บุรีรัมย์ ทำท่าจะนำยาว

   นี่คือหนึ่งในเกมคุณภาพที่ครบทุกอรรถรส ไม่ว่าจะเป็นรูปเกมที่สูสี, แท็กติกนาทีต่อนาทีและการพลิกแซงของปราสาทสายฟ้าที่สำแดงเดชให้เห็นอีกครั้งว่าพวกเขายังเป็นเบอร์หนึ่งของสยามประเทศไม่เปลี่ยนแปลง

   ความพ่ายแพ้ของ แบงค็อก ทำให้บียูหล่นไปอยู่อันดับ 3 ของตารางคะแนน แถมยังมีสถิติไม่โสภานักกับการชนะเพียงเกมเดียวจาก 7 นัดหลังสุดใน ไทยลีก โดยเป็นการปราชัยไปถึง 2 แมตช์

   แน่นอนว่ามันคือผลพวงจากการกรำศึกหนักทั้งในและนอกประเทศ

   แบงค็อก ต้องเล่นทั้ง ไทยลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกทั้งยังต้องเล่น 120 นาที ถึง 2 นัด กับ โยโกฮามะ มะรินอส รวมไปถึง สงขลา เอฟซี ซึ่งทำให้พละกำลังถดถอยไปพอสมควร

   เท่านั้นไม่พอ นับตั้งแต่เปิดเลกที่สองเป็นต้นมา บียูต้องเดินทางไกลไป สุโขทัย ต่อด้วยญี่ปุ่น, สงขลา และล่าสุดคือ บุรีรัมย์ - เอาแค่บินในประเทศ ก็ระยะทางรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 กิโลเมตร

   มันคงปฏิเสธไม่ได้ ว่าความเหนื่อยล้านั้นส่งผลให้ฟอร์มการเล่นของพวกเขาค่อยๆ ตกลงเรื่อยๆ แม้จะมีบางเกมที่ชนะในช่วงทดเวลาการแข่งขัน แต่นั่นคงช่วยไม่ได้แล้ว ในเมื่อคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

   เป็นเรื่องแปลกมากๆ ที่ปราสาทสายฟ้ายังไม่เคยครองบัลลังก์จ่าฝูงเลย กระทั่งถึง แมตช์เดย์ ที่ 18 ซึ่งนั่นเกินกว่าครึ่งหนึ่งของฤดูกาล 2023-24 

   แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขารั้งตำแหน่งหัวตาราง เมื่อนั้นก็มักจะยิงยาวๆ เช่นกัน

   กับการแข่งขันที่เหลืออีกเพียง 10 เกม เท่านั้น แต้มที่ห่างจากอันดับ 2 อย่าง การท่าเรือ เอฟซี  5 คะแนน - อันดับ 3 แบงค็อก ที่ยังมีโปรแกรมในมืออีก 1 นัด 6 คะแนน มันก็พอจะมองเค้าลางในอนาคตข้างหน้าว่ามีความเป็นไปได้สูงลิ่วที่โทรฟี่ ไทยลีก จะยังอยู่ที่ ช้าง อารีน่า ต่ออีกซีซั่น

   ฟุตบอลลีกตัดสินกันที่ความสม่ำเสมอ ซึ่งตรงจุดนี้ บุรีรัมย์ พิสูจน์ให้เห็นมาโดยตลอดว่าพวกเขามีมาตรฐานการเล่นที่คงเส้นคงวา แม้จะมีสะดุดอยู่บ้าง แต่พอตั้งตัวได้เท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็เข้าทางไปหมด

   อีก 10 เกม ที่เหลือ อาจจะมีเกมหนักกับการต้องเจอ ชลบุรี เอฟซี (เยือน), เชียงราย ยูไนเต็ด (เหย้า), บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (เยือน), เมืองทอง ยูไนเต็ด (เหย้า) และ การท่าเรือ (เหย้า) แต่จากฟอร์มปัจจุบัน 'อุบัติเหตุลูกหนัง' คงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ แน่

   ที่สำคัญตอนนี้ปราสาทสายฟ้าเหลือเพียง ไทยลีก กับ ลีก คัพ เพียง 2 รายการเท่านั้น มันจึงทำให้สมาธิของ บุรีรัมย์ สามารถพุ่งเป้าไปที่ 2 ถ้วยนี้แบบเต็มๆ 

   บวกด้วยความร้อนฉ่าของ กีเญร์เม่ บิสโซลี่ 'ว่าที่' ซูเปอร์สตาร์คนใหม่ที่กดไปแล้ว 10 ประตู จากการลงสนามเพียง 5 นัด และดูท่าจะต่อเนื่องแบนันสต็อปจนไปถึงปลายทาง เมื่อหลายองค์ประกอบมารวมกัน - ซีซั่น 2023-24 ก็คงจะเป็นอีกฤดูกาลที่พวกเขาจะครองความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง

   บุรีรัมย์ ทำท่าจะนำยาว

ชิกกะด้าว