ไทยลีก 2022-23 กำลังจะแข่งขันมาถึง 1 ใน 3 ของฤดูกาลกับ แมตช์เดย์ ที่ 10 และในสัปดาห์นี้ก็มีสิ่งที่น่าสนรออยู่
จะมีอะไรบ้างนั้น เชิญไปติดตามกันได้เลย!!
[ 1 ] แบงค็อก - บีจี ฟัดสนั่น
แบงค็อก ยูไนเต็ด เพิ่งจะพบกับความพ่ายแพ้เป็นเกมแรกของซีซั่น หลังจากกลับมาแข่งขันกันต่อ ก่อนจะถูก ราชบุรี เอฟซี บุกมาเฉือน 1-0 ไปสดๆ ร้อนๆ
แม้จะเป็นความปราชัยหนแรก แต่ก็ยังถือว่าไม่เสียหายนัก เพราะพวกเขายังมีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่เพียง 3 คะแนน ซึ่งหนทางในฤดูกาล 2022-23 ก็ยังอีกยาวไกล
ทว่าเกมในวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับอีกหนึ่งทีมลุ้นแชมป์อย่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นั้นมีความหมายมากๆ เนื่องจากมันส่งผลทั้งไปและกลับ
บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์ที่ 10 จึงมีค่ามากกว่า 3 คะแนน
หากบียูเป็นฝ่ายกำชัยได้สำเร็จ พวกเขาจะไม่ถูกทิ้งห่างไปมากกว่านี้ แถมยังถีบทีมกระต่ายแก้วให้ห่างไกลกว่าเดิมอีกต่างหาก
แต่ถ้าเป็นฝั่ง บีจี ปทุม ได้รับการชูมือ พวกเขาก็จะกลับสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว แม้ว่าการต่อสู้จะยากหน่อย ทว่ายังดีกว่าการที่มี 16 คะแนน และตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ในกรณีที่ปราสาทสายฟ้าบุกไปชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด) ถึง 10 แต้ม
ดังนั้นเกมระหว่าง แบงค็อก กับ บีจี ปทุม จึงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
[ 2 ] การเต้นรำครั้งสุดท้ายของ ยูรอฟสกี้
มีความเป็นไปได้สูงลิ่วที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะได้เปลี่ยนเฮดโค้ชคนใหม่หลังจากเกมพบ ประจวบ เอฟซี เนื่องจากล่าสุดพวกเขาแย้มๆ ออกมาแล้วว่าไม่น่าจะรั้ง มาริโอ ยูรอฟสกี้ ให้อยู่ในตำแหน่งกุนซือต่อ
ผลพวงจากผลงานการมีเพียง 7 คะแนน จาก 9 นัด ทำให้บรรยากาศท้องฟ้าที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ค่อนข้างอึมครึม ทั้งๆ ที่ตัวผู้เล่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากซีซั่นที่ผ่านมาสักเท่าไหร่
กิเลนผยองอาจจะขาดแค่ วิลเลียน พ็อพพ์ เพียงรายเดียวที่ไม่ได้ขยายสัญญาออกไป เนื่องจากแนวรุกชาวบราซิล โก่งค่าเหนื่อยจนเกินรับไหว จนต้องย้ายกลับบ้านเกิดไปในที่สุด
ทว่าตำแหน่งอื่นๆ ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากฤดูกาล 2021-22 ที่พวกเขาจบอันดับ 4 ของตาราง พร้อมกับเสียงปรบมือจากทั่วทุกทิศถึงแนวทาง 'มาริโอ เวย์' ที่ทำฟุตบอลได้น่าดูชม
อย่างไรก็ตาม ภาพที่เห็นในปัจจุบัน เมืองทอง ที่ยังคงสไตล์การเล่นดังเดิม แต่ผลการแข่งขันกลับไม่เหมือนเดิม เพราะชนะแค่ 1 เกม จาก 9 นัด แถมแมตช์ล่าสุดก็ไปโดน โปลิศ เทโร เอฟซี สอยมาอีกต่างหาก
นั่นจึงทำให้ ยูรอฟสกี้ เปรยๆ หลังจบเกมที่สนาม บุณยะจินดา ว่าเกมต่อไปกับ ประจวบ น่าจะเป็นการเต้นรำครั้งสุดท้าย (The last dance) ของตนเองกับ เมืองทอง
ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นเช่นไร มันน่าติดตามมากๆ ว่าตำแหน่งแม่ทัพกิเลนผยองจะยังเป็นคนเดิมหรือมีข่าวใหญ่ในวันถัดไป
[ 3 ] หนองบัว - ลำพูน และจุดเปลี่ยนของซีซั่น
คู่นี้คือการพบกันของ 2 ทีม ที่อยู่ก้นตารางและมีผลงานที่ไม่ดีเอามากๆ ในฤดูกาลปัจจุบัน
หนองบัว พิชญ เอฟซี เจ้าถิ่นฟอร์มตกลงจากซีซั่นก่อนอย่างน่าใจหาย โดยตอนนี้มีเพียง 4 คะแนน เท่านั้น และก็ชนะเพียงแค่เกมเดียวด้วย
ขณะที่ ลำพูน วอร์ริเออร์ส อาคันตุกะจากแดนเหนือยิ่งแย่กว่า ทั้งๆ ที่เลื่อนชั้นมาในฐานะแชมป์ ไทยลีก 2 แต่กลับยังไม่สามารถเก็บ 3 คะแนน ได้เลยในลีกสูงสุด
เข้าใจได้ว่าทีมราชันโคขาวต้องเจอทีมใหญ่ทั้ง การท่าเรือ เอฟซี, เชียงราย ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด แถมต้องพบ ราชบุรี เอฟซี ที่ผลงานร้อนฉ่าแบบผิดหูผิดตา มันจึงทำให้พวกเขาจองบ๊วยของตารางในปัจจุบัน
ดังนั้นแมตช์ระหว่าง หนองบัว พิชญ กับ ลำพูน ที่จะแข่งขันกันในวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม จึงเป็นเกมที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะต่างฝ่ายต่างก็ต้องการ 'จุดเปลี่ยน' ที่ทำให้ตัวเองพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ให้ดีขึ้นต่อจากนี้
ที่สำคัญ ไม่ว่าชัยชนะจะตกเป็นของฝ่ายใด มันจะทำให้ตนเองถีบขึ้นไปหายใจได้คล่องคอขึ้น และทำให้อีกฝั่งจมอยู่ในโซนสีแดงเช่นเดิม
[ 4 ] การท่าเรือ จะลบอาถรรพ์เกมเยือนได้หรือไม่
นับถึงตอนนี้ หนสุดท้ายที่ การท่าเรือ เอฟซี เก็บชัยชนะได้ในฐานะ 'ทีมเยือน' ใน ไทยลีก ต้องย้อนกลับไปปี 2021 ที่บุกไปเฉือน หนองบัว พิชญ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน หรือเกือบปีเข้าให้แล้ว
นับจำนวนเกมก็เป็น 12 นัด ติดต่อกันที่สิงห์เจ้าท่ายังไม่สามารถเก็บ 3 คะแนน ได้เลยยามที่ออกไปนอกบ้าน
ด้วยทรัพยากรผู้เล่นที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชุด สบายๆ แถมแต่ละรายยังเป็นนักเตะชั้นนำของลีก พวกเขาจึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ แต่มันจึงไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากว่าฟอร์มในการเล่นนัดเยือนยังคงเป็นเช่นนี้
ในตารางคะแนน การท่าเรือ มีแต้มตามหลัง บุรีรัมย์ อยู่ถึง 9 คะแนน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากทีเดียว ดังนั้นหากหวังจะซิวถ้วย ไทยลีก ที่รอคอยมาแสนนาน พวกเขาจะต้องแก้โจทย์การออกไปเล่นนอกบ้านให้ได้
เกมกับ สุโขทัย ถือว่าสำคัญไม่น้อย เพราะเวลานี้คือช่วง 1 ใน 3 ของซีซั่น หากว่าระยะห่างจากจ่าฝูงถูกขยับไปไกลกว่านี้อีก โอกาสที่สิงห์เจ้าท่าจะได้เชิดหน้าชูตาก็จะริบหรี่ลงไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ทีมค้างคาวไฟดันเป็นทีมที่มีจุดแข็งคือการเล่นที่ ทะเลหลวง สเตเดี้ยม โดยในฤดูกาล 2022-23 พวกเขาเสมอ แบงค็อก และก็ยัดเยียดความปราชัยให้ ราชบุรี ได้เป็นทีมแรกอีกต่างหาก
ฟอร์มแกร่งในรังขนาดนี้ มันจึงเป็นความท้าทายของ การท่าเรือ มากๆ เพราะหากว่าบุกไปเก็บ 3 คะแนน มาได้ มันจะเพิ่มความฮึกเหิมให้พวกเขาอีกมากมายทีเดียว
[ 5 ] ชลบุรี มีโอกาสสะดุดหรือเปล่าเมื่อต้องบุก ราชบุรี
นี่คือการเผชิญหน้ากันของ 2 ทีม ฟอร์มแรงในซีซั่น 2022-23 ราชบุรี ปะทะ ชลบุรี
เจ้าถิ่น - ราชันมังกรกำลังคึกคักเมื่อบุกมาเฉือนชนะ แบงค็อก ในเกมที่กลับมาแข่งกันต่อ และแม้ว่าพวกเขาจะถูกเปิดซิงไปแล้วในฤดูกาลนี้ แต่รูปแบบการเล่นยังไม่แกว่ง ยังคงเหนียวแน่น และแพ้ยากเหมือนเดิม
จุดเด่นของ ราชบุรี คือ 'เกมรับ' ที่แน่นปึ้กมากๆ แถมปราการด่านสุดท้ายอย่าง กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ยังหนึบสุดๆ และมาพร้อมสถิติเซฟมากถึง 88.46 เปอร์เซ็นต์ โดยในนั้นคือการป้องกันจุดโทษได้ 2 หน อีกด้วย
ผลพวงจากผลงานที่ไฉไลของผู้รักษาประตูชาวภูเก็ต ทำให้ทัพราชันคือทีมที่เสียประตูในลีกน้อยที่สุด
ฟากทีมเยือน - ชลบุรี ที่ร้อนแรงซิวชัยมา 6 นัดรวด และผงาดเป็นจ่าฝูงอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนจะมาถูก แบงค็อก บุกไปเฉือนชนะหวุดหวิด
ด้วยความที่ในทีมอุดมไปด้วยผู้เล่นดาวรุ่งที่เติบใหญ่มาจากอะคาเดมี่ของสโมสร มันจึงทำให้น่าสนใจว่าพวกเขาจะยืนระยะกับการแข่งขันที่ยาวไกลได้ดีเพียงใด
โดยเฉพาะกับสถานการณ์ที่เพิ่งสะดุดมาเช่นนี้ - สะสม พบประเสริฐ จะสามารถประคับประคองฉลามหนุ่มให้ไม่หลงคลื่นลมได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อ
ยิ่งต้องมาเจอกับคู่แข่งที่เขี้ยวลากดินอย่าง ราชบุรี แล้วด้วย - ชลบุรี จะผ่านไปได้หรือเปล่า
หากว่าทำสำเร็จ อนาคตที่โชติช่วงรอพวกคุณอยู่ไม่ไกลแน่นอน