อี โฮ กับการอำลาสนามอย่างเป็นทางการ

อี โฮ กับการอำลาสนามอย่างเป็นทางการ
ไทยลีก เริ่มมีความเป็นอาชีพอย่างเต็มตัวราวๆ ปี 2007 ทว่าในยุคแรก ผู้เล่นต่างชาติยังไม่ได้มีฝีเท้าที่สามารถยกระดับให้พัฒนารุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว

กระทั่งหลายๆ ทีมเริ่มเสาะหานักเตะจากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาสร้างความแข็งแกร่ง มันจึงทำให้การแข่งขันฟุตบอลไทย มีมาตรฐานที่ดีขึ้น

ผู้เล่นระดับ 'ทีมชาติ' ค่อยๆ ทยอยตบเท้าเข้ามาทำกินในสยามประเทศ แม้ค่าเหนื่อยจะค่อนข้างสูง แต่ผลที่ตามมาคือการทำให้ ไทยลีก เดินไปข้างหน้าได้ไวขึ้น

มีไม่น้อยเช่นกันที่ผู้เล่นเหล่านั้นจะเก่งกาจถึงขนาดผ่านการเล่น 'เวิลด์ คัพ' รอบสุดท้ายมาแล้ว

โดยเฉพาะ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มักจะนำนักเตะโปรไฟล์ดีเข้ามาเรียกเสียงฮือฮาอยู่เสมอ 

ไล่ตั้งแต่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตำนานศูนย์หน้า ลิเวอร์พูล ที่ได้เล่นฟุตบอลโลก 2002 กับทีมชาติอังกฤษ ตามด้วย รี ควาง ชอน และ พัก นัม โชล 2 แข้งเกาหลีเหนือ ที่เผชิญหน้ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในปี 2010 

คิม ดอง-จิน กองหลังเกาหลีใต้ ก็ผ่าน เวิร์ล คัพ มาแล้ว 2 ครั้ง หรือ โอ บัน-ซ็อก อีกหนึ่งผู้เล่นจากแดนกิมจิก็ตะลุยการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกมาแล้วในปี 2018

และแน่นอนว่ายังมี 'อี โฮ' มิดฟิลด์ตัวรับของทัพนักรบ แทกึก ที่ได้เล่นทุกนัดให้กับทีมโสมขาวชุดฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมัน

กองกลางจากกรุงโซล เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับ อุลซาน ฮุนได สโมสรเบอร์ต้นของเกาหลีใต้ โดยได้สัญญาอาชีพฉบับแรกตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี เท่านั้น

เขายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ของเสือร้ายแห่งเอเชีย ทั้งๆ ที่เพิ่งจะวัยเพียง 20 และก็พัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด จนกระทั่งถูก ดิ๊ก อั๊ดโวคาท กุนซือทีมชาติเรียกติดทัพนักรบ แทกึก ในปี 2005 

พอจบจาก เวิร์ล คัพ ที่เยอรมัน - อี โฮ และ คิม ดอง-จิน เป็นสองผู้เล่นที่เฮดโค้ชชาวดัชต์ พาไปโลดแล่นในยุโรป กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี 2006

ที่นั่น อี โฮ ก็เป็นหนึ่งในขุนพลชุดแชมป์ ยูฟ่า คัพ ฤดูกาล 2007-08 ซึ่งนับเป็นครั้งรองสุดท้าย ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น ยูโรปา ลีก ในเวลาต่อมา

หลังจากหมดสัญญากับ เซนิต - อี โฮ เริ่มออกผจญภัยอยู่ระยะหนึ่ง โดยเริ่มจากการกลับมาค้าแข้งบนแผ่นดินเกิดที่ ซองนัม อิลห์วา ชุนมา ก่อนจะไปต่อกับ อัล ไอน์ (ซาอุดีอาระเบีย) และ โอมิยะ อาร์ดิจา (ญี่ปุ่น)

จากนั้นปี 2011 เขาก็หวนคืนสู่ อุลซาน ฮุนได สโมสรแรกในชีวิต แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะต้องไปเล่นให้ ซังจู ซังมู ทีมของกองทัพ ตามกฎหมายของเกาหลีใต้ ที่ผู้ชายทุกคนต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร 

พอปี 2015 - อี โฮ ไปอยู่กับ ชนบุค ฮุนได มอร์เตอร์ส ทีมอันดับหนึ่งของประเทศ และก็มีส่วนสำหรับแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2016 เช่นกัน

กระทั่ง ซีซั่น 2017 เส้นทางของเขากับ ไทยลีก จึงถึงคราวบรรจบกัน

เมืองทอง กระชากตัวกองกลางตัวรับผู้นี้มาร่วมทัพ โดยหวังมาแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ย้ายไป เชียงราย ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท

ห้วงเวลาที่อยู่กับกิเลนผยอง อี โฮ ช่วยยกระดับได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการเล่นในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาล 2017 ที่เขาใช้ประสบการณ์ที่ช่ำชอง ก่อนพาทีมทะลุถึงรอบ 16 ทีม สุดท้ายได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 

ตลอดระยะเวลา 3 ซีซั่น (2017-19) กับ เมืองทอง เขาเป็นตัวอย่างชั้นยอดให้กับนักเตะไทย ทั้งในรุ่นเดียวกัน, ใกล้เคียงและรวมไปถึงเยาวชนที่กำลังเติบโตขึ้นมาในเวลานั้น

ความเป็นมืออาชีพของ อี โฮ ทั้งในและนอกสนามทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนได้เรียนรู้ บวกกับความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว ทั้งๆ ที่มีโปรไฟล์ระดับลงสนามในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว ก็ยิ่งทำให้เขาเป็นที่รักของผู้คนรอบกาย

มิดฟิลด์ชาวเกาหลีใต้ ย้ายกลับบ้านเกิดอีกครั้งในปี 2021 และสถานีปลายทางก็ยังเป็น อุลซาน ฮุนได ในคำรบที่ 3 ทว่าหนนี้เขาอยู่ในบทบาท 'โค้ชแอนด์เพลเยอร์'

23 ตุลาคม คือวันที่ อี โฮ จะลงสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพเป็นหนสุดท้ายในชีวิต ปิดฉากเส้นทางลูกหนังที่ตะลุยยุโรป และเอเชีย มากว่า 20 ปี 

บังเอิญไม่น้อย เพราะในวันอำลาการค้าแข้ง ดันเป็นวันที่ อุลซาน ฮุนได จะรับถ้วยแชมป์ เคลีก ซีซั่น 2022 เสียด้วย

แถมการโทรฟี่นี้ ยังเป็นหนแรกในรอบ 17 ฤดูกาล ที่ทัพเสือร้ายแห่งเอเชีย จะได้กลับมายืนอยู่บนโพเดี้ยมอีกครั้ง หลังจากเป็นพระรองมา 3 ปี ติดต่อกัน

นับเป็นการแขวนสตั๊ดที่สมเกียรติสำหรับนักเตะที่ชื่อ อี โฮ หนึ่งในตำนาน ไทยลีก ตัวจริง


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport