บีจี 2 - 2 บียู และรอยยิ้มจากตะวันออกเฉียงเหนือ

บีจี 2 - 2 บียู และรอยยิ้มจากตะวันออกเฉียงเหนือ
ซูเปอร์ บิ๊ก แมตช์ ประจำสัปดาห์ที่ 19 ระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด จบลงด้วยสกอร์ 2-2 ซึ่งแน่นอนว่าผลการแข่งขันของนัดนี้ย่อมส่งต่อไปยังสถานการณ์การลุ้นแชมป์แบบไม่อาจหลีกเลี่ยง

   ก่อนเริ่มเกม อาคันตุกะดูจะเหนื่อยล้าพอสมควร โทษฐานที่ลงเล่นแบบถี่ยิบ เนื่องจากมีโปรแกรม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีม สุดท้าย กับการเผชิญหน้า โยโกฮามะ มะรินอส

   เท่านั้นไม่พอ บียูยังต้องออกไปเยือนทั้ง สุโขทัย เอฟซี ก่อนจะลัดฟ้าสู่ญี่ปุ่น และเล่นอีก 120 นาที ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บเนื้อ

   ด้วยเหตุนี้เอง โฉมหน้า 11 นักเตะตัวจริงในเกมบุก บีจี สเตเดี้ยม จึงไร้ชื่อ มะห์มู๊ด ไอด์ แนวรุกคนสำคัญ ขณะเดียวกัน วิลเลน โมต้า กับ รุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก รวมไปถึง วานแดร์ ลุยซ์ ก็เป็นได้เพียงตัวสำรอง เนื่องจากสภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย

   อย่างไรก็ตาม แท็กติกของ ธชตวัน ศรีปาน ค่อนข้างที่จะลงตัว ผู้เล่นชุดที่สองของ แบงค็อก อาจจะประสิทธิภาพเหลื่อมกับชุดหลัก แต่ก็ไม่ต่างกันนัก มันจึงทำให้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังไงเสีย บียูก็มีทีเด็ดเช่นอยู่พอสมควร

   ผิดกับเจ้าถิ่นที่ผู้สันทัดกรณีและผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลไทย แทบจะงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อได้เห็นไลน์-อัพของ บีจี ปทุม

   มาโกโตะ เทกูระโมริ ส่งเซนเตอร์ฮาล์ฟลงทีเดียว 4 คน โดยที่ไม่มีฟูลแบ็กเลยสักราย แถมแดนกลาง สารัช อยู่เย็น, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล และ กฤษดา กาแมน ก็พร้อมหน้า โดยที่แนวรุกเป็น เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ, ชนาธิป สรงกระสินธ์ ส่วนหัวหอกตัวเป้าคือ ดานิโล่ อัลเวส

   ทุกคนต่างเซอร์ไพรส์ในการจัดทัพแผงหลังของกระต่ายแก้ว แม้แต่ ธชตวัน เองก็ให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันว่าตัวเขาก็แปลกใจที่ บีจี ปทุม มาไม้นี้ จนเกือบจะตั้งลำไม่ทัน เพราะแท็กติกที่ตระเตรียมมามันคนละเรื่องเดียวกันเลย

   โดยปกติ เทกูระโมริ จะนิยมกองหลัง 3 คน แต่เกมนี้เขาใช้คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็น เซย์ดีน เอ็นดิอาเย กับ ชนภัช บัวพันธ์ ส่วนแบ็กสองฝั่งให้ อีร์ฟาน ฟานดี้ ยืนด้านขวา - ฝั่งซ้ายเป็น ชินภัทร ลีเอาะ

   ปรากฏว่าได้ผลดีชะงัด แถมยังออกนำเร็ว 2-0 ตั้งแต่ 12 นาทีแรก ซึ่งก็มาจากลูกโด่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของ บีจี ปทุม นั่นแหละ

   ไม้เด็ดที่ เทกูระโมริ วางไว้ดูเหมือนจะตลบหลัง แบงค็อก จนเสียทรงไปพอสมควร 

   แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่ประตูตีไข่แตกในช่วงทดเวลาครึ่งแรกของ ปกเกล้า อนันต์ ที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป

   ในอีก 45 นาที ของครึ่งหลัง กลายเป็นบียูที่แก้เกมมาดี กระทั่งมาตีเสมอ 2-2 พร้อมกับสถิติหลังเกมที่เหนือกว่าทุกประตู

   ผลการแข่งขันออกมาด้วยการแบ่งแต้มกันไป ซึ่งมันไม่เป็นผลดีต่อทั้ง 2 ฝั่ง - บีจี ปทุม ได้เพิ่มมาคะแนนเดียว ซึ่งก็ตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงอยู่ถึง 8

   ขณะที่ แบงค็อก ก็ไม่อาจทำแต้มไปจี้ปราสาทสายฟ้าได้ใกล้เคียงกว่านี้ แม้จะมีแมตช์ในมืออีก 1 เกม แต่ก็ใช่ว่าจะการันตี 3 คะแนน ซะที่ไหน

   ที่สำคัญ วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม พวกเขาก็ต้องยกพลบุก ช้าง อารีน่า เพื่อทำศึก 'ชี้แชมป์' ของฤดูกาล 2023-24 กับ บุรีรัมย์ อีกต่างหาก

   ดังนั้นคะแนนเดียวที่ได้จาก บีจี สเตเดี้ยม ในมุมหนึ่งอาจจะดูน่าพอใจ แต่ลึกๆ แล้วมันไม่ใช่ผลดีสำหรับ แบงค็อก สักเท่าไหร่ 

   ไปๆ มาๆ จากที่เคยนำโด่งเป็นจ่าฝูงติดต่อกันถึง 8 สัปดาห์ กลับกลายเป็นว่าวีคหน้าจะเป็นตัวกำหนดว่า 'แชมป์' ไทยลีก จะยังอยู่ที่ บุรีรัมย์ หรือจะข้ามฟากกลับสู่พระนครอีกครั้ง

   ผลเสมอของ บีจี ปทุม และ แบงค็อก มันจึงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับทั้งคู่จริงๆ แต่การเจ๊ากันของยักษ์ใหญ่แห่งย่านรังสิต-ปทุมธานีนั้นทำให้สโมสรชื่อดังจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 'ยิ้มในใจ' เพราะทุกอย่างค่อยๆ เข้าทางทีละนิด

   แม้จะยังมีบิ๊กทีมจากคลองเตย ที่ไม่อาจประมาทได้ ทว่า ณ ปัจจุบันขณะ ยังไงเสียสโมสรชั้นนำแห่งแดนอีสานก็ภาษีดีกว่าใครเพื่อน กับฟอร์มที่ร้อนระอุ, แข้งต่างชาติที่ย้ายเข้ามาก็ระดับพรีเมียม และที่สำคัญ 'ประสบการณ์' การลุ้นแชมป์ก็สุดแสนจะเขี้ยวลากดิน

    บีจี 2 - 2 บียู และรอยยิ้มจากตะวันออกเฉียงเหนือ

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport