวัฒนะส่งเสียงให้กำลังใจจนนักเตะฮึดสู้มานักต่อนัก
แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายสำหรับ ชลบุรี เพราะผลงาน ณ ปัจจุบันของ เมืองทอง ก็โดดเด่นสะดุดตา - 10 เกมหลังสุดในลีกชนะไปถึง 8 โดยแพ้ต่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียงนัดเดียวเท่านั้น
ที่สำคัญ แนวรุกกิเลนผยองกำลังเข้าฝักทุกคน ไม่ว่าจะเป็น วิลเลียน พ็อพพ์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ ปรเมศย์ อาจวิไล ที่เรียงหน้าผลัดกันยิงผสมแอสซิสต์
บางที ไทยแลนด์ กลาซิโก้ หนนี้อาจจะเป็นการส่งฉลามสู่ลีกรองก็เป็นได้
ดังนั้น ชลบุรี จึงจำต้องเน้นสุดๆ เล่นให้ราวกับเป็นเกมนัดชิงชนะเลิศ เพราะถ้าเสมอหรือแพ้มีโอกาสที่พวกเขาจะจมอยู่ในโซนสีแดงไปเมื่อจบฤดูกาล
สิ่งที่น่ากังวลสำหรับอดีตแชมป์ ไทยลีก 2007 อีกอย่างหนึ่งคือการที่คู่แข่งในพื้นที่ตกชั้นด้วยกันนั้นมีโปรแกรมไม่หนักมากนัก
ประจวบ - อันดับ 13 จะได้เล่นในบ้านกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ก่อนจะออกไปเยือน ราชบุรี เอฟซี แม้ว่าจะเป็นการพบทีมใหญ่ แต่ทั้งสองสโมสรที่ไม่มีลุ้นใดๆ แล้วในซีซั่นนี้
ลำพูน วอร์ริเออร์ส - อันดับ 12 มีแข่งคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ แต่ก็จะได้เล่นที่ แม่กวง สเตเดี้ยม พบ อุทัยธานี เอฟซี ซึ่งถ้าชนะก็จะการันตีความอยู่รอดในบัดดล แต่ถ้าแพ้ ก็เหนื่อยหน่อย เนื่องจากต้องเป็นอาคันตุกะของ ตราด ต่อด้วย สุโขทัย ที่หนีหล่นชั้นเหมือนกัน
ดังนั้นความอยู่รอดของราชันโคขาวจึงขึ้นอยู่กับเกมในวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคมนี้โดยตรง
สุโขทัย - อันดับ 11 มีแต้มห่างจากโซนสีแดง 5 คะแนน กับอีก 2 นัดที่เหลือกับ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เยือน) และ ลำพูน (เหย้า) ดังนั้นหนึ่งแต้มน่าจะการันตีความอยู่รอดได้เช่นกัน
อุทัยธานี - อันดับ 10 มีเกมในวันจันทร์พบ ลำพูน แต่อีกสองนัดที่เหลือคือหนักหน่วงสุดๆ เนื่องจากต้องเผชิญหน้า บุรีรัมย์ ตามต่อด้วย แบงค็อก ยูไนเต็ด พวกเขาที่ดูจะหนักหน่วงไม่ต่างจาก ชลบุรี เพราะมีโอกาสสูงทีเดียวที่จะไม่มีแต้ม
หากว่าช้างป่าห้วยขาแข้งไม่สามารถเก็บคะแนนเพิ่มจาก 3 เกมที่เหลืออยู่ ก็จะยังมี 32 แต้ม เท่าเดิม และถ้าฉลามชลเก็บชัยได้ 2 นัดรวด ก็จะแซงในทันที
ปิดท้ายที่ ขอนแก่น ซึ่งมี 32 คะแนน เช่นกัน แต่ก็หนักหน่วงไม่น้อย เนื่องจากต้องเจอ สุโขทัย กับ บุรีรัมย์ แถมนัดปะทะปราสาทสายฟ้ายังต้องไปเล่นที่ ช้าง อารีน่า อีกต่างหาก ทว่าเปอร์เซ็นต์รอดของจงอางผยองก็ยังมากกว่าทีมอื่นๆ อยู่ดี
จากโปรแกรมของทีมที่อยู่ในข่ายหนีตกชั้นออกมาในรูปนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า ชลบุรี อาจจะไม่รอดพ้นจากการหล่นชั้น กับแต้มที่ห่างจากโซนสีเขียว 4 คะแนน แถมการแข่งขันก็งวดเข้ามาทุกขณะ
นอกจากตัวเองจะต้องเก็บให้ได้ 6 คะแนน เต็มจาก 2 เกมที่เหลืออยู่ ยังต้องลุ้นให้คู่ต่อสู้พลาดท่าด้วยเช่นกัน ซึ่งมันคงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ กับสถานการณ์ปัจจุบันที่แต่ละทีมก็เน้นกันสุดๆ
จาก 3 เหลือเพียง 1 คะแนน ในเกมเสมอ ประจวบ ส่งผลกระทบแบบมหาศาลถึงความอยู่รอดของทีมที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 'ต้นแบบ' ของฟุตบอลอาชีพยุคใหม่
ชลบุรี กับโอกาสที่มีบนเวที ไทยลีก และกำลังเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ
ชิกกะด้าว